posttoday

IRPC ตั้งเป้า ปี 73 EBITDA แตะ 3.5 หมื่นล้านบาท

30 พฤศจิกายน 2565

IRPC คาดการณ์ EBITDA ปี 2568 อยู่ที่ 25,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 35,000 ล้านบาทในปี 73 พร้อมประกาศแผนลงทุนในปี 2566 ทุ่มงบลงทุน 7,000 ล้านบาท ใน 5 กลุ่มธุรกิจ ที่มีการเติบโตสูง

นายกฤษณ์ อิ่มแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยถึงแผนธุรกิจ ในระยะ 5 (2566-2570) ว่า จะมุ่งเน้นความเข็มแข็งและความชำนาญในห่วงโซ่ธุรกิจปัจจุบัน เพื่อพัฒนาในการขยายธุรกิจองค์กรเป็นสำคัญ

สำหรับการดำเนินธุรกิจนั้น บริษัทวางเป้าหมายกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา(EBITDA) ไว้ที่ 25,000 ล้านบาท ในปี 2568 และเพิ่มขึ้นเป็น 35,000 ล้านบาทในปี 2573 

โดยมองว่า ไตรมาส3 และ 4 ปี 2565 ที่ผ่านมาถือว่าเป็นช่วงที่ไม่ดีนัก แต่ตอนนี้ได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว จึงเชื่อว่า จะส่งผลให้ในปีหน้า EBITDA ของบริษัทน่าจะค่อยๆปรับตัวดีขึ้น โดยการเติบโตทางธุรกิจแบบจะเน้นต่อยอดจากความแข็งแกร่งในฐานธุรกิจปัจจุบัน และเพิ่มสัดส่วนธุรกิจใหม่ (New Stream) มากขึ้น อย่างไรก็ตามโอกาสความเป็นไปได้ต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะปัจจัยจากต่างประเทศที่มีความผันผวนกับต้นทุนการผลิต

 

IRPC ตั้งเป้า ปี 73 EBITDA แตะ 3.5 หมื่นล้านบาท

 

 

สำหรับ ปี 2566 บริษัทมีงบลงทุน 7,000 ล้านบาท จะเป็นโครงการทำให้เกิดเม็ดเงิน โดยใช้กลยุทธมุ่งเน้นขับเคลื่อนและขยายธุรกิจปัจจุบันสู่ 5 กลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโตสูง ได้แก่ Health and life Science ,Advanced Material, Circular Business , Future Energy และ Energy Storage โดยใช้ความรู้ด้านนวัตกรรมและแสวงหาความร่วมมือกับหุ้นส่วนทางธุรกิจ ที่มีธุรกิจที่คล้ายกัน ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กร

 

IRPC ตั้งเป้า ปี 73 EBITDA แตะ 3.5 หมื่นล้านบาท

 

นอกจากนี้ IRPC มีแผนจะเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกเกรดพิเศษ (Specialty Product) จาก 24% ในปี 2565 เป็น 33% ในปี 2566 โดยมุ่งเน้นการลงทุนในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Smart Material ที่สอดคล้องกับความต้องการของทิศทางโลก หรือมีบทบาทต่อการดำเนินชีวิตใหม่ของผู้คน อาทิ ด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์ และการดูแลสุขภาพ เช่น หน้ากากอนามัย เสื้อกราวน์ แพมเพิส


โดยปีนี้ได้ดำเนินการโครงกสนเม็ดพลาสติกพีพี สปันบอนด์ (PP Spunbond) 200,000 ตันต่อปี  และขยายการลงุทนโครงการ พีพี เมลด์โบลน (PP Meltbiown) 400,000 ตันต่อปี รวมถึง พีพีอาร์ (PPR : PP random copolymer pipe) 80,000 ตันต่อปี ที่ใช้ผลิตท่ออุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีความแข็งแรง ทนทาน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 67