posttoday

ครั้งแรกในรอบ15 ปี !!! ไทยเปิดนักลงทุนยื่นสำรวจแหล่งก๊าซ-น้ำมัน ในอ่าวไทย 3 แปลงใหญ่ เงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้าน

09 กุมภาพันธ์ 2565

กรมเชื้อเพลิงฯได้ฤกษ์เปิดยื่นสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบที่ 24 ในระบบพีเอสซี คาดได้ผู้ชนะปีนี้ เริ่มผลิตจริงปี'69 หวังชดเชยปริมาณปิโตรเลียมในไทยที่เริ่มลดลงตามศักยภาพ

นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า ในปี 2565 นี้ มีแผนเปิดให้นักลงทุนยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม รอบที่ 24 จำนวน 3 แปลงในทะเลอ่าวไทย ภายใต้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (พีเอสซี) ประกอบด้วย1. แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G1/65 มีพื้นที่รวม 8,487.20 ตารางกิโลเมต

2. แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G2/65 มีพื้นที่รวม 15,030.14 ตารางกิโลเมตร และ 3. แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G3/65 มีพื้นที่รวม 11,646.67 ตารางกิโลเมตร

“ไทยไม่ได้เปิดให้มีการสำรวจแหล่งปิโตรเลียมมา 15 ปีแล้วโดยพื้นที่ทั้ง 3 แปลงยังมีศักยภาพในการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งจะเข้ามาช่วยเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมที่ปัจจุบันจะเริ่มมีปริมาณน้อยลงไปเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันเป็นการสนับสนุนให้เกิดการลงทุนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คาดว่าการเปิดให้ยื่นขอสิทธิฯครั้งนี้ จะมีการลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท และยังช่วยเพิ่มรายได้ให้ภาครัฐ และทดแทนการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศได้

อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอรมว.พลังงานในการออกประกาศเชิญชวนให้ยื่นขอสิทธิฯ คาดจะได้ผู้ชนะในปีนี้ และจะเริ่มผลิตได้จริงในปี 2569  โดยที่ผ่านมามีนักลงทุนสนใจในระดับหนึ่งแล้วแต่ไม่ใช่รายใหญ่นัก

ครั้งแรกในรอบ15 ปี !!! ไทยเปิดนักลงทุนยื่นสำรวจแหล่งก๊าซ-น้ำมัน ในอ่าวไทย 3 แปลงใหญ่ เงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้าน

นายสราวุธ กล่าวถึง การดำเนินงานในช่วงเปลี่ยนผ่านของแปลง G1/61 หรือแหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณนั้นที่ผ่านมาได้ประสานการเจรจาระหว่างบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ในฐานะผู้รับสัมปทานรายเดิม และบริษัท ปตท.สผ.เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด หรือ ปตท.สผ. อีดี ในฐานะผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต (พีเอสซี) มาโดยตลอด ในเรื่องการเข้าพื้นที่ของแหล่งเอราวัณก่อนจะสิ้นอายุสัมปทาน และเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การบริหารพลังงานของประเทศเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน

ปัจจุบัน บริษัท ปตท.สผ. อีดี และ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ได้ลงนาม   ในข้อตกลงความร่วมมือต่าง ๆ ในช่วงเปลี่ยนผ่านของแหล่งก๊าซธรรมชาติกลุ่มเอราวัณ ซึ่งจะทำให้การดำเนินการตามสัญญาแบ่งปันผลผลิตในโครงการแปลง G1/61 เดินหน้าต่อไป โดยหลังจากนี้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ  บริษัทผู้รับสัมปทานรายเดิม และคู่สัญญารายใหม่จะดำเนินการเข้าตรวจสอบการผลิตก๊าซธรรมชาติในแปลงดังกล่าว เพื่อวางแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติต่อไปหลังจากสิ้นสุดสัมปทานในเดือนเมษายน 2565

ครั้งแรกในรอบ15 ปี !!! ไทยเปิดนักลงทุนยื่นสำรวจแหล่งก๊าซ-น้ำมัน ในอ่าวไทย 3 แปลงใหญ่ เงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้าน

ทั้งนี้ ในปี 2564 ที่ผ่านมา กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ สามารถนำส่งรายได้เข้ารัฐในรูปแบบค่าภาคหลวง ผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษ รายได้จากพื้นที่พัฒนาร่วมไทย - มาเลเซีย และรายได้อื่นๆเช่น ค่าตอบแทน   การต่อระยะเวลาผลิต ได้จำนวน 53,637 ล้านบาท ในส่วนของภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ที่จัดเก็บโดยกระทรวงการคลัง เป็นจำนวน 49,948 ล้านบาท

ข่าวล่าสุด

เส้นทาง “เถ้าแก่ส้ม” ร้อยล้าน ปั้นโชกุนเบตง–สายน้ำผึ้งฝางดังทั่วประเทศ