posttoday

รัฐขยายเวลาลงทะเบียน "ร่วมใจแก้หนี้" ถึง 31 ม.ค. 66

26 ธันวาคม 2565

ลงทะเบียนแก้หนี้ออนไลน์คึกคัก ยอดทะลุ 1.7 แสนราย รายการสะสมมากกว่า 3.8 แสนรายการ พบเป็นหนี้ บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลมากที่สุด 75% รัฐบาลประกาศขยายเวลาลงทะเบียน "ร่วมใจแก้หนี้" ได้ ถึง 31 ม.ค. 66 เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบาง

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง "มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน"สัญจร 4 ซึ่งเป็นกิจกรรมของกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ไม่สามารถแก้ไขหนี้ได้ ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

 

โดยกิจกรรมดังกล่าวยังได้เปิดให้มีการลงทะเบียน "มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ออนไลน์" ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนเพื่อขอแก้ไขหรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ผ่านระบบออนไลน์มากกว่า 170,000 รายแล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 19 ธันวาคม) คิดเป็นรายการสะสมมากกว่า 380,000 รายการ

 

ทั้งนี้สัดส่วนของลูกหนี้ที่ลงทะเบียนทั้งหมด ประกอบด้วย ลูกหนี้ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 35%
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19% ภาคกลาง 12% ภาคอื่นๆ 34%

 

ส่วนประเภทสินเชื่อที่มีการลงทะเบียนสูงสุด คือ บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล 75% สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 6% จำนำทะเบียนรถ 4%
 

ดังนั้นเพื่อ ช่วยเหลือลูกหนี้ให้ครอบคลุมและทั่วถึงมากที่สุด ตามนโยบายที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง จึงได้ขยายระยะเวลาลงทะเบียนออกไป จากเดิมที่จะสิ้นสุดระยะเวลาการลงทะเบียน 30 พฤศจิกายน 2565 เป็นวันที่ 31 มกราคม 2566 โดยลงทะเบียนได้ที่ www.bot.or.th/debtfair  

 

โดยจะควบคู่ไปกับการจัดงานมหกรรมสัญจรที่จัดมาแล้ว 3 ครั้งที่กรุงเทพฯ จังหวัดขอนแก่นและจังหวัดเชียงใหม่ที่ผ่านมามีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก

 

ทั้งนี้ จะมีโครงการไปจัดงานมหกรรมสัญจรในภาคตะวันออก และภาคใต้อีก 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 4 ที่จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 20-22 มกราคม 2566 ที่ ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านสวน และครั้งที่ 5 จังหวัดสงขลา วันที่ 27-29 มกราคม 2566 ที่ หอประชุมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

 

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีฯ ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือนมาตลอด ประกอบกับการออกมาตรการมาช่วยเหลือประชาชน และ ผู้ประกอบการเพื่อประคับประคองธุรกิจ การจ้างงาน ผ่านระบบประกันสังคม บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ