มะลิ’ลุยร้านรถเข็นชากาแฟ
‘
ครั้งแรกในรอบ10ปีงบ150ล. ปีหน้าเปิด2,000จุดทั่วประเทศโพสต์ทูเดย์ — “นมตรามะลิ” ขยับใหญ่รอบ 10 ปี ควักกว่า 150 ล้าน รุกกาแฟชาโบราณยี่ห้อมะลิ ผ่านแฟรนไชส์รถเข็น 2,000 จุดปีหน้า
นายสุวิทย์ ผลวิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท อุตสาห กรรมนมไทย ผู้ผลิตและเจ้าของผลิตภัณฑ์นมตรามะลิ เปิดเผยว่า ปี 2554 บริษัทใช้งบกว่า 150 ล้านบาท เพื่อลงทุนและทำตลาดผลิตภัณฑ์ตรามะลิ โดยพัฒนาสินค้าใหม่ 2 รายการในกลุ่มสินค้าชงดื่ม คือ กาแฟและชาสูตรโบราณตรามะลิ เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทมีสินค้าหลัก คือ นมข้นหวาน นมข้นจืด ครีมเทียมตรามะลิ เบิดวิงซ์ ออร์คิด และนมวัวพร้อมดื่มยูเอชทีตรามะลิ ปี 2553 บริษัทใช้งบทำตลาดกว่า 100 ล้านบาท
สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 รายการดังกล่าว เพื่อต่อยอดธุรกิจ คือ ธุรกิจแฟรนไชส์ “รถเข็นกาแฟโบราณตรามะลิ” โดยบริษัทจะไม่คิดค่าธรรมเนียมแรกเข้า (แฟรน ไชส์ฟี) ซึ่งทดลองเปิดให้บริการไปแล้วกว่า 200 จุดทั่วประเทศในปี 2553 โดยผู้สนใจใช้เงินลงทุนต่อจุดขาย 2.5 หมื่นบาท บริษัทจะจัดหาวัตถุดิบอุปกรณ์สำหรับชงเครื่องดื่มประมาณ 500 แก้ว กำหนดราคาขายต่อแก้ว 20 บาท ซึ่งพบว่าผู้ประกอบการรถเข็นสามารถจำหน่ายเครื่องดื่มได้เฉลี่ยวันละ 100 แก้ว คาดว่าจะมีจุดคุ้มทุนได้ภายใน 1 เดือน และมีกำไร ขึ้นอยู่กับทำเลหรือสถานที่ในการขายด้วย
แนวคิดธุรกิจดังกล่าวของบริษัทเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมกิจการรถเข็นกาแฟโบราณให้อยู่คู่คนไทย ซึ่งบริษัทได้พัฒนาสูตรชงกาแฟชาโบราณที่ใช้นมข้นหวาน เพื่อสร้างความแตกต่างไปจากรถเข็นกาแฟอื่นๆ ในปัจจุบันที่ใช้สูตรครีมเทียม เป็นต้น โดยในครึ่งแรกปี2554 คาดมีผู้สนใจธุรกิจแฟรนไชส์ฯ ราว 1,500 คัน และภาพรวมทั้งปีหน้า บริษัทวางเป้ามีรถเข็นกาแฟโบราณตรามะลิให้บริการทั่วประเทศราว 2,000 คัน แบ่งเป็นต่างจังหวัด 1,500 คัน และกรุงเทพฯ 500 คัน มีรายได้เพิ่มขึ้น 300400 ล้านบาทในปีหน้า
ด้านภาพรวมอุตสาหกรรมนมไทยทุกประเภท ในปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 5% ขณะที่ตลาดนมวัวพร้อมดื่มมีอัตราเติบโตเล็กน้อย จากการแข่งขันรุนแรงของตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในขณะนี้ ที่มีสินค้ากลุ่มต่างๆ เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น อาทิ นมถั่วเหลืองพร้อมดื่มยี่ห้อต่างๆ ที่เข้ามาชิงส่วนแบ่งในตลาดนมวัวพร้อมดื่ม เป็นผลให้เจ้าของสินค้านมวัวต้องปรับตัว ส่วนตลาดนมข้นหวานมีมูลค่าราว 6,000 ล้านบาท โดยตรามะลิ ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ1 กว่า 60%
ขณะเดียวกันในปีหน้า บริษัทยังมีแผนออกสินค้าใหม่ในทุกกลุ่มอาทิ หมวดครีมเทียม นมข้นหวาน เป็นต้น พร้อมศึกษาช่องทางการขยายธุรกิจใหม่ๆไปยังกลุ่มร้านกาแฟสดด้วย ที่นอกจากจะสร้างยอดขายเพิ่มให้บริษัทแล้ว ยังเป็นการสร้างการจดจำตราผลิตภัณฑ์มะลิ ที่อยู่ในตลาดประเทศไทยมานานกว่า 48ปีด้วย พร้อมจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการแข่งขันในตลาดเครื่องดื่มในปีหน้า ที่เจ้าของสินค้าจะมุ่งให้ความสำคัญด้านการสร้างแบรนด์, กลยุทธ์ราคา และสินค้าที่เพิ่มมูลค่า หรือ คุณประโยชน์(ฟังค์ชันนัล) มากขึ้น จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
ขณะที่ผลประกอบการบริษัทในปีนี้คาดว่าอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออก อาทิ ในกลุ่มประเทศอินโดจีน ยุโรป และ แอฟริกา สัดส่วน 25% ที่เหลือ 75% เป็นสัดส่วนยอดขายในประเทศ ขณะที่ปีหน้าบริษัทวางเป้ารายได้เติบโตเพิ่มขึ้น 5% เนื่องจากรายได้การส่งออกลดลงจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นเทียบกับเหรียญสหรัฐอเมริกต่อเนื่องจากปี2553 นี้