posttoday

“อาคม”ร่วมประชุม World Economic Forum หารือทวิภาคี เพิ่มแรงงานไทยไปซาอุฯ

18 มกราคม 2566

“อาคม”ร่วมประชุม World Economic Forum ประจำปี 66 หารือระดับทวิภาคี ผลักดันแรงงานไทยไปซาอุฯเพิ่มขึ้น พร้อมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัด Expo 2028 ณ จังหวัดภูเก็ต และการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกับเขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกง

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่านายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เข้าร่วมการประชุม World Economic Forum (WEF) ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 16-19 มกราคม 2566 ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส โดยเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 ได้หารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังซาอุดีอาระเบียและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (Financial Secretary) เขตบริหารพิเศษฮ่องกง โดยมีผลการหารือสรุปได้ ดังนี้

 

1. การหารือทวิภาคีกับนายโมฮัมหมัด อัลจาดาน (Mr. Mohammed Al-Jadaan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังซาอุดีอาระเบีย ทั้งสองฝ่ายได้มีการแลกเปลี่ยนมุมมองต่อเศรษฐกิจโลกและหารือประเด็นความร่วมมือระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบีย อาทิ การทำธุรกิจธนาคารตามหลักศาสนาอิสลาม(Islamic Banking) การสนับสนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของไทย การเพิ่มการส่งออกแรงงานไทยไปซาอุดีอาระเบียเพื่อรองรับการขยายเมืองและการขยายการท่องเที่ยว การเร่งจัดทำความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบีย รวมถึงการสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo ซึ่งไทยได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัด Expo 2028 ณ จังหวัดภูเก็ต และซาอุดีอาระเบียเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัด Expo 2030 ณ เมือง Riyadh เป็นต้น

 

2. การหารือทวิภาคีกับนายพอล ชาน (Mr. Paul Chan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีระหว่างไทยและเขตบริหารพิเศษฮ่องกง โดยเฉพาะประเด็นการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ การจดทะเบียนหลักทรัพย์ข้ามประเทศ (Cross Listing) เพื่อเชื่อมโยงตลาดหลักทรัพย์ไทยและเขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกง การแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (Securitization) สำหรับการลงทุนในโครงการที่แล้วเสร็จ (Brown Field) การออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในไทย (Baht Bond) เป็นต้น 

 

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้สนับสนุนให้พัฒนาการเชื่อมโยงระบบการชำระเงิน ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารกลางฮ่องกงอยู่ระหว่างทดสอบการนำสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางในระดับสถาบันการเงิน (Wholesale Central Bank Digital Currency: Wholesale CBDC) มาใช้โอนและแลกเปลี่ยนเงินระหว่างประเทศ ภายใต้โครงการ Multiple Central Bank Digital Currency Bridge (mBridge) ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเห็นควรให้มีการประชุมกลุ่มย่อยในระดับเจ้าหน้าที่ของไทยและเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เพื่อขับเคลื่อนโครงการความร่วมมือให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น