บังคับพ่อค้าติดราคารับซื้อผักผลไม้ชาวสวนทุกเช้า

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์   เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ  (กกร.)ว่า  ที่ประชุมเห็นชอบการแสดงราคารับซื้อสินค้าทางการเกษตร ประกอบด้วย 3 มาตรการใหม่ คือ 1.1 ผักและผลไม้ 5 รายการ ประกอบด้วย มะเขือเทศ พริก ฟักทอง กะหล่ำปลี และผักและผลไม้อื่นๆ ต้องปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ เพื่อให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น

2. ผลไม้ 9 ชนิด ประกอบด้วย เงาะ มะม่วง ทุเรียน มังคุด ลองกอง ลำไย ลิ้นจี่ ส้มและสับปะรด นอกจากปิดป้ายแสดงราคารับซื้อแล้ว ต้องปิดป้ายเวลา 8.00 น. ตอนเช้า เพื่อให้เกษตรกรทราบว่าวันนี้ราคาเท่าไหร่ จะเก็บเกี่ยวผลผลิตไปขายหรือไม่จะได้มีทางเลือก

3. พืชผลการเกษตร 4 ชนิด ประกอบด้วย ข้าวเปลือก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมัน(ผลปาล์มสด) และมันสำปะหลัง ห้ามคิดค่าชั่งน้ำหนักแล้วนำไปหักออกจากราคารับซื้อ

นอกจากนี้ที่ประชุมมีมติให้ต่ออายุสินค้าและบริการที่เป็นสินค้าและบริการควบคุม 51 รายการ แบ่งเป็น สินค้า 46 รายการ บริการ 5 รายการ เป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 64 - 30 มิ.ย. 65 และมีมติเพิ่มมาตรการอีก 3 มาตรการ

มาตรการที่ 1  สินค้า 4 รายการ ประกอบด้วย กาก DDGS คือกากเหลือจากทำเอทานอล ข้าวสาลี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลัง ให้สามารถแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการนำเข้าทางอิเล็คทรอนิกส์ได้    มาตรการที่ 2 เหล็ก 3 รายการ ประกอบด้วยเหล็กเส้น ต้องแจ้งข้อมูลปริมารการนำเข้า ปริมาณการผลิต ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณคงเหลือ เป็นประจำทุกเดือน เหล็กเคลือบดีบุกและเหล็กโครเมียม ปรับมาตรฐานการผลิตให้สอดคล้องกับมาตรฐานใหม่ของ มอก.

มาตรการที่ 3 ลิขสิทธิ์เพลง โดยเจ้าของลิขสิทธิ์ต้องแสดงรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งหมด 8 รายการ เพื่อคุ้มครองเจ้าของลิขสิทธิ์และเพื่อคุ้มครองผู้ที่จะมาซื้อลิขสิทธิ์หรือใช้บริการลิขสิทธิ์ เช่น ชื่อผู้แต่งเนื้อร้องและทำนอง และวันสิ้นสุดสัญญาอนุญาตให้จัดเก็บค่าตอบแทน เป็นต้น

นายจุรินทร์  กล่าวว่า  ที่ประชุมยังมีมติตั้งคณะอนุกรรมการ เพื่อพิจารณาเรื่อง แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่หรือแพลตฟอร์มให้บริการจำหน่ายอาหารผ่านระบบเดลิเวอรี่ ให้พิจารณาเรื่องค่าจีพี ค่าขนส่งหรือค่าใช้จ่ายอื่น เพื่อให้แพลตฟอร์มอยู่ได้และร้านอาหารและผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมยิ่งขึ้น หาจุดสมดุลของทั้ง 3 ฝ่ายต่อไป โดยมอบหมายให้อธิบดีกรมการค้าภายในเป็นประธานอนุกรรมการและมีคณะกรรมการที่ประกอบด้วยทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาร่วมดำเนินการในเรื่องนี้