“สุริยะ”ทุบโต๊ะ โรงงานหมิงตี้ต้องย้ายออกจากพื้นที่เดิม

นายสุริยะ  จึงรุ่งเรืองกิจ  รมว.อุตสาหกรรม  เปิดเผยถึงแนวทางการดำเนินการและการเยียวยา กรณีเกิดเหตุไฟไหม้ บริษัทหมิงตี้   เคมีคอล จำกัล ว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มี 2 เหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับพี่น้องประชาชนอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นกรณีไฟไหม้โรงงานบริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตโฟมและเม็ดพลาสติก ภายในซอยกิ่งแก้ว เมื่อเช้ามืดของวันที่ 5 กรกฎาคม 2564และเหตุการณ์ไฟไหม้ ณ บริษัท ฟลอรอลแมนูแฟคเจอริ่งกรุ๊ป ย่านลาดกระบัง เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 6 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมานั้น

สำหรับโรงงานบริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ขณะนี้ได้สั่งปิดโรงงานและห้ามประกอบกิจการในพื้นที่เดิม  เนื่องจากเป็นโรงงานที่อันตรายต่อชุมชน  ถ้าอยากประกอบธุรกิจต่อต้องไปอยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม  ขณะเดียวกันได้กำชับอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศตรวจสอบโรงงานเคมีภัณฑ์ที่มีลักษณะใกล้เคียงกันนี้ 446 แห่ง จะต้องมีมาตรการเพิ่มความปลอดภัยอย่างไรบ้างให้มากขึ้น

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงอย่างมาก และได้กำชับให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งดำเนินการตรวจสอบ และดูแลคุณภาพชีวิตของชุมชน และผู้ประกอบการโรงงานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของชุมชนในพื้นที่

ล่าสุดจากการลงพื้นที่ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม พบว่า คุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อระบบทางเดินหายใจของประชาชนโดยรอ ขณะที่โดยรอบโรงงานยังมีสารสไตลีนโมโนเมอร์ตกค้างอยู่ประมาณ 600 ตัน ขณะนี้ได้รับความร่วมมือจากบริษัท ปตท. จำกัด และบริษัท ดาว เคมีคอล ประเทศไทย จำกัด เติมสารดีฮาร์(DEHA) เพื่อลดปฏิกิริยาทางเคมีให้มีสภาพเสถียรและคาดว่าจะสามารถขนย้ายออกเพื่อไปหมดภายใน 3 วันเพื่อนำไปกำจัดตามหลักวิชาการต่อไป

ด้านคุณภาพอากาศได้สั่งการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมออกตรวจคุณภาพอากาศตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน ขณะนี้รายงานสภาพอากาศโดยรอบโรงงานตั้งแต่จุดเกิดเหตุจนถึงรัศมี 10 กิโลเมตร สภาพอากาศอยู่ในในช่วง 0.42 – 0.83 ppm (ส่วนในล้านส่วน) ซึ่งไม่เกินมาตรฐานบรรยากาศตามที่กำหนด (20 ppm)

สำหรับด้านการตรวจสอบคุณภาพน้ำก็ได้สั่งการให้กรมโรงงานลงไปตรวจสอบปรากฎว่าพบการปนเปื้อนของสารสไตรีน ที่เกิดจากการดับเพลิงไหลลงสู่แหล่งน้ำบริเวณรอบโรงงาน ซึ่งสารที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำเหล่านี้ตามหลักวิชาการจะสามารถสลายตัวได้เองภายใน 30-45 วัน

นายสุริยะ กล่าวถึง แนวทางการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ขณะนี้ได้ตั้งจุดรับเรื่องร้องทุกข์3 แห่งคือหน้าโรงงานหมิงตี้  สถานีตำรวจบางแก้ว และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ  โดยขอให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถไปติดได้ตามจุดที่เปิดบริการดังกล่าว ทั้งนี้กระทรวงอุตสาหกรรม จะร่วมเป็นหน่วยงานกลางในการประสานเพื่อเยียวยาประชาชนต่อไป เพื่อประโยชน์ในการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป