บ้านปูทิ้งหุ้นราชบุรีฟันกำไร2.5พันล้าน

บ้านปูขายทิ้ง RATCH เกลี้ยงพอร์ต นำเงินลุยเหมืองถ่านหิน คาดไตรมาส 4 ฟันกำไรพิเศษ 2,550 ล้านบาท ด้านราชบุรียันไม่กระทบธุรกิจ

บริษัท บ้านปู (BANPU) และบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ ได้ขายหุ้นเดิมที่ถืออยู่ทั้งหมดจำนวน 202.4 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 13.96% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ในบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง (RATCH) ให้แก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศในวงจำกัดที่ราคา 33 บาทต่อหุ้น คาดว่าจะได้รับมูลค่าตอบแทนประมาณ 6,679 ล้านบาท หรือประมาณ 223 ล้านเหรียญสหรัฐ (ตามอัตราแลกเปลี่ยนที่ 29.98 บาทต่อ 1 เหรียญสหรัฐ ณ วันที่ 18 พ.ย. 2553) และการทำธุรกรรมดังกล่าวเป็นไปตามกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัทที่จะมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจถ่านหินและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับถ่านหินเป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม การขายหุ้นราชบุรีได้ปรากฏในกระดานซื้อขายหุ้นขนาดใหญ่ (บิ๊กล็อต) แล้วเมื่อวันที่ 19 พ.ย. จำนวน 72 รายการ

ด้าน RATCH ยืนยันว่าไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีที่กลุ่มบริษัทบ้านปูขายหุ้นออกมา เพราะธุรกิจของบริษัทยังคงดำเนินการตามปกติและเติบโตได้ตามแผน สำหรับการขายหุ้นของกลุ่มบ้านปูเป็นการทำธุรกรรมปกติของนักลงทุนที่สามารถดำเนินการได้ภายใต้กฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และทั้งสองบริษัทยังคงร่วมมือกันเดินหน้าโครงการร่วมทุนที่มีอยู่ร่วมกันต่อไป

บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส (ASP) คาดว่า บ้านปูจะได้รับกำไรจากการขายหุ้นครั้งนี้หลังหักภาษีประมาณ 2,550 ล้านบาท ในงวดไตรมาส 4 นี้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการขายหุ้น RATCH ออกมาในครั้งนี้เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้ในการลงทุนซื้อเหมืองถ่านหินในออสเตรเลียผ่านบริษัท Centennial ซึ่งถือเป็นการลงทุนครั้งสำคัญของ BANPU เพราะจะทำให้ปริมาณสำรองถ่านหินของ BANPU เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว เป็นประมาณ 900 ล้านตัน ดังนั้นจึงแนะนำให้ทยอยซื้อลงทุนในหุ้น เนื่องจาก BANPU ถือเป็นบริษัทที่มีพื้นฐานกิจการที่แข็งแกร่ง

ด้านราคาหุ้นบ้านปูพุ่งรับข่าวการขายหุ้น เพราะนอกจากจะได้รับกำไรจากการขายเงินลงทุนแล้วยังมีเงินนำไปขยายการลงทุนด้วย โดยราคาหุ้นพุ่งมาซื้อขายที่ 780 บาท เพิ่มขึ้น 22 บาท

ขณะนี้หุ้นของ RATCH ซึ่งถูกผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 และ 4 ขายหุ้นเกลี้ยงพอร์ตราคาหุ้นปรับตัวลดลงทันที โดยลงมาซื้อขายที่ 35.25 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 4.08% เพราะในการขายครั้งนี้บ้านปูขายในราคาที่ต่ำกว่ากระดานประมาณ 10%

ด้าน นักวิเคราะห์บล.ธนชาตประเมินว่า RATCH เป็น หุ้นที่ราคาถูก ในตลาดไทย โดย ราคาต่ำกว่าคู่แข่งในตลาดราว 34-58% และ ดัชนีหุ้นราว 35% ในปีนี้ อุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าที่แข็งแกร่งขึ้น และการเข้าสู่รอบการลงทุนใหม่ของไทยในช่วง 2 ปีข้างหน้ายังไม่สะท้อนไปยังราคาหุ้นของ RATCH ซึ่งแตกต่างจากบริษัทผลิตไฟฟ้าอื่น

ปัจจุบัน RATCH ซื้อขายที่ระดับต่ำกว่าราคาเป้าหมาย ที่ 49 บาท/หุ้น และซื้อขายที่สัดส่วนราคาต่อกำไร (PE) ที่ 9 เท่าในปี 2554 ซึ่งต่ำกว่าระดับการซื้อขายที่ 9-12 เท่าในช่วงปี 2549-2551 ซึ่งเป็นช่วงที่อุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าของไทย|อยู่ในภาวะย่ำแย่ด้วยมีอัตรากำไรสำรอง มหาศาลที่ 22-30% เทียบ อีก 2 ปีข้างหน้าที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 15%

นอกจากนี้ กำไรและมูลค่ายังมี โอกาสปรับขึ้นจากการทำการรวมกิจการ และโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก ขณะที่มีปัจจัยลบต่อราคาหุ้นจำกัด เพราะ BANPU ได้ขายหุ้นใน RATCH เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”