ลุยพัฒนาสวนส้มร้างทุ่งรังสิตเป็นเขตปลูกปาล์ม
โพสต์ทูเดย์
— เกษตรฯ เร่งแก้ปัญหาพื้นที่สวนส้มร้างทุ่งรังสิตหวังปลดหนี้และปล่อยกู้เกษตรกร เล็งประกาศรังสิตเขตปลูกปาล์มนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยกรมส่งเสริมการเกษตร ได้รวบรวมรายละเอียดและผลการศึกษาการปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่สวนส้มร้างทุ่งรังสิต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาในการใช้ประโยชน์อยู่ในขณะนี้
จากการสำรวจพื้นที่สวนส้มร้างในพื้นที่ทุ่งรังสิต พบว่า เกษตรกรที่มีพื้นที่สวนส้มเสียหายหันมาปลูกปาล์มน้ำมันอยู่บ้างแล้ว โดยในปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันแล้วประมาณ 1.2 หมื่นไร่ เกษตรกร 300 ราย และได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มเรียกว่า ชมรมชาวสวนปาล์มทุ่งรังสิต
นอกจากนี้ ได้เรียกร้องให้ทางราชการประกาศให้พื้นที่ทุ่งรังสิตเป็นเขตส่งเสริมปลูกปาล์มน้ำมันเพื่อ 3 วัตถุประสงค์หลัก คือ 1.ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ช่วยปรับภาระหนี้และให้เงินกู้เพิ่มเพื่อการลงทุนปลูกสร้างสวนปาล์มและมีโอกาสชำระหนี้เดิมจากการทำสวนส้มได้ 2.เพื่อขอรับความช่วยเหลือด้านความรู้และเทคโนโลยีการผลิต จากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และ 3.ในอนาคตหากมีปัญหาด้านราคา จะได้รับการช่วยเหลือเช่นเดียวกันกับเกษตรกรในภาคใต้
การทำโครงการทดสอบการเจริญเติบโตของปาล์มน้ำมันของกรมส่งเสริมการเกษตร ได้สรุปผลการศึกษาเปรียบเทียบการเจริญเติบโตและผลผลิตปาล์มน้ำมันระหว่างพื้นที่ทุ่งรังสิตกับจ.สุราษฎร์ธานี พบว่า ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติในด้านการเจริญเติบโตและผลผลิต โดยผลผลิตปาล์มน้ำมันพื้นที่ทุ่งรังสิตเมื่ออายุ 45 ปี และผลผลิตในปีที่ 56 เฉลี่ย 2,588 กก./ไร่/ปี และ 4,283 กก./ไร่/ปี ตามลำดับ ซึ่งจะเห็นได้ว่าต่ำกว่าผลผลิตเฉลี่ยปาล์มน้ำมันทั้งประเทศที่มีผลผลิตต่อไร่จำนวน 2,790 กก./ไร่/ปี เพียงเล็กน้อย
ทั้งนี้ จากข้อมูลการศึกษา วิเคราะห์และประเมินศักยภาพความเหมาะสมของพื้นที่สวนส้มร้างที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์และไม่ก่อให้เกิดรายได้แก่เกษตรกรผู้ปลูกส้มเดิมในพื้นที่ทุ่งรังสิตแล้ว กระทรวงเกษตรฯ จึงเห็นว่าทุ่งรังสิตน่าจะเป็นแหล่งที่สามารถปลูกปาล์มน้ำมันได้อีกแหล่งหนึ่งของประเทศ โดยจะเป็นพื้นที่เพาะปลูกปาล์มน้ำมันได้ไม่น้อยกว่า 1.5 แสนไร่ เกษตรกรสามารถเข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่า 5,000 ราย และหากประกาศให้ทุ่งรังสิตเป็นเขตส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันจะสามารถผลิตน้ำมันปาล์มเพื่อทดแทนพลังงานได้ปีละไม่น้อยกว่า 5 หมื่นตัน และพื้นที่ร่องส้มยังมีที่ว่างที่มากพอที่จะรองรับน้ำในฤดูน้ำหลากเพื่อเก็บกักไว้ใช้ในฤดูแล้งได้อีกด้วย
นายธีระ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวได้ถูกนำเข้าหารือในการประชุมผู้บริหารของกระทรวงเกษตรฯ แล้ว ที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นความเหมาะสม จึงได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเตรียมนำเสนอกรณีดังกล่าวต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อพิจารณาประกาศให้พื้นที่ทุ่งรังสิตเป็นเขตส่งเสริมปลูกปาล์มน้ำมัน อันจะทำให้ธนาคารเพื่อการเกษตรแลสหกรณ์ การเกษตรช่วยปรับภาระหนี้และให้เงินกู้เพิ่มเพื่อการลงทุนปลูกสร้างสวนปาล์ม และมีโอกาสชำระหนี้เดิมจากการทำสวนส้มได้ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่สวนส้มร้างทุ่งรังสิตที่มีมาอย่างยาวนานต่อไป


