posttoday

พิชัย เตรียมพบผู้ว่าฯแบงก์ชาติ พรุ่งนี้(16พ.ค.67)

15 พฤษภาคม 2567

พิชัย รมว.คลัง เผยเตรียมหารือผู้ว่าแบงก์ชาติ เพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกัน ถึงแนวนโยบายการเงิน การคลัง ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนการแบ่งงานใหม่ อยากคุมเพิ่มกรมบัญชีกลางกรมเดียว เพื่อมีเวลาไปดัน EEC

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เวลา 10.00 น. วันพรุ่งนี้(16 พ.ค.2567) ตนมีนัดหารือกับนาย เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(แบงก์ชาติ) เพื่อพูดคุยถึงนวทางในการดำเนินนโยบายการเงิน และนโยบายการคลังในการดูแลเศรษฐกิจประเทศให้มีความสอดคล้องและปรับความเห็นให้ตรงกัน 


“ ส่วนเรื่องการไปพบท่านผู้ว่าฯการแบงก์ชาติ เดี๋ยวจะแจ้งอีกครั้ง ก็น่าจะใช่พรุ่งนี้” นายพิชัย กล่าว


นายพิชัย กล่าวถึงการแบ่งงานใหม่ หลังจากที่นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง ลาออก ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการแบ่งงานใหม่ ผมต้องการดูแลกรมบัญชีกลางเพียงกรมเดียวเท่านั้น เพื่อให้มีเวลาประชุมงานที่เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(EEC) ที่ขับเคลื่อนและเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งอยากได้บุคคลที่มีความเก่ง และเชียวชาญมาช่วยงานตรงนี้อีก 1 ท่าน ส่วนหน่วยงานที่อื่นๆที่เหลือต้องการให้รัฐมนตรีช่วย ทั้ง 2 ท่านเป็นผู้ดูแล 


 

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง กล่าวว่า การทำนโยบายการคลังจำเป็นจะต้องสอดคล้องกับนโยบายการเงิน ส่วนความสัมพันธ์กับแบงก์ชาติ นั้น เป็นสิ่งสำคัญ ต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ละมุนละม่อม ต้องทำงานร่วมกันให้ได้ ต้องเติมเต็มซึ่งกันและกัน รวมถึงต้องไปด้วยกันให้ได้ ขณะที่ในส่วนของกระทรวงการคลังเองก็ต้องยืนหยัดอยู่บนหลักการของนโยบายการคลังว่าเรามีหลักคิดอย่างไร ต้องยึดมั่น แต่ก็ต้องทำงานร่วมกันกับ ธปท. ให้ได้ 

 

 “จุดต่างของคลัง และ ธปท. คือ การประเมินเศรษฐกิจที่ยังไม่ตรงกัน ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยการคุยกันบ่อยๆ และคุยกันในเชิงประสิทธิภาพ เพื่อทำให้สามารถมองเศรษฐกิจได้ใกล้เคียงกัน ว่าปัจจุบันเศรษฐกิจอยู่ในสถานภาพไหน ซึ่งผมเชื่อว่าถ้ามองเศรษฐกิจในสถานภาพที่ตรงกัน ก็จะทำให้มีนโยบายการคลังและนโยบายการเงินที่เหยียบคันเร่ง และเหยียบเบรกได้พร้อมกันมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันยังต้องมีการคุยกันให้มากขึ้น และมองว่าเป็นเรื่องปกติที่ฝั่งการคลังและฝั่งการเงินจะต้องมีการหารือร่วมกัน” นายเผ่าภูมิ กล่าว