posttoday

พาณิชย์ วางเป้า 3 ธุรกิจบริการสร้างรายได้ปี 66

11 พฤศจิกายน 2565

พาณิชย์ ผลักดัน 3 ธุรกิจบริการ "ร้านอาหาร ดูแลผู้สูงอายุ Wellness" สร้างรายได้เข้าประเทศ ปี 2566 หวังผลลูกค้าพึงพอใจ สร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจ โดยภาครัฐพร้อมให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกเต็มที่

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิช์ เตรียมเพิ่มพูนองค์ความรู้เชิงลึกแบบครบทุกมิติ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจ  เข้าถึงแก่นแท้ของธุรกิจมากขึ้น มีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ดำเนินธุรกิจอย่างสมเหตุผล ส่งผลต่อความเข้มแข็งของธุรกิจระยะยาว และผลประกอบการที่เป็นกำไรในอนาคต พร้อมที่จะขยายและพัฒนาธุรกิจให้เติบโตไปในทิศทางที่ถูกต้อง เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น และมีความเชื่อมโยงกับธุรกิจต่อเนื่องที่หลากหลาย

ทั้งนี้ จุดอ่อนสำคัญของธุรกิจบริการไทย คือ ขาดองค์ความรู้ที่จำเป็นในการบริหารธุรกิจ เช่น การคำนวณต้นทุน การตลาด การบริหารงานบุคคล การเงินและบัญชี ระบบภาษี ความรู้ด้านกฎหมาย การนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการธุรกิจ รวมทั้ง ต้องเผชิญกับภาวการณ์แข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น

“การค้าภาคบริการเป็นภาคเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้ประเทศในระดับสูง อีกทั้ง ความต้องการใช้บริการทุกภาคบริการมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น จึงมอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เร่งติดอาวุธด้านการบริหารจัดการธุรกิจแก่ผู้ประกอบธุรกิจบริการรายย่อยของไทยเพื่อให้แข่งขันกันได้

 โดย3 ธุรกิจที่น่าจับตามองในปีหหน้าประกอบด้วย   ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ และ  ธุรกิจบริการความงามและสุขภาพ (Wellness) โดยเน้นการเสริมสร้างองค์ความรู้เชิงลึกแบบครบทุกมิติ ทั้งการตลาด การบริหารจัดการธุรกิจ การเงินและบัญชี วิธีการจัดการต้นทุนไม่ให้บานปลาย การขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึง กลยุทธ์/เทคนิคการบริการที่ดีเยี่ยมเพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด และพร้อมที่จะกลับมาใช้บริการซ้ำ รวมทั้ง สร้างเครือข่ายผู้ประกอบธุรกิจบริการเพื่อให้เกิดการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน และมีโอกาสพัฒนาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ หรือร่วมลงทุนในอนาคต

สำหรับ 3 ธุรกิจบริการเป้าหมาย เกี่ยวข้องกับสาธารณชนจำนวนมาก เป็นธุรกิจที่กำลังเข้ากระแสนิยม และมีผู้ประกอบการรายย่อยสนใจเข้ามาประกอบธุรกิจจำนวนมาก จึงได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เสริมสร้างองค์ความรู้แก่ผู้ประกอบการทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565

สำหรับ ธุรกิจร้านอาหาร ถือเป็นธุรกิจฐานรากที่มีทุกชุมชน เข้าถึงลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ประกอบธุรกิจได้ทันที มีตั้งแต่ขนาดเล็ก-ขนาดใหญ่ ผู้ประกอบการรายเดิมเริ่มหันกลับมาขยายสาขา โดยปรับรูปแบบการให้บริการเป็นแบบ Limited Service เพื่อลดต้นทุนธุรกิจและรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยให้ความสำคัญกับตลาดกลุ่มลูกค้าซื้อกลับบ้าน (Take Home) และการจัดส่งอาหารไปยังที่ต่างๆ (Delivery

ส่วนธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ การเปลี่ยนแปลงของสภาพสังคมที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ช่วยผลักดันให้ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุของไทยเติบโตเพิ่มมากขึ้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เสริมสร้างองค์ความรู้เพื่อให้ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุเตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหาและการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งปัจจุบันและอนาคต มีองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจ การจัดทำแผนธุรกิจ บัญชี ภาษี และกฎหมาย นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาปรับใช้ในการบริหารจัดการและสื่อสารการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปรับตัวเพื่อความอยู่รอดและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของธุรกิจ

ขณะที่ ธุรกิจบริการความงามและสุขภาพ (Wellness)เป็นการดูแลสุขภาพของคนทุกช่วงวัย ตั้งแต่วัยเด็ก วัยทำงาน ไปจนถึงผู้สูงอายุ เป็นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน การใช้สินค้าและบริการต่างๆ เกี่ยวกับสุขภาพและความงามมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังครอบคลุมอีกหลายภาคส่วน เช่น การท่องเที่ยวสุขภาพ โภชนาการเพื่อสุขภาพ การชะลอวัย การออกกำลังกายและจิตใจ การลดน้ำหนัก การดูแลส่วนบุคคล สปา ความงาม รวมทั้ง การแพทย์แผนดั้งเดิมและการแพทย์ทางเลือก เป็นต้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าธุรกิจบริการด้วยการตลาดดิจิทัล เพิ่มยอดขายสร้างรายได้แก่ธุรกิจ เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง ก่อให้เกิดการจ้างงานและกระจายรายได้สู่ชุมชนทั่วประเทศ ดำเนินกิจกรรมระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - สิงหาคม 2566