posttoday

กฟผ. จับมือ รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว เดินหน้า 3 ธุรกิจใหญ่ เสริมแกร่งด้านพลังงาน

04 กุมภาพันธ์ 2566

กฟผ. และรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว ร่วมลงนาม MOU ด้านธุรกิจโทรคมนาคม ธุรกิจเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า และธุรกิจ Smart Energy Solutions มุ่งสร้างความมั่นคงในการผลิต และส่งจ่ายกระแสไฟฟ้า และกิจการไฟฟ้า ให้ยั่งยืน

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และนายจันทะบูน สุกอาลุน ผู้อำนวยการใหญ่รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจด้านธุรกิจโทรคมนาคม ธุรกิจเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า และธุรกิจ Smart Energy Solutions โดยมี ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการธุรกิจเกี่ยวเนื่อง และนายวิละพอน วิสุนนะลาด รองผู้อำนวยการใหญ่ EDL ร่วมลงนามเป็นสักขีพยาน มีผู้บริหารจากทั้งสองหน่วยงาน พร้อมด้วยบริษัท ผลิต-ไฟฟ้าลาว (มหาชน) และบริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 3 พาวเวอร์ จำกัด เข้าร่วมในพิธี ณ สำนักงานใหญ่ EDL กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566

 

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า ประเทศไทยและ สปป.ลาว เริ่มต้นความสัมพันธ์ด้านพลังงานไฟฟ้ามาอย่างยาวนานเกือบ 60 ปี ทั้งการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้า การพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้า การซื้อขายไฟฟ้า การแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านเทคนิควิศวกรรม งานวิชาการ การพัฒนาบุคลากรระหว่างหน่วยงาน โดยความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้าระหว่างสองประเทศช่วยส่งเสริมให้ระบบไฟฟ้ามีความมั่นคง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสานต่อความร่วมมือในการเชื่อมโยงโครงข่ายระบบไฟฟ้าของทั้งสองประเทศให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

 

การลงนามบันทึกความเข้าใจในวันนี้ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่รัฐวิสาหกิจของสองประเทศจะได้แบ่งปันศักยภาพ สร้างความร่วมมือในด้านพลังงานให้มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น กฟผ. จะนำองค์ความรู้ที่มีอยู่ ไม่เพียงแต่เฉพาะความรู้ทางด้านเทคนิควิศวกรรม งานบำรุงรักษา งานโทรคมนาคม งานวิชาการ และการพัฒนาบุคลากร แต่ยังรวมไปถึงโอกาสในการพัฒนาระบบจัดการระบบไฟฟ้า Smart Energy Solutions ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่สอดรับกับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าในอนาคต โดยไทยได้เริ่มเดินหน้าเรื่องนี้กันอย่างเต็มที่จึงคาดว่าจะสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับ สปป.ลาว เพื่อขยายการดำเนินงานไปยังประเทศอื่น ๆ ซึ่ง กฟผ. พร้อมให้ความร่วมมือและยินดีที่จะเคียงข้างอย่างเกื้อกูลกันต่อไป

 

นายจันทะบูน สุกอาลุน ผู้อำนวยการใหญ่ EDL กล่าวว่า หากทั้งสององค์การมีความร่วมมือทางธุรกิจจะสามารถต่อยอดการดำเนินงานได้หลายด้าน อาทิ ระบบ Fiber Optic ซึ่งประเทศไทย และ สปป.ลาว ใช้ระบบดังกล่าวทั้งในประเทศและเชื่อมโยงระหว่างกัน รวมถึง สปป. ลาว ยังมีการเชื่อมโยงกับสาธารณรัฐประชาชนจีน เวียดนาม และกัมพูชา จึงเชื่อว่าจะสามารถขยายเป็นธุรกิจด้านโทรคมนาคมร่วมกันได้ ส่วนธุรกิจเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า (Operation and Maintenance หรือ O&M) ปัจจุบัน สปป.ลาว มีเขื่อนประมาณ 80 แห่งทั่วประเทศ และมีอุปกรณ์ไฟฟ้าจำนวนมาก

 

ดังนั้นในอนาคตอันใกล้งานเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าจะมีความต้องการสูง จึงเป็นโอกาสที่จะได้ร่วมกันพัฒนาการดำเนินงานตามมาตรฐานสากล และพัฒนาทรัพยากรบุคคลของ EDL ด้วย สุดท้ายในด้านของ Smart Energy Solutions เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องร่วมมือกันพัฒนาต่อยอด โดยการลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้จะนำไปสู่การศึกษารายละเอียดการดำเนินงาน หากมีเรื่องใดที่สามารถพัฒนาต่อยอดได้ ก็พร้อมยินดีที่จะร่วมมือกับ กฟผ. ต่อไป
 

 

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ครอบคลุมธุรกิจจำนวน 3 ด้าน ได้แก่ 1) ธุรกิจโทรคมนาคม กฟผ. และ EDL จะร่วมกันพัฒนาธุรกิจโทรคมนาคมใน สปป.ลาว โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ของแต่ละฝ่ายให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงโครงข่าย Fiber Optic ระหว่างประเทศไทยและ สปป.ลาว 2) ธุรกิจเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า ซึ่งจะร่วมกันแสวงหาโอกาสพัฒนาธุรกิจการให้บริการงานเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าพลังน้ำในสปป.ลาว ต่อไป อาทิ โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 3 3) เรื่อง Smart Energy Solutions กฟผ.

 

และ EDL จะแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อร่วมกันพัฒนาระบบ Smart Energy Solutions ในส่วนของสมาร์ทไมโครกริดและแสวงหาพื้นที่ที่มีศักยภาพใน สปป.ลาว ที่สามารถพัฒนาต่อยอดระบบดังกล่าวได้ โดยผู้แทนของสองประเทศจะร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ ทรัพยากร และข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ทั้งนี้บันทึกความเข้าใจดังกล่าวมีกรอบความร่วมมือเป็นระยะเวลา 3 ปี