‘บี แอนด์ จี พาร์ค’ ส่งโครงการอินเตอร์เชนจ 21 ตั้ง BGREIT รับเทรนด์ออฟฟิศกลางเมืองกรุง
ตลาดอาคารสำนักงานในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะศูนย์กลางเขตธุรกิจ (CBD) คาดว่าจะเริ่มมีพื้นที่อาคารสำนักงานใหม่เพิ่มมากขึ้น นับตั้งแต่ ปี 2563 จนถึง ปี 2568 คิดเป็นพื้นที่เช่าประมาณ 830,000 ตารางเมตร สอดคล้องกับอัตราค่าเช่าที่สามารถปล่อยเช่าได้ในอัตราสูงกว่าพื้นที่อาคารสำนักงานทั่วไป โดยเฉพาะอาคารสำนักงานเกรด A ในพื้นที่ CBD เริ่มต้นเฉลี่ย 1,000-1,600 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับพื้นที่ตั้งอยู่ในทำเลชั้นเยี่ยม พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับการใช้บริการ โดยเฉพาะอาคารเกรด A ที่มีคุณสมบัติเหนือชั้น ตั้งแต่ลักษณะการออกแบบพื้นที่อาคารแต่ละชั้นให้สามารถใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบปรับอากาศเป็นแบบทำความเย็นจากส่วนกลาง การใช้เทคโนโลยีในตัวอาคารเพื่อประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการอาคารแบบมืออาชีพ
อาคารสำนักงานที่อยู่ใจกลางย่านธุรกิจ CBD ถือเป็นข้อได้เปรียบในเรื่องทำเลที่ตั้ง ไม่ว่าจะเป็นย่านสีลม สาทร อโศก รวมถึงสุขุมวิท ทำให้อุปสงค์มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ผ่านมา (2558-2562) มีอัตราการเช่าพื้นที่มากกว่า 95% ต่อปี นับว่าเป็นตลาดที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง จึงเหมาะสำหรับผู้เช่าที่กำลังมองหาออฟฟิศที่มีศักยภาพ บนทำเลที่เป็นพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจ ตั้งอยู่ใกล้ระบบขนส่งมวลชนและรถไฟฟ้า ทั้ง BTS และ MRT เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางของพนักงานและลูกค้าที่เข้ามาติดต่อธุรกิจ รวมถึงการตัดสินใจเช่าพื้นที่หรือลงทุนในระยะยาว
ประกอบกับการจัดพื้นที่เช่าของอาคารได้ตามความเหมาะสม เพื่อรองรับผู้เช่าได้ในหลากหลายธุรกิจ แต่ยังคงตอบโจทย์ความต้องการใช้พื้นที่ของแต่ละธุรกิจได้เช่นเดียวกัน ตั้งแต่พื้นที่เช่าสำนักงานสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ไปจนถึงธุรกิจขนาดเล็ก รวมถึงมีพื้นที่ค้าปลีกสำหรับร้านค้า ร้านขายอาหาร จุดบริการต่างๆ ภายในบริเวณอาคาร ตลอดจนพื้นที่เพื่อการโฆษณาและประชาสัมพันธ์
จึงถือเป็นโอกาสที่ดีของ ‘โครงการอินเตอร์เชนจ 21’ อาคารสำนักงานให้เช่าเกรด A ที่บริหารงานโดย บริษัท บี แอนด์ จี พาร์ค จำกัด หรือ B&G Park อาคารสำนักงานให้เช่าที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้เช่าแบบครบวงจร มีที่ตั้งอยู่บนทำเล Super Prime Area บริเวณสี่แยกจุดตัดถนนสุขุมวิทและถนนอโศกมนตรี สามารถเชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่ภายในอาคารได้อย่างสะดวกจากรถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก และรถไฟฟ้า MRT สถานีสุขุมวิท และเชื่อมโยงกับห้างสรรพสินค้าชื่อดัง โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว และร้านอาหารชั้นนำต่างๆ มากมาย
ด้วยตัวอาคารที่มีความสวยงาม และทันสมัย ออกแบบโดยผู้มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Palmer & Turner และ RDG Planning & Design ทำให้ตัวอาคารมีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ ส่งผลให้เป็นที่สะดุดตาและสร้างความดึงดูดใจให้แก่ผู้เช่ารายอื่นที่กำลังมองหาพื้นที่ทำธุรกิจภายในสำนักงาน นอกจากนั้น อาคารแห่งนี้ยังมีระบบเทคโนโลยีอันทันสมัยเป็นตัวซัพพอร์ต และตอบสนองความต้องการของผู้เช่า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศระบบประหยัดพลังงาน ลิฟท์โดยสารความเร็วสูง อุปกรณ์ LED ระบบไฟฟ้าสำรอง และระบบรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร 24 ชั่วโมง
นอกจากความพร้อมเรื่องระบบภายในตัวอาคาร และจุดเด่นด้านการอนุรักษ์พลังงานแล้ว ‘โครงการอินเตอร์เชนจ 21’ ยังได้รับรางวัลการันตีคุณภาพมากมาย ซึ่งสร้างชื่อเสียงและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในด้านการบริหาร และได้มาตรฐานตามหลักสากล โดยเฉพาะด้านการประหยัดพลังงาน ซึ่งตั้งแต่ปี 2556 – ปี 2561 ได้รับรางวัลจากกระทรวงพลังงานมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด รับรางวัลดีเด่น 2E Building แบบอาคารอนุรักษ์พลังงาน ปี 2561
เหนือสิ่งอื่นใดเพื่อให้ ’โครงการอินเตอร์เชนจ 21’ มีรายได้มั่นคงในระยะยาว การคัดเลือกผู้เช่าในพื้นที่จึงมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการพัฒนาตัวอาคาร โดยมีบริษัท บี แอนด์ จี พาร์ค จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นผู้บริหารอาคารตั้งแต่เริ่มโครงการ ดำเนินการคัดกรอง และสรรหาผู้เช่าที่เชื่อถือได้ มีการตรวจสอบทั้งประวัติ และศักยภาพของผู้เช่าพื้นที่อย่างละเอียด ลดความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ค่าเช่า และสร้างเสถียรภาพทางการเงินของ ‘โครงการอินเตอร์เชนจ 21’ เพื่อรักษาอัตราการเช่าให้อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง โดย ‘โครงการอินเตอร์เชนจ 21’ ปัจจุบันมีอัตราการเช่ากว่า 97% (ข้อมูล ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2563)
ล่าสุด บริษัท บี แอนด์ จี พาร์ค จำกัด เตรียมนำทรัพย์สิน ได้แก่ ‘โครงการอินเตอร์เชนจ 21’ จัดตั้ง ‘ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ บี แอนด์ จี (BGREIT)’ โดยเป็นการลงทุนครั้งแรก ประกอบด้วยสิทธิการเช่าของพื้นที่อาคาร พื้นที่ส่วนกลาง พื้นที่จอดรถยนต์ และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์และอุปกรณ์ต่างๆ ของโครงการฯ เป็นระยะเวลาการเข้าลงทุนประมาณ 25 ปี รวมเป็นมูลค่าเงินระดมทุนทั้งสิ้นไม่เกิน 7,555 ล้านบาท จากการระดมทุนจำนวนไม่เกิน 6,055 ล้านบาท และเงินกู้ยืมระยะยาวจำนวนไม่เกิน 1,500 ล้านบาท โดยมีประมาณการผลตอบแทนขั้นต่ำ (ที่ราคาเข้าลงทุนสูงสุด) ที่ร้อยละ 6.5 สำหรับงวด 12 เดือนนับตั้งแต่วันที่กองทรัสต์เข้าลงทุน (เดิมคาดการณ์วันเข้าลงทุนเป็นวันที่ 1 มิถุนายน 2563 โดยปัจจุบันคาดการณ์วันเข้าลงทุนเป็นภายในเดือนกันยายน 2563)
เนื่องจากทรัพย์สินตั้งอยู่บนทำเลย่านศูนย์กลางธุรกิจ CBD และด้วยแนวโน้มอัตราค่าเช่าพื้นที่มีโอกาสปรับขึ้นสอดรับกับแนวโน้มความต้องการของผู้เช่าที่เพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี รวมถึงมีผู้เช่าที่มีชื่อเสียงเข้าจับจองพื้นที่เช่า ทำให้ ‘โครงการอินเตอร์เชนจ 21’ เป็นอีกทรัพย์สินหนึ่งที่น่าลงทุน และพร้อมที่จะเติบโตควบคู่ไปกับผู้เช่าพื้นที่ที่เข้าใช้บริการ…
ข้อมูลอ้างอิง
https://www.phoenixproperty.co.th/blogs/research/1275
https://www.cbre.co.th/th/guides/bangkokofficerentlease
https://www.thansettakij.com/content/409283