ส่อง 3 เทรนด์ธุรกิจ อะไรจะเกิดขึ้นในโลก อีคอมเมิร์ซ 2020

ไพรซ์ซ่า เผยแนวโน้มสำคัญในปีหน้า “อีคอมเมิร์ซคือโลกทั้งใบ-แบรนด์สินค้าเจาะตรงผู้บริโภค และ ไทยขึ้นผู้นำโซเชียล คอมเมิร์ซ” แถมด้วยคอมเมิร์ซ เดลิเวอรี มาแน่ๆ

พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป คือ ตัวแปรหลักที่เข้ามา “ดิสรัปท์” การทำธุรกิจแบบเก่าให้ก้าวไปสู่โลกธุรกิจออนไลน์ ได้อย่างรวดเร็วในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา  และยังสะท้อนออกมาให้เห็นได้ชัด ผ่านการจัดงาน “Priceza E-Commerce Summit 2020” โดย บริษัทไพรซ์ซ่า จำกัด ได้ออกมาบอกเล่าถึงเทรนด์ธุรกิจ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีหน้า 

คนไทยใช้เวลาบนอินเทอร์เน็ต เบอร์ 3 ของโลก

ธนาวัฒน์ มาลาบุปผา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัทไพรซ์ซ่า จำกัด และ นายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเบ็กทรอนิกส์ไทย กล่าวในหัวข้อ Thailand E-Commerce Trends 2020 by Priceza ว่า จากข้อมูลของคนไทย ใช้เวลาบนอินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 9 ชั่วโมง 11 นาทีต่อหนึ่งวัน ซึ่งสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลก 

นอกจากนี้ ในด้านกิจกรรมช้อปปิวงออนไลน์ยังติด 1 ใน 5 กิจกรรมในอินเทอร์เน็ตที่คนไทยใช้เวลามากที่สุด ทำให้เห็นว่า ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ กำลังเติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้น อีกทั้งยังมีช่องว่างและโอกาสอีกมาก ที่จะทำให้ธุรกิจของผู้ประกอบการไทย เติบโตมากขึ้นกว่าเดิม 

3 เทรนด์ธุรกิจต้องมาในปี 2563 

สำหรับเทรนด์ธุรกิจในปีหน้า ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น มีดังนี้   

เทรนด์ที่ 1 E-Commerce is global

อีคอมเมิร์ซ เป็นการค้าไร้พรมแดนอยู่แล้ว แต่ในปี 2563 จะไม่ใช่แค่ข้ามภูมิภาค แต่จะเป็นการข้ามประเทศ อ้างอิงจากข้อมูลของสินค้าใน 3 Marketplace ดังในประเทศไทย เมื่อเปรียบเทียบจำนวนสินค้าของปี 2561ที่มีจำนวน 74 ล้านชิ้น และในปีนี้ (2562) มีจำนวนสินค้าเติบโตมากขึ้นถึง 174 ล้านชิ้น หรือ มากกว่าถึง 2.4 เท่า

และเมื่อเจาะลึกลงไป จะเห็นว่าเป็นสินค้าที่มาจากประเทศจีน มากถึง 77% ประกอบกับนโยบายของรัฐบาล ด้าน Free Trade Area ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีชี ที่ยังจะส่งผลให้ในปีหน้า การขนส่งสินค้าจากต่างประเทศมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม 

เทรนด์ที่2 DTC: Direct to Consumer 

แบรนด์สินค้า จะสร้างความสัมพันธ์โดยตรงกับลูกค้ามากขึ้น ซึ่งสอดคล้องจากข้อมูบลของมาร์เก็ตเพลสดัง ในไทย ที่มีแบรนด์สินค้าเฉลี่ยทั้งหมด 44,000 แบรนด์ และมีจำนวน Brand Offcial Shop ทั้งหมด 1,700 ร้านค้า หรือ 4% 

ทิศทางดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าจำนวนแบรนด์ที่เข้ามาเปิดร้เานในมาร์?เก็ตเพลส ยังคงมีจำนวนไม่มาก โดยในปีหน้า คาดการณ์ว่าจำนวนร้านค้าแบรนด์ ออฟฟิศเชียล ช้อป และจำนวนสินค้า จะเพิ่มมากขึ้นถึง 3 เท่าตัวเลยทีเดียว

ทั้งนี้ ชี้ให้เห็นถึงโอกาสของแบรนด์ต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องพึ่งช่องทางการขายแบบเดิมอีกต่อไป 

เทรนด์ที่ 3 Thailand World’s Leader in Social Commerce 

ประเทศไทย จะเป็นผู้นำของตบาดโซเชียลอีคอมเมิร์ซ (จากผลการวิจัย “Conversational Commerce: the next gen of E-Com” by BCG (Facebook, Aug 2019)   เผยว่าคนไทยยอมรับว่าเคยช้อปปิงผ่านโซเชียล คอมเมิร์ซ มากถึง 40% ซึ่งถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีจำนวนคนช้อปปิงผ่านโซเชียล คอมเมิร์ซ มากที่สุดอีกด้วย

ทั้งนี้ในปีหน้า โซเชียล คอมเมิร์ซ ในแพล็๖ฟอร์มต่างๆ อาทิ เฟซบุค อินสตาแกรม และ ไลน์ จะสามารถปิดการขายได้ในแอปพลิเคชันเดียว ไม่ต้องเสียเวลาออกไปแอปฯธนาคารเพื่อชำระสินค้าอีกต่อไป

2020: เข้าสู่โลก อีคอมเมิร์ซ เดลิเวอรี

ธนาวัฒน์ กล่าวว่า อีกหนึ่งไฮไลท์ น่าสนใจซึ่งเป็นข้อมูลที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในปี2563 ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นปีทองของ อีคอมเมิร์ซ เดลิเวอรี ได้แก่ ธุรกิจบริษัทประเภท Food Delivery (Grab, Get, Line Man) ที่นอกจากจะส่งตรงสินค้าถึงมือผู้บริโภคได้แล้ว 

บริษัทเหล่านี้ ยังสามารถส่งสินค้าอีคอมเมิร์ซ ได้อีกด้วย พร้อมทั้งส่งตรงสินค้าถึงมือผู้บริโภคภายในวันเดียว (Same Day Delivery)  ดังนั้นการแข่งขันของธุรกิจโลจิสติกส์ในปีหน้า จะดุเดือดกว่าในปีนี้ 

สำหรับไพรซ์ซ่า เป็นแพล็ตฟอร์มค้นหาสินค้าสินค้าและเปรียบเทียบราคาสินค้าออนไลน์ จากข้อมูลของผู้บริโภคกว่า 56% ที่ใช้สมาร์ทโฟนในการเปรียบเทียบราคาสินค้าแต่ละแบรนด์ก่อนตัดสินใจซื้อ (ข้อมูลจาก MarketBuzz 2017)