posttoday

"อาคม" เมินเสียงค้านเก็บภาษีซื้อขายหุ้น ยันเป็นแนวทางเดียวกับหลายประเทศ

07 ธันวาคม 2565

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันเดินหน้าเก็บภาษีจาการซื้อขายหุ้น ชี้ผ่านมติครม.แล้ว แม้มีหลายเสียงคัดค้าน ชี้เป็นแนวทางเดียวกับหลายประเทศ ขณะที่ต้นทุนต่ำใกล้เคียงกันอาเซียน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึง กรณีที่สภาธุรกิจตลาดทุนไทย ( FETCO)  เตรียมยื่นหนังสือคัดค้านนโยบายการเก็บภาษีขายหุ้นของรัฐบาลนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือดังกล่าว ซึ่งการเก็บภาษีขายหุ้นเป็นนโยบายที่กระทรวงการคลังได้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และผ่านความเห็นชอบเรียบร้อยแล้ว

ส่วนกรณีที่นักลงทุนรายย่อยจะมีการประท้วงต่อนโยบายดังกล่าวด้วยการหยุดการซื้อขายหุ้นในวันที่ 8 ธันวาคมนั้น เป็นเรื่องที่ไม่สามารถห้ามได้ อย่างไรก็ดี ในรายละเอียดของแนวทางและวัตถุประสงค์การจัดเก็บ กระทรวงการคลังก็ได้อธิบายไปหมดแล้ว

ทั้งนี้ แนวทางการจัดเก็บภาษีหุ้น ก็เป็นในแนวทางเดียวกันกับหลายประเทศ และไม่ได้จัดเก็บในอัตราที่เกินกว่าหลายประเทศจัดเก็บ ดังนั้น กระทรวงการคลังยังคงเดินหน้าในการจัดเก็บภาษีดังกล่าวต่อไป

สำหรับการจัดเก็บภาษีหุ้นที่ไทยเลือกจัดเก็บ เป็นการเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะจากการขาย ซึ่งแนวทางที่ 2 เป็นรูแปบบที่ไทยเลือกจัดเก็บ ทั้งนี้หากเทียบเคียงจากต่างประเทศ พบว่า อัตราการเก็บภาษีจากการขายหุ้นไม่สูงกว่าประเทศอื่น อาทิ ประเทศที่เก็บภาษีจากการขาย ได้แก่ อินโดนิเซียจัดเก็บ 0.10%  เวียดนาม 0.10% จีน 0.10% เกาหลีใต้ 0.23% และฟิลิปิน 0.60%

ขณะที่ ฮ่องกง  0.13% จัดเก็บจากการขายและซื้อ มาเลเซีย 0.15% แต่ไม่เกิน 1,000 ริงกิต เป็นการเก็บภาษีจากการซื้อและขาย เป็นต้น

สำหรับต้นทุนธุรกรรมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในภมิภาค (ปี 2565) พบว่า ถือว่าต้นทุนไทยหรือภาระภาษีที่เกิดขึ้นต่ำกว่าหลายประเทศ โดยไทยมีต้นทุนเพียง 0.17% ขณะที่ฮ่องกงอยู่ที่ 0.38% มาเลเซีย 0.29% และสิงคโปร 0.19% เป็นต้น