posttoday

‘ราช กรุ๊ป’ ทุ่ม 662 ล้าน ร่วมทุนสิงคโปร์ ลุยโรงไฟฟ้าโคเจนฯที่ระยอง 92 เมกะวัตต์

13 มีนาคม 2563

'ราช กรุ๊ป' รุกธุรกิจพลังงานโซนภาคตะวันออกแห่งแรก จับมือ Nexif Energy พันธมิตรจากสิงคโปร์ ซื้อหุ้น โรงไฟฟ้าที่ระยอง วงเงิน 662 ล้านบาท ขยายฐานไฟฟ้าในภาคตะวันออก และ อีอีซี สร้างความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศ

นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ราช กรุ๊ป และบริษัท Nexif Energy Thailand B.V. ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น เพื่อเข้าซื้อหุ้นสามัญร้อยละ 49 ของบริษัท NER Singapore Pte. Ltd. ซึ่งถือหุ้นในบริษัท เน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี ระยอง จำกัด ที่เป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี ระยอง  กำลังผลิต  92 เมกะวัตต์ มูลค่าการลงทุน 21 ล้านเหรียญสหรัฐ  หรือประมาณ 662 ล้านบาท

โครงการดังกล่าวมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าประเภทผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็กสัญญา Firm ระบบโคเจนเนอเรชั่น กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระยะเวลา 25 ปี   โดยโครงการนี้ได้จัดหาเงินกู้เป็นที่เรียบร้อยแล้วและพร้อมเริ่มก่อสร้างในเดือนเมษายน 2563 โดยมีกำหนดการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในเดือนเมษายน 2565

การร่วมทุนกับ Nexif Energy ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานชั้นนำของสิงคโปร์และมีการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนและโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหลักในอาเซียนและออสเตรเลียในโครงการโรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี จังหวัดระยอง นับเป็นความสำเร็จของบริษัทฯ ในการขยายฐานผลิตไฟฟ้าในภาคตะวันออก และมีส่วนช่วยผลิตไฟฟ้าเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศและภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะผนึกกำลังกันขับเคลื่อนโครงการเน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี ให้เดินหน้าสำเร็จตามเป้าหมาย พร้อมทั้งจับมือเป็นพันธมิตรระยะยาวเพื่อพัฒนาความร่วมมือโครงการอื่นๆ ในอนาคต เพราะทั้งสองบริษัทฯ มีเป้าหมายและฐานธุรกิจในเอเชีย และออสเตรเลียเช่นเดียวกัน

“โครงการเน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี ระยอง เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่บริษัทฯ หมายมั่นจะลงทุนให้สำเร็จในปีนี้ เพราะเป็นโครงการที่พร้อมเดินหน้าก่อสร้างได้ในเดือนเมษายนปีนี้ อีกทั้งยังเป็นโครงการโรงไฟฟ้าแห่งแรกในภาคตะวันออกของบริษัทฯ ซึ่งจะเป็นช่องทางที่จะขยายการลงทุนพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ของภาครัฐได้ สำหรับ กระแสไฟฟ้า 90 เมกะวัตต์ที่ผลิตจากโครงการนี้จะจำหน่ายให้กับ กฟผ. ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ส่วนที่เหลือจะผลิตจำหน่ายแก่ลูกค้าอุตสาหกรรมในสวนอุตสาหกรรม เอสเอสพี อินดัสเทรียล พาร์ค”นายกิจจา กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเห็นศักยภาพของโครงการที่จะขยายกำลังการผลิตตอบสนองความต้องการลูกค้าอุตสาหกรรมในอนาคตตามแผนการลงทุนปี 2563 ด้วย ความสำเร็จของโครงการนี้จะเป็นแรงผลักดันให้บริษัทฯ เดินหน้าขยายลงทุน โดยเฉพาะโครงการที่พัฒนาแล้ว (Brownfields) และกิจการที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว เพื่อให้บรรลุเป้าหมายกำลังผลิตเพิ่ม 780 เมกะวัตต์ในปี 2563 ซึ่งบริษัทฯ ได้จัดเตรียมเงินลงทุนรองรับไว้แล้ว 20,000 ล้านบาท

สำหรับบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันมีกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้นในประเทศไทยรวม 5,898.39 เมกะวัตต์ คิดเป็น 68% ของกำลังผลิตรวม (8,700.15 เมกะวัตต์) สำหรับโครงการเน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี ระยอง เป็นโรงไฟฟ้าผู้ผลิตเอกชนรายเล็กประเภทโคเจนเนอเรชั่นแห่งที่ 5 ของบริษัทฯ เมื่อปลายปี 2562 บริษัทฯ ได้เข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าราชโคเจนเนอเรชั่น ตั้งอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี (ถือหุ้น 99.97%) ส่วนอีก 3 โครงการประกอบด้วยโรงไฟฟ้าราชบุรีเวอลด์โคเจนเนอเรชั่น จังหวัดราชบุรี (ถือหุ้น 40%) โรงผลิตไฟฟ้านวนคร จังหวัดปทุมธานี (ถือหุ้น 40%) โรงไฟฟ้าเบิกไพรโคเจนเนอเรชั่น จังหวัดราชบุรี  (ถือหุ้น 35%)

ข่าวล่าสุด

เปิดโผกลุ่มหุ้นได้-เสียประโยชน์ เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 4.5 ปี