“ประเสริฐ” ย้ำ รัฐบาลรักษาวงโคจรดาวเทียมถึงที่สุด คาดกสทช.เร่งประมูลปีนี้

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า กระทรวงดีอี จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาประชุมเพื่อหารือถึงเรื่องการรักษาวงโคจรดาวเทียมประจำที่ ในตำแหน่งวงโคจร 50.5 , 51 และ 142 องศาตะวันออก  ที่ประเทศไทยได้จองสิทธิการใช้วงโคจรมาจากสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ( ไอทียู)  หลังจากการจัดประมูลใบอนุญาตให้ใช้สิทธิเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม โดยสำนักงานคณะกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคม แห่งชาติ( กสทช.) ตั้งแต่เดือน ม.ค.66 ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีเอกชนรายใดสนใจ ดังนั้นกสทช.จึงมีความพยายามในการจัดประมูลวงโคจรที่เหลืออีกครั้งหนึ่ง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของประเทศไทยว่าต้องการรักษาวงโคจรดังกล่าวไว้จนถึงที่สุดแล้ว หากสุดท้ายแล้วไม่มีเอกชนรายใดสนใจอีก ก็คงต้องคืนวงโคจรให้กับไอทียู

หากเป็นเช่นนั้นจริง ต้องทำความเข้าใจกับสังคมอย่างละเอียดว่าที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำอย่างเต็มที่ และได้เปิดประมูลแล้ว ราคาก็ไม่ได้แพงเหมือนในอดีต แต่ก็ยังไม่มีเอกชนสนใจ ตอนนี้ กสทช. กำลังเร่งเปิดประมูลอีกครั้งภายในปีนี้ โดยได้ปรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขคุณสมบัติเพื่อจูงใจ ให้เอกชนสนใจเข้าร่วมประมูลมากขึ้น ต้องรอดูว่าจะมีเอกชนสนใจหรือไม่ ซึ่งทางดีอีจะมีการหารือเพื่อดำเนินการเรื่องนี้อย่างดีที่สุด

นายประเสริฐ กล่าวว่า ตำแหน่งวงโคจรที่ยังประมูลไม่ออก เนื่องจากอยู่ในตำแหน่งแถบทะเลคาริเบียน และตะวันออกกลาง พื้นที่ให้บริการไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ทำให้การหาลูกค้าทำได้ยาก และคู่แข่งต่างประเทศมีหลายราย จึงยังไม่มีเอกชนสนใจ ประมูลไปทำธุรกิจ ซึ่งได้ให้คำแนะนำหน่วยงานต่างๆ ทั้งของภาครัฐที่กำหนดนโยบาย และ กสทช. ซึ่งเป็นผู้จัดประมูล และให้ใบอนุญาตไปว่า ให้พยายามดำเนินการให้ถึงที่สุดก่อน ทั้งเรื่องการปรับเปลี่ยนเกณฑ์การประมูล หรือ จะสามารถจะมีวิธีที่จูงใจเอกชน ให้สนใจเข้าร่วมประมูลให้ได้ เพื่อรักษาวงโคจรดังกล่าวของไทยไว้ไม่ให้ถูกไอทียู เรียกคืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  คณะอนุกรรมการด้านกิจการดาวเทียม  ของ สำนักงาน กสทช.  ได้มีการประชุม และได้พิจารณา การปรับปรุง (ร่าง) ประกาศฯ หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม ในลักษณะจัดชุด (แพ็กเกจ) ในสองวงโคจรที่ยังประมูลไม่ออกไป เมื่อกลางเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา โดยมีสาระสำคัญ อาทิ  ยังคงใช้วิธีการ ประมูล โดยมีราคาขั้นต้นที่ปรับในส่วนของราคาโอกาสในการทำธุรกิจออก ให้เหลือเฉพาะต้นทุนที่รัฐได้ใช้ไปในการได้ข่ายงานดังกล่าว และมีการเสนอทางเลือกที่ 1 คือ การใช้ราคารูปแบบเคาะราคา เช่นเดิม หรือ ทางเลือกที่ 2 คือ การเสนออัตราผลตอบแทนให้กับรัฐ เป็นเปอร์เซ็นต์ โดยมีขั้นต่ำเริ่มที่ 2.5%   เป็นต้น โดยทาง สำนักงาน กสทช. จะนำ ร่างประกาศฯ ที่ได้ปรับปรุงนี้ นำเสนอต่อที่ประชุม บอร์ด กสทช.ในเร็วๆนี้  เพื่อพิจารณาเห็นชอบอนุมัติต่อไป เพื่อให้สามารถจัดประมูลดาวเทียมวงโคจรที่เหลือให้ได้ภายในปีนี้