posttoday

บอร์ดกสทช.ลงมติเอกฉันท์ทวงคืนเงินบอลโลก 600 ล้านบาท

08 ธันวาคม 2565

มติบอร์ดกสทช.เอกฉันท์ 6:0 ทวงเงิน กกท. 600 ล้านบาท ภายใน 15 วัน หากไม่คืนจ่อฟ้องศาลปกครอง ด้าน กกท.ยันทำถูกต้องแล้ว

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า  ที่ประชุมบอร์ดกสทช. มีมติเอกฉันท์ 6:0 เสียงให้ส่งหนังสือคำสั่งทางปกครองไปยังการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในการขอให้กกท.คืนเงิน 600 ล้านบาท เต็มจำนวนคืนจากกกท. ซึ่งทางกกท.ต้องคืนเงินภายใน 15 วัน หลังจากที่ได้รับหนังสือแจ้งดังกล่าว โดยเหตุผลที่บอร์ดตัดสินใจเนื่องจากทำตามหน้าที่ในฐานะเจ้าของเงินสนับสนุน 

ทั้งนี้ เอกสารสัญญาลงนามความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ระหว่าง กสทช. และ กกท. ระบุชัดว่า ผู้รับใบอนุญาตภายใต้กสทช.ต้องดูการถ่ายทอดสดบอลโลก 2022 (รอบสุดท้าย) ได้ ตามกฎมัสต์แฮฟ และมัสต์แคร์รี่ หาก กสทช.ไม่ดำเนินการดังกล่าว จะถือเป็นการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ดังนั้นหากกกท.ไม่สามารถคืนเงินจำนวนดังกล่าวได้ ก็ต้องเป็นเรื่องที่ต้องต่อสู้ในชั้นศาลปกครองต่อไป

สำหรับการประชุมวันนี้ (8 ธ.ค.) เป็นการประชุมนัดพิเศษ เรื่อง การพิจารณาการดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2022  (รอบสุดท้าย) โดยที่ประชุมบอร์ด กสทช.จำนวน 6 คน มีมติเอกฉันท์ ให้การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. คืนเงิน 600 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2022  (รอบสุดท้าย) หลังจากมีปัญหาโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก IPTV “จอดำ”

ด้านนายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท.กล่าวว่า กกท.ยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดกฎมัสต์แครี่แต่อย่างใดและส่งสัญญาณถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกให้ทุกคนได้ดูแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายตามกฎมัสต์แฮฟ (Must Have) แล้ว

“กกท.มั่นใจว่าไม่ได้ปฏิบัติผิดเงื่อนไขอะไร เราดำเดินตามกฎมัสต์ แคร์รี่ ด้วยการส่งสัญญาณไปยังดิจิทัลทีวี ทั้งภาคพื้นดินและดาวเทียมต่างๆ ซึ่งในกฎของมัสต์ แครี่ ได้เขียนเอาไว้ว่าทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ด้วย ซึ่งศาลได้วินิจฉัยกรณีข้อพิพาทระหว่าง AIS กับ True โดยคำสั่งศาลได้กล่าวถึงการกีฬาแห่งประเทศไทยและกสทช.ที่ดำเนินการถ่ายทอดฟุตบอลโลกให้ประชาชนได้ดูฟรีตามช่องทางต่างๆ ที่ไม่ใช่เฉพาะ IPTV เท่านั้น ถือว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของมัสต์ แคร์รี่แล้ว คำสั่งศาลเขียนไว้ชัดเจน เพราะฉะนั้นการดำเนินการของกกท.อยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ของคำสั่งศาล ไม่ได้ไปละเมิดอะไร"

การที่ กสทช.เรียกเก็บเงินคืนแบบนี้ อยู่ที่มุมมอง และทางนั้นมองมุมที่ต่างกัน เป็นที่มาของการทำหนังสือตอบกลับไปทันทีว่า กกท.ไม่ได้ทำผิดอะไร ทุกอย่างให้ไปดูในคำสั่งศาลได้