posttoday

กสทช.เร่งตรวจชื่อ โมบาย แบงก์กิ้ง ภายใน 120 หากไม่ตรงกับซิมการ์ด ระงับทันที

18 พฤษภาคม 2567

กสทช.รับนโยบายปราบบัญชีม้า เร่งตรวจสอบเบอร์มือถือที่ผูกกับระบบ โมบาย แบงก์กิ้ง 106 ล้านบัญชี เริ่ม 27 พ.ค.67 ต้องเสร็จภายใน 120 วัน หากรายชื่อให้ตรงกับการจดทะเบียนซิม ส่งข้อมูลให้ธนาคารและ ปปง.ระงับใช้บริการ

พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกฎหมาย และประธานอนุกรรมการบูรณาการ บังคับใช้กฎหมายความ ผิดทางเทคโนโลยีฯ  เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลมีนโยบายปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ โดยมอบหมายให้ สำนักงาน กสทช. ตรวจสอบเบอร์มือถือที่ผูกกับระบบ โมบาย แบงก์กิ้ง จำนวนประมาณ 106 ล้านบัญชี   โดยชื่อบัญชีต้องตรงกับชื่อจดทะเบียนซิมการ์ด เพื่อสกัดบัญชีม้าในระบบนั้น  

สำนักงานฯ จะเร่งดำเนินการ โดยหลักการทำงานในการตรวจสอบนั้นทาง ธนาคารพาณิชย์ และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การฟอกเงิน (ปปง.) จะเป็นผู้รวบรวมบัญชีมาให้กับ สำนักงาน กสทช. และ ผู้ให้บริการมือถือ(โอปอเรเตอร์)  ที่มีฐานข้อมูลรายชื่อการใช้บริการมือถืออยู่แล้ว ในการตรวจสอบว่าตรงกันหรือไม่ ซึ่งกำหนดระยะเวลาให้แล้วเสร็จใน 120 วัน เริ่มจากวันที่ 27 พ.ค. จากนั้นจะส่งข้อมูลกลับไปให้ทาง ธนาคารพาณิชย์ และ ปปง. เพื่อดำเนินการแจ้งเจ้าของบัญชีที่ไม่ตรง ให้ดำเนินการปรับข้อมูลให้ถูกต้องในระยะเวลาที่กำหนด แต่หากยังไม่ดำเนินการทางธนาคารและ ปปง. ก็จะพิจารณาวีธีการระงับการใช้งานต่อไป

อย่างไรก็ตาม กสทช.มีฐานข้อมูลผู้ใช้งานผู้ลงทะเบียนมือถืออยู่แล้ว  เช่น ในแอปพลิเคชัน 3 แชะ ที่ตรวจสอบได้ว่าชื่อหนึ่ง มีการลงทะเบียนไว้กี่เบอร์ แต่ต้องนำฐานข้อมูลการใช้งานบัญชีโมบายแบงก์กิ้งของธนาคารมาตรจสอบว่าตรงกันหรือไม่ หากไม่ตรงต้องส่งข้อมูลกลับไปให้ ธนาคาร และ ปปง. พิจารณาดำเนินการต่อไป 

เรื่องนี้ต้องมีความระมัดระวัง เพราะเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล หรือ พีดีพีเอ ต้องดำเนินการด้วยความรอบครอบ  แม้ว่า ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 มาตรา 4  ได้กำหนดให้ ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีหรืออาจมีการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจ มีหน้าที่เปิดเผยหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าระหว่างกันได้ ก็ตาม

พล.ต.อ.ณัฐธร  กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ทางอนุกรรมการบูรณาการ บังคับใช้กฎหมายความ ผิดทางเทคโนโลยีฯ จะมีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ในวันอังคารที่ 21 พ.ค.นี้ เพื่อกำหนดแนวทางและวีธีการในการดำเนินการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด