พัฒนา AI ยกระดับ ZORT SELLER MANAGEMENT PLATFORM พร้อมเข้าตลาดหุ้นปี 2569

ราว 8 ปีก่อนหลัง สวภพ ท้วมแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท ซอร์ทเอาท์ จำกัด (ZORT) ตัดสินใจริเริ่มสตาร์ทอัพของตัวเองขึ้น หลังเผชิญ pain point ที่เจ้าของร้านขายของต้องพบเจอกับการบริหารจัดดการงานหลังบ้าน เมื่อครั้งที่เขาเปิดร้านขายของในห้างสรรพสินค้า รวมถึงหลังผ่านประสบการณ์จากการริเริ่มสตาร์ทอัพที่พัฒนาระบบบัญชีแห่งแรกมาก่อน

กระทั่งได้รับข้อเสนอให้พัฒนาระบบงานขายให้แก่เพื่อน จึงจุดประกายให้พัฒนา ZORT SELLER MANAGEMENT PLATFORM เพื่อให้ผู้ใช้งานหรือเจ้าของธุรกิจทั่วไปได้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ของเขาด้วย

ตอนที่เปิดร้านผมจ้างพนักงานหน้าร้านมาช่วย จึงใช้ไฟล์ excel โยนเข้าไปใน dropbox เป็น tools ในการจัดการต่าง ๆ แล้วให้พนักงานใส่ข้อมูลให้ ทำให้ได้ตัวเลขถูกบ้างผิดบ้าง บางทีก็เงินหาย หรือสต็อกขาดบ้าง จึงเป็น pain point ที่เราต้องเจอ แล้วตอนหลังมีเพื่อนมาขอให้ช่วยทำระบบการขาย จึงมองว่าทำไมไม่สร้าง product ให้คนอื่น ๆ ได้ใช้ด้วย พอจะทำกิจการของตัวเอง ก็เลยเลือกที่จะพัฒนาแพลตฟอร์ม เพื่อมาช่วยงานหลังบ้านให้เจ้าของร้านขึ้นมา" 

สำหรับ ZORT SELLER MANAGEMENT PLATFORM ในระยะแรกใช้เวลาพัฒนาอยู่ราว 3-4 เดือน ก็สามารถปล่อยเวอร์ชั่นแรกหรือ ZORT ระบบจัดออเดอร์และสต๊อกเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจ ออกมาให้เจ้าของร้านที่รู้จักกันทดลองใช้ฟรีอยู่ 6-7 เดือน ซึ่งได้มีการพัฒนาเพิ่มเติมเรื่อย ๆ จากคำแนะนำที่ได้รับจากผู้ใช้งานระยะทดลอง ซึ่งภายหลังต่อยอดไปเชื่อมกับ Market Place ต่าง ๆ จึงทำให้แพลตฟอร์มของ ZORT สามารถบริหารจัดการและรองรับร้านค้าได้หลายช่องทาง ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ 

อย่างไรก็ตาม พัฒนาการที่สำคัญของ ZORT เริ่มอีกครั้งในปี 2559 ที่ได้รับทุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ในรอบของ Pre-Seed Funding และยังได้รับเงินทุกจากโครงการ Startup -Voucher (สวทช.) ด้วย รวมถึงต่อยอดโดยร่วมมือกับพันธมิตร ได้แก่ LAZADA, Woo Commerce, Shopify, Magento, Thaipost, Azure พร้อมพัฒนาระมบ ZORT Andriod

แต่จุดที่ทำให้  ZORT SELLER MANAGEMENT PLATFORM สร้าง ecosystem ของระบบการขายได้ครบวงจรขึ้นหลัง นำโมเดล Dropship มาใช้ รวมถึงเพิ่มพันธมิตรใหม่มาเติมเต็มเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับมีนักลงทุนใส่ Seed Funding และ Startup -Voucher (สวทช.) มาสนับสนุนบริษัทอีกในปีต่อ ๆ มา กระทั่งปี 2564 ได้รับเงินลงทุนในรอบของ Serie-A ที่วงเงินถึง 55 ล้านบาท

โดยสวภพเน้นย้ำว่า จุดหนึ่งที่ทำให้ ZORT ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วง Pre_Seed Funding เพื่อนำมาขยายธุรกิจ น่าจะมาจากตัวผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้และมีแนวทางที่ชัดเจนตั้งแต่แรก แต่ปัจจัยสำคัญที่สุดน่าจะเริ่มจาก "ความกล้า" ที่เขาเลือกเดินออกจาก comfort zone มามุ่งมั่นพัฒนาแพลตฟอร์มอย่างจริงจัง และตั้งกิจการสตาร์ทอัพด้วยน้ำพักน้ำแรงและทุนของตัวเองก่อน 

ผมว่าต้องโฟกัส ถ้าไม่โฟกัส ไม่มีทางที่จะสำเร็จ

อย่างไรก็ตาม สวภพมองว่ากุญแจสำคัญที่ทำให้ ZORT เติบโตและขยายธุรกิจจนยืนได้มั่นคง ซึ่งพร้อมที่จะไปต่อตามเป้าหมายเป็นบริษัทมหาชนในอนาคตนั้น มาจาการที่พัฒนาในทุกส่วนอย่างสม่ำเสมอ ทั้งตัวผลิตภัณฑ์ที่เป็นตามกระแสการเปลี่ยนแปลงของตลาด และทีมงาน ซึ่งมี mindset ที่พร้อมปรับตัวอย่างรวดเร็ว ที่ส่งผ่านมาตั้งแต่ระดับผู้บริหารจนถึงทีมงานโดยรวม เพื่อให้มองไปที่จุดหมายเดียวกัน

ที่สวภพยืนยันว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ก็ต้องผ่านประสบการณ์ลองผิดลองถูกมาก่อน และการเรียนรู้จากข้อผิดพลาดในอดีตก็ทำให้ผ่านพ้นมาได้  โดยเฉพาะการคัดเลือกคนที่ลงตัวกับทีมงานโดยรวมเพื่อไม่สร้างผลกระทบเชิงลบกับการทำงาน และบริหารการเงินอย่างระมัดระวัง

ความผิดพลาดของการเลือกคนผิด จนมาสร้าง toxic ในองค์กร ก็มองเป็น learning ซึ่งการเลือกคนสำคัญมาก เพราะ asset ของธุรกิจเรา คือคน 

ปัจจุบัน ZORT SELLER MANAGEMENT PLATFORM เป็นระบบจัดการร้านค้า ที่จะจัดการสต๊อกสินค้าไปยังช่องทางจำหน่ายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงจัดการออเดอร์จากทุกช่องทางไว้ในที่เดียว โดย ZORT มุ่งเน้นสร้าง ecosystem อย่างครบวงจร ทำให้สามารถลดต้นทุน ได้มากกว่าระบบจัดการปกติ ให้แก่ทั้งร้านค้าออนไลน์ และออฟไลน์ อีกทั้งยัง Provide Solution ตั้งแต่ระบบจัดการสต๊อกจน ไปถึงระบบจัดการบัญชี ให้ผู้ใช้บริการเห็นภาพรวมธุรกิจ เพื่อการพัฒนาแบบไร้ขีดจำกัดที่รวมไว้ในจุดเดียว

สำหรับคุณสมบัติสำคัญที่  ZORT SELLER MANAGEMENT PLATFORM สามารถตอบโจทย์ความต้องการหลัก ๆ ของลูกค้า ได้แก่ 

มีระบบเชื่อมต่อและจัดการออเดอร์หลายช่องทาง - จัดการออเดอร์ทุกช่องทางการขายอย่างชาญฉลาด รวมไว้ในที่เดียว

ระบบจัดการสต๊อก - อัพเดทสต๊อกสินค้าแบบ Real-Time

ระบบชำระเงิน - รองรับทุกรูปแบบการชำระเงิน

ระบบ Fulfillment - ลดต้นทุน ลดความผิดพลาด และลดค่าใช้จ่ายแฝง ด้วยระบบคลังสินค้าครบวงจร

ระบบขนส่ง -  เชื่อมต่อระบบขนส่งชั้นนำทั่วประเทศด้วยราคาที่ดีที่สุด

ระบบจัดการบัญชี - มองเห็นภาพรวมธุรกิจ ผ่านระบบจัดการบัญชีอัจฉริยะ ช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

จุดเด่นเราคือเป็น multi-channel จริง ๆ คือลูกค้าที่ใช้ระบบเราเป็นได้ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ ในอนาคตถ้าจะขยายไปบนโซเชียก็สามารถทำได้แบบไม่กี่คลิก เพราะตัวระบบพร้อมอยู่แล้วแบบไร้รอยต่อแบบ O2O 

โดย ZORT SELLER MANAGEMENT PLATFORM สามารถลดต้นทุนให้ผู้ใช้งานได้ถึง 30% และล่าสุดมีผู้ใช้งานแล้ว 3,500 ธูรกิจ ซึ่งมีรายได้เฉลี่ยนที่ราว 12 ล้านบาท/ปี โดยเป็นลูกค้ากลุ่มนิติบุคคลที่ 70% และรายบุคคลที่ 30% ทั้งนี้ล่าสุดมีจำนวนรายการขายรวม 94.6 ล้านรายการ และยอดขายรวม 157,433 ล้านบาท อย่างไรก็ตามด้วยกระแสเรื่องการจัดเก็บภาษีเข้มงวดขึ้นทำให้เกือบ 90% ของลูกค้าใหม่ที่เข้ามาเป็นกลุ่มนิติบุคคคลเป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม แม้ธุรกิจของ ZORT จะเติบโตแข็งแรงระดับหนึ่ง แต่เป้าหมายสำคัญของบริษัทที่จะเกื้อหนุนให้ขยายกิจการในอนาคตได้คือการเตรียมตัว เพื่อเดินหน้าเข้าสู่การเป็นบริษัทมหาชนและระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ภายในปี 2569 

โดยสวภพเน้นย้ำว่ารากฐานที่ส่งให้บริษัทไปถึงจุดนั้นได้ ต้องเริ่มตรงมีรายได้ที่เติบโตต่อเนื่อง  โดยมีปัจจัยหลักมาจากการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน เช่นเดียวกับการขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมในอนาคต

พัฒนา AI  - ขยายไปฟิลิปปินส์

สวภพเล่าถึงแนวทางที่ต้องการยกระดับผลิตภัณฑ์ ZORT SELLER MANAGEMENT PLATFORM อย่างต่อเนื่องอีกว่า นอกจากเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อมุ่งเน้นให้ลูกค้า/ผู้ใช้งานสามารถขยายการเติบโตของธุรกิจได้แล้ว ยังให้ความสำคัญกับกระแสเทคโนโลยีปํญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial intelligence)  ที่กำลังมาแรงและเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับโลกธูรกิจในอนาคต ซึ่งต้องการให้ AI มาเสริมศักยภาพด้านการวิเคราะห์ข้อมูลให้ลูกค้าสามารถนำไปใช้เพื่อการตัดสินใจและต่อยอด เพื่อวางกลยุทธ์ธุรกิจได้ แต่ยังต้องใช้เวลานการพัฒนาเครื่องมือสักระยะ 

ตอนนี้เรากำลังพัฒนาระบบ เพื่อนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการวิเคราะห์และทำรายงานข้อมูลให้ลูกค้าซึ่งจะ advance มากกว่าเดิม เพื่อให้นำไปใช้ตัดสินใจและวางแผนธุรกิจต่อ เช่น เป็นเหมือนคาดการณ์ได้ว่า ถ้าสินค้าแบบนี้ขายดี ควรจะต้องสั่งเพิ่มในช่วงเวลาไหน ทำให้ลูกค้าไม่ต้องมานั่งคิดเองแล้วว่า เดือนหน้าจะสั่งอะไร ช่องทางไหนควรทำอะไรแบบไหน คือสิ่งที่เราจะเพิ่ม value ให้กับลูกค้าของเรา

นอกจากนี้เพื่อให้ ZORT สามารถขยายการเติบโตของธุรกิจจากกิจการสตาร์ทอัพสู่บริษัทมหาชนได้ตามที่วางไว้ สวภพยืนยันว่าการไปเปิดตลาดต่างประเทศก็เป็นอีกกลยุทธ์สำคัญ บริษัทจึงเริ่มศึกษาตลาดเพื่อนบ้านในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่เกือบ  2 ปีที่ผ่านมา

โดยพบว่าฟิลิปปินส์จะเป็นเป้าหมายที่บริษัทเลือกจะไปลงหลักปักฐานอย่างเป็นทางการภายในปีนี้ ด้วยมองว่าพฤติกรรมผู้บริโภคและภาพรวมมีลักษณะใกล้เคียงกับเมืองไทยมากที่สุด ที่สำคัญธุรกิจ e-commerce โดยรวมยังอยู่บนแพลตฟอร์มหลัก ๆ เช่น Lazada Shopee เช่นเดียวกับในไทยด้วย  

สวภพขยายความต่อว่า พฤติกรรมผู้บริโภคทางด้าน e-commerce ของฟิลิปปินส์คล้ายกับไทยมาก เช่นเดียวกับที่มีจำนวน SME มากพอ ๆ กันไทย แต่ในระยะแรกจะเริ่มจากทีมงานเล็ก ๆ ก่อน ทั้งนี้หากสามารถขยายตลาดที่ฟิลิปปินส์ตามเป้าหมายมีผู้ใช้งานที่ 1,000 ธุรกิจภายใน 2 ปี ก็จะนำบทเรียนที่ได้ไปต่อยอดและนำไปใช้กับการเปิดตลาดต่างประเทศอื่น ๆ ต่อไป 

สำหรับสตาร์ทอัพที่ยังสู้อยู่และคาดหวังที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สวภพแนะนำ 2 ข้อคิดหลักว่า หนึ่งคือ ต้องให้ความสำคัญกับลูกค้า นั่นคือต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างมากก่อน ซึ่งจะยึดความคิดตัวเองเป็นใหญ่ไม่ได้  อันที่สองคือถึงจุดหนึ่งต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาทีม เพื่อให้สามารถเติบโตได้เองและเติบโตไปด้วยกันกับบริษัท ซึ่งสุดท้ายหากทีมงานบางคนเติบโตถึงจุดหนึ่งก็อาจต้องยอมปล่อยไป