อุตสาหกรรมยา ปี 65 คาดยังคงขยายตัว 3-5%
อุตสาหกรรมยา ปี 65 คาดยังคงขยายตัว 3-5% แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะมีแนวโน้มดีขึ้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า แม้ว่าสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จะมีสัญญาณที่ดีขึ้นจนทำให้ความต้องการยาเพื่อรักษาโควิด-19 อาจปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีการระบาดรุนแรง แต่ในทางกลับกัน อาจทำให้คนไข้ไทยกลุ่มเดิมที่รักษาโรคทั่วไป และคนไข้ต่างชาติบางกลุ่มทยอยกลับมาใช้บริการรักษาพยาบาลในไทยเพิ่มขึ้น
ประกอบกับจำนวนผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่คาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นภายหลังที่ไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ในปีนี้ ก็น่าจะยังหนุนให้มูลค่าตลาดยาในประเทศ ปี 2565 ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง 3.0-5.0% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ขยายตัว 2.5%
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของตลาดยาในประเทศน่าจะเป็นโอกาสของผู้ผลิต/นำเข้ายาจากต่างประเทศเป็นหลัก เนื่องจากมูลค่าตลาดยากว่า 70% ของมูลค่าตลาดยาทั้งหมดเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ
ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า หากไทยต้องการลดการพึ่งพาการนำเข้ายาจากต่างประเทศ ต้องอาศัยความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนในการสนับสนุนตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่คุณภาพและมาตรฐานของการผลิต การสร้างความเชื่อมั่นหรือการยอมรับให้กับผู้ใช้ (โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์) ตลอดจนการทำการตลาดให้หันมาใช้ยาที่ผลิตในประเทศมากขึ้น โดยอาจจะเริ่มจากยาชื่อสามัญ (Generic Drugs) ที่ไทยพอจะมีศักยภาพในการผลิตได้ ในขณะที่ยาต้นตำรับ (Original Drugs) เนื่องจากต้องอาศัยการวิจัยและพัฒนาที่ใช้ระยะเวลานานและเงินลงทุนสูง จึงอาจยังต้องพึ่งพาการนำเข้า


