posttoday

เทคซอส ปักหมุด 3-5 ปี ดันไทยสู่ Digital Gateway แห่งอาเซียน

07 มิถุนายน 2566

เทคซอส จับมือพันธมิตร ดันสตาร์ทอัพไทยสู่เวทีระดับโลก พร้อมดึงเม็ดเงินต่างประเทศเข้าไทย ตั้งเป้าภายใน 3-5 ปี ประเทศไทยต้องเป็น Digital Gateway แห่งอาเซียน เล็งประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวียเป็นตลาดเป้าหมายแรก

อรนุช เลิศสุวรรณกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด กล่าวว่า เทคซอส พร้อมเดินหน้าผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น Digital Gateway แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน ให้เป็นรูปธรรมภายใน 3-5 ปี ให้ได้ เพื่อดึงเม็ดเงินลงทุนด้านนวัตกรรมให้เข้ามาในประเทศไทย พร้อมทั้งต้องทำให้สตาร์ทอัปของคนไทยได้ออกสู่ตลาดโลกด้วย 

โดยเริ่มจากการผสานความร่วมมือกับองค์กรชั้นนำที่มีแนวคิดเดียวกันกับ เทคซอส ทั้งจากประเทศไทยและต่างประเทศในการขับเคลื่อน Digital Economyให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนในมิติที่แตกต่างกัน ตามความเชี่ยวชาญและบริบทของพันธมิตรต่าง ๆ

ทั้งนี้การที่จะทำให้ประเทศไทยเป็น Digital Gateway ในระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างเป็นรูปธรรม ส่วนสำคัญคือการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนเพื่อดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศให้เข้ามาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย (Inbound)

โดยอีกบทบาทของ เทคซอส คือการร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ในการผลักดันให้เกิดการส่งออกนวัตกรรมไทยสู่ตลาดโลก รวมถึงการจับมือกับพันธมิตรในประเทศอื่นๆที่อยู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อทำให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะเติบโตและสามารถขยายออกไปนอกภูมิภาคได้เช่นกัน (Outbound) ซึ่ง เทคซอส มองประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวียเป็นตลาดเป้าหมายแรก

จากการสำรวจพบว่า เม็ดเงินลงทุนให้กับสตาร์ทอัพในอาเซียนในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาพบว่า ส่วนใหญ่ลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านของไทย โดยลงทุนที่สิงคโปร์มากที่สุดคือ 5.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาคือ อินโดนีเซีย 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เวียดนาม 0.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ มาเลเซีย 0.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่การลงทุนในประเทศไทยมีเพียง 0.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ เท่านั้น 

นอกจากนี้จากการสำรวจยังพบอีกว่า จำนวนรอบการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านมีมากกว่าประเทศไทย คือ สิงคโปร์ 329 รอบ อินโดนีเซีย 224 รอบ เวียดนาม 69 รอบ มาเลเซีย 40 รอบ และกัมพูชา 1 รอบ ดังนั้น ประเทศไทยต้องมีวิธีในการดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาในประเทศไทยให้มากที่สุด 

อย่างไรก็ตาม ในปีที่ผ่านมา เทคซอส ได้เริ่มโครงการ Thailand Accelerator เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ Tech Startup และถือเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างผู้ประกอบการและนักลงทุนจากทั่วโลกที่ต้องการขยายธุรกิจและฐานการผลิตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการดำเนินการที่จะขับเคลื่อนไปสู่วิสัยทัศน์การผลักดันประเทศไทยให้เป็น “Digital Gateway”

เทคซอส มีการประกาศความร่วมมือในระยะแรกกับบริษัทพันธมิตรอย่าง SCG – บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน),บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน), และ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย ที่มีความเชี่ยวชาญและพร้อมสนับสนุนในมิติต่าง ๆซึ่งถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญของการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น Digital Gateway แห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ดังนั้นเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปสู่การเป็น Digital Gateway แห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เทคซอส เชื่อว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนในการพัฒนา Digital Economyไทยให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยมี Techsauce Global Summit 2023 เป็นพื้นที่เปิดกว้างที่สนับสนุนให้ทุกภาคส่วนสามารถแสดงศักยภาพและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ รวมถึง Techsauce Media ที่จะช่วยสื่อสารและสร้างการรับรู้อย่างครบวงจร

สำหรับงาน “Techsauce Global Summit 2023”งานประชุมด้านเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียที่จะเชื่อมต่อโอกาสการลงทุนและจุดประกายความร่วมมือทางธุรกิจให้กับองค์กรจากภาครัฐและเอกชนบริษัทนานาชาติ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพไทยในทุกระดับ โดยจะจัดขึ้นภายใต้ธีม ‘Social Impact, Climate Tech, Cutting Edge Technology’ ชูความหลากหลายทางประเด็นที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น พร้อมขนทัพ Speaker ที่มาจากองค์กรชั้นนำ อาทิ เอสซีจี - บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน),บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน), เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย, บริษัท แอคซอน จำกัด, บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด,

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), บริษัท ทรู ดิจิทัล พาร์ค จำกัด, บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด, และบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด รวมถึงองค์กรชั้นนำอีกมากมายทั้งในประเทศไทยและระดับโลก โดยจะจัดขึ้นวันที่  16 – 17 ส.ค. 2566 ณ ศูนย์ประแห่งชาติชุมสิริกิติ์