posttoday

ด่วน ออกหมายจับ “วนรัชต์” ผู้ถือหุ้นใหญ่คดี "STARK"

10 กุมภาพันธ์ 2567

DSI เปิดเผยว่า  เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ DSI ได้เดินทางไปศาลอาญาเพื่อขอให้ศาลออกหมายจับนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ผู้ต้องหาคดีทุจริตในบริษัท “STARK” ที่ไม่เข้ามาฟังคำสั่งของพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ 1 เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา

ล่าสุดศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ผู้ต้องหาในคดีทุจริตใน บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STARK เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ทาง DSI อยู่ระหว่างดำเนินการตามหมายจับ

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมานายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ได้ประสานผ่านทนายความขอเลื่อนเข้าพบพนักงานอัยการ โดยให้เหตุผลว่ามีอาการเจ็บป่วยกะทันหัน ทางสำนักงานอัยการคดีพิเศษ1 จึงมีหนังสือด่วนที่สุด ถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ติดตามตัวนายวนรัชต์ มารับฟังคำสั่งฟ้อง

หนังสือด่วนที่สุด ระบุว่า พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 ได้พิจารณาสำนวนคดีดังกล่าวแล้วมีคำสั่งฟ้อง นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ผู้ต้องหาที่ 2 ในความผิดฐานเป็นกรรมการหรือผู้บริหารบริษัทกระทำโดยทุจริต ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต ตามมาตรา 89/7

จนเป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหายหรือทำให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์จากการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ในการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการบริษัทย่อยและผู้บริหารบริษัทย่อย , กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลใดตาม พ.ร.บ.นี้ โดยทุจริต

ร่วมกันหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จแก่ประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากประชาชนผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ประชาชนผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สามทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ , กรรมการ ผู้จัดการหรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลใดตาม พ.ร.บ.นี้ กระทำหรือยินยอมให้กระทำ

(1) ทำให้เสียหาย ทำลาย เปลี่ยนแปลง ตัดทอน หรือปลอมบัญชีเอกสาร หรือหลักประกันของนิติบุคคลดังกล่าว หรือที่เกี่ยวกับนิติบุคคลดังกล่าว

(2) ลงข้อความเท็จหรือไม่ลงข้อความสำคัญในบัญชีหรือเอกสารของนิติบุคคลหรือที่เกี่ยวกับนิติบุคคลนั้น

หรือ (3) ทำบัญชีไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบันหรือไม่ตรงต่อความเป็นจริงถ้ากระทำหรือยินยอมให้กระทำเพื่อลวงให้นิติบุคคลดังกล่าวหรือผู้ถือหุ้นขาดประโยชน์อันควรได้หรือลวงบุคคลใดๆ ร่วมกันโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สาม ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 41, 343

แต่เนื่องจากนายวนรัชต์ ผู้ต้องหาที่ 2 หลบหนี ไม่มารายงานตัวตามกำหนดนัด จึงขอให้ท่านจัดการติดตามให้ได้ตัวผู้ต้องหามาฟ้องภายในอายุความ 15 ปีนับแต่วันกระทำความผิด และหากตรวจสอบแล้วพบว่าผู้ต้องหาที่ 2 อยู่ต่างประเทศ ให้จัดการให้ได้ตัวมาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 141วรรคท้าย (ส่งผู้ร้ายข้ามแดน) โดยให้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาโดยเคร่งครัด และตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดให้ครบถ้วน

สำหรับคดีทุจริตใน STARK มา พนักงานอัยการฯได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาในคดีทุจริต STARK ไปเเล้ว 7 ราย ล่าสุดเมื่อวานนี้(9ก.พ.2567) ได้ยื่นฟ้องต่อศาลเพิ่มเติมอีก 2 ราย นางสาวยสบวร อำมฤต และนายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐ ในความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชนฯ ข้อหายักยอกทรัพย์ และข้อหาฟอกเงิน

โดยได้กิตติศักดิ์ได้ยื่นขอประกันตัว แต่ศาลได้มีคำสั่งยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราว เนื่องจากเห็นว่า คดีนี้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนจำนวนมาก มีผลกระทบต่อเศษฐกิจในวงกว้าง และมีมูลค่าความเสียหายสูง เป็นกรณีร้ายแรง หากปล่อยชั่วคราว มีเหตุอันควรเชื่อว่าจะหลบหนี ศาลฯจึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ส่วนนางสาวยสบวร ไม่ได้ยื่นประกันขอประกันตัว เจ้าหน้าที่ฯได้ควบคุมตัวทั้ง 2 รายไปยังเรือนจำ