MAKRO ชูกลยุทธ์ปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วรับพฤติกรรมผู้บริโภค
สยามแม็คโคร แนะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ต้องปรับตัว ปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วตามพฤติกรรมผู้บริโภค ลุยขยายช่องทางตลาด กระจายความเสี่ยงทั้งในและต่างประเทศ รักษาฐานลูกค้าเดิมและแสวงหาฐานลูกค้าใหม่ วอนภาครัฐต้องเข้ามาช่วยเหลือ มั่นใจสามารถเติบโตได้ในระยะยาวและมั่นคง
นางศิริพร เดชสิงห์รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) (MAKRO) เปิดเผยว่า ธุรกิจของแม็คโคร ปกติจะทำงานร่วมกับธุรกิจเอสเอ็มอีมากกว่า 1 ล้านราย เรื่องแรกที่มีความสำคัญ ในการที่ธุรกิจเอสเอ็มอีจะเติบโตต่อเนื่อง โดยฉพาะกลุ่มที่เป็นไมโครเอสเอ็มอี คือ ต้องปรับตัว เนื่องจากเอสเอ็มอีเป็นคนตัวเล็กแต่การเป็นคนตัวเล็กมีข้อได้เปรียบมาก จะมีความรวดเร็วและว่องไว ดังนั้นจึงจำเป็นใช้ความคล่องแคล้วและรวดเร็วในการปรับตัวให้มีประโยชน์
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงโควิด19 แม้จะเป็นเจ้าเล็กก็ปรับตัวได้ดี ทั้งนี้จึงได้ความสำคัญของการปรับตัว ต้องปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วตามพฤติกรรมผู้บริโภค ได้แก่ 1.ปรับรูปแบบสินค้าและบริการ ศึกษาตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอ พร้อมปรับสินค้าและบริการให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคและตลาด 2.ปรับเปลี่ยนเพิ่มช่องทาง ด้วยการผลักดันธุรกิจเล็กๆ เข้าสู่แพลตฟอร์ม E-Commerce การขายในช่องทางออนไลน์ ผู้ประกอบการอาจจะต้องดูขนาดของ Packaging สินค้าที่จะขายบนออนไลน์ด้วย พร้อมกับราคาที่เหมาะสม
3.ปรับขยายกลุ่มเป้าหมายลูกค้าใหม่ เพื่อเพิ่มโอกาสและกระจายความเสี่ยงทั้งในและต่างประเทศ รักษาฐานลูกค้าเดิมและแสวงหาฐานลูกค้าใหม่ 4.ปรับรูปแบบวิธีการสื่อสาร นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการนำเสนอสินค้ากับลูกค้าผ่านช่องทางใหม่ๆ เช่น การสื่อสารผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย Face Book Tik Tok 5.ปรับองค์กรหรือธุรกิจให้คล่องตัวอยู่เสมอ พัฒนาทักษะให้กับพนักงาน ปรับโครงสร้างองค์กรให้คล่องตัวเสมอ และ 6.แลกเปลี่ยน เรียนรู้- สร้างพันธมิตรกับเอสเอ็มอีรายอื่นๆ
อย่างไรก็ตามหากจะช่วยธุรกิจเอสเอ็มอีให้อยู่รอด และสามารถเติบโตได้ ซึ่งจากโมเดลของกลุ่มบริษัท ได้มีการทำแพลตฟอร์มแห่งโอกาส โดยการสนับสนุนช่องทางการขาย ออนไลน์ และ ออฟไลน์ การเจรจากับคู่ธุรกิจ การอบรมให้ความรู้ ซึ่งโมเดลการสร้างระบบนิเวศน์ที่ช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งและพัฒนา SME ไทย โดยมีจุดเด่นจากการมีเครือข่ายช่องทางการขายที่ใหญ่ มีองค์ความรู้ มีกลุ่มลูกค้ากว้างและหลากหลาย และมีเทคโนโลยี
ขณะเดียวกันได้มีการขยายตลาดสินค้า SME ไปต่างประเทศ ซึ่งข้อดีของการไปต่างประเทศกับแม็คโคร ทั้งนี้ได้มีการสนับสนุนนำสินค้าไปขายในต่างประเทศที่ได้รับความนิยม ได้แก่ การจดทะเบียนจะง่ายขึ้น ถ้าผู้ผลิตแต่ละรายไปจดทะเบียนเอง จะมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก 2.แม็คโครจะช่วยดำเนินการเรื่องเอกสารและขั้นตอนการนำเข้าอย่างถูกกฏหมายโดยดำเนินการให้หมด 3.เรื่องการขนส่ง บริหารจัดการให้ภายใต้มาตรฐานของแม็คโคร ส่งที่ DC เมืองไทย ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสะดวก 4.เราบอกความต้องการของลูกค้าในต่างประเทศให้กับผู้ผลิต สามารถปรับเปลี่ยน บรรจุภัณฑ์ หรือปรับปรุงรสชาติให้ตอบโจทย์ลูกค้าจึงมายอดขายเพิ่มขึ้นจากตลาดประเทศได้ และ 5.เรื่อง Quality Standard – On Shelf management
นางศิริพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคได้รับผลกระทบใน 2-3 เรื่อง เรื่องแรกคือ ต้นทุนวัตถุดิบ ซึ่งถ้าสามารถคุมได้ก็จะไม่มีผลกระทบมาก เรื่องที่สอง ค่าขนส่ง ค่าพลังงานแพงมีผลกระทบแน่นอน และเรื่องที่สาม แรงงาน เราคาดการณ์ว่าราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในปี 2566 นี้ ได้มีการปรับตัวขึ้นมาแล้ว อย่างไรก็ตามจากการที่พลังงานของโลกมีการปรับตัวสูงขึ้นนั้น เรามองว่าภาครัฐต้องเข้ามาช่วยเหลือ ผู้ผลิตรายใหญ่ ที่จะทำอย่างไรให้มีผลกระทบน้อยที่สุด ทั้งนี้ยังคงคาดว่ายังไม่ต้องถึงกับการปรับตัว ยังสามารถไปต่อได้


