เปิดให้ยืนยันตัว บัตรสวัสดิการฯ ในวันหยุดวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่ 11 มี.ค.

โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กระทรวงการคลัง ได้ประกาศให้ธนาคารของรัฐฯได้แก่ ธนาคารออมสิน ,ธนาคารกรุงไทย และ ธ.ก.ส. ที่มีสาขาในห้าง ให้เปิดบริการยืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในช่วงวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ โดยธนาคารในห้างจะเริ่มเปิดบริการยืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในช่วงวันหยุด ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 11 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป

 

 

สำหรับประชาชนที่ต้องการยืนยันตัวตนโครงการลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐปี 65 ในช่วงวันหยุดเสาร์ -อาทิตย์ สามารถมาใช้บริการได้ที่ ธ.ก.ส. ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย เฉพาะสาขาในห้างสรรพสินค้า อย่างไรก็ตามเพื่อความรวดเร็ว ขอความกรุณาให้ผู้ลงทะเบียนโปรดเช็คผลการตรวจสอบคุณสมบัติก่อนการยืนยันตัวตนได้ด้วยตนเอง โดยมีช่องทางการตรวจสอบสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ดังนี้

 

เว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th 

 

เว็บไซต์ https://welfare.mof.go.th  

 

สำนักงานคลังจังหวัด ที่ทำการอำเภอ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร สำนักงานเมืองพัทยา 

 

สำหรับช่วงเวลาการยืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการเตรียมเอกสารประกอบการไปยืนยันตัวจน จะมีอะไรบ้างนั้น ฐานเศรษฐกิจ รวบรวมมานำเสนอดังต่อไปนี้ 

 

ธนาคารกรุงไทย ให้บริการยืนยันตัวตน ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.66

 

ธนาคารออมสิน ให้บริการยืนยันตัวตนตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-27 ส.ค.66

 

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส)ให้บริการยืนยันตัวตนตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-27 ส.ค.66

 

เอกสารสำหรับการยืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วยตนเอง มีดังนี้ 

 

บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ที่ลงทะเบียน

 

ใบสำคัญการหย่า หรือ ใบมรณะบัตร หรือหนังสือรับรองการตาย หรือใบทะเบียนบ้านที่มีการจำหน่ายการตาย (เฉพาะผู้ผ่านเกณฑ์แบบมีเงื่อนไข)

 

เอกสารสำหรับผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมายืนยันตัวตนด้วยตนเอง

 

เนื่องจากเป็นผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุ สามารถมอบอำนาจให่บุคคลอื่นมายืนยันตัวตนแทนได้  โดยมีเอกสารที่ต้องเตรียมดังนี้

 

บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ลงทะเบียน

ใบสำคัญการหย่า หรือ ใบมรณะบัตร หรือหนังสือรับรองการตาย หรือใบทะเบียนบ้านที่มีการจำหน่ายการตาย (เฉพาะผู้ผ่านเกณฑ์แบบมีเงื่อนไข)

 

หนังสือมอบอำนาจ (ดาวน์โหลดที่นี่)

 

บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ที่ได้รับมอบอำนาจ

 

สำเนาบัตรประจำตัวคนพิการ (ถ้ามี) หรือ ใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี)ให้้นำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่หน่วยงานยืนยันตัวตน