ตั้งโต๊ะรับคืน 3 สารพิษ เรียกเอกชนถก 21 พ.ย.นี้
'มนัญญา' เชิญ 3 สมาคมผู้ส่งออก- นำเข้า 3 สาร หารือ 21 พ.ย. นี้ หาทางเคลียร์สต๊อกเก่า เล็งรับคืน - ส่งออก ใครไม่มาถือว่ารับทราบกฏเหล็ก ดีเดย์1 ธ.ค. ใครครอบครองไว้ โดนเช็คบิลแน่
'มนัญญา' เชิญ 3 สมาคมผู้ส่งออก- นำเข้า 3 สาร หารือ 21 พ.ย. นี้ หาทางเคลียร์สต๊อกเก่า เล็งรับคืน - ส่งออก ใครไม่มาถือว่ารับทราบกฏเหล็ก ดีเดย์1 ธ.ค. ใครครอบครองไว้ โดนเช็คบิลแน่
น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้ออกหนังสือเชิญ 3 สมาคมผู้ส่งออก -นำเข้า 3 สารเคมี มาประชุมวันที่ 21 พ.ย. ที่กระทรวงเกษตรฯช่วงบ่าย ภายหลังที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติแบนและขึ้นทะเบียน 3 สาร คือ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส ไกลโฟเซต เป็นวัตถุอันตรายประเภทที่ 4 ในวันที่ 1 ธ.ค. 2562 เพื่อหารือถึงมาตรการรับคืนสารเคมีจากประชาชน เกษตรกร และการส่งออก 3 สาร โดยตนพร้อมที่จะลงนามในหนังสือส่งออก 3 สารไปประเทศที่สาม หรือประเทศต้นทาง ในฐานะที่กำกับดูแลกรมวิชาการเกษตร เพราะหากยังใช้สารเคมีอันตรายคาดว่าอนาคตประเทศไทยจะไม่มีคนทำการเกษตรเพราะเสียชีวิตก่อนวัยอันควรและดินเสียจากสารตกค้างในดิน
"ขอให้บริษัทเหล่านั้น มาประชุมเพื่อกำหนดแนวทางการรับคืนสารเคมี จากเกษตรกร ร้านผู้แทนจำหน่าย ร่วมทั้งการส่งออกกลับไปประเทศอื่นหรือประเทศต้นทาง หากวันที่ 21 พ.ย. ไม่มา แสดงว่า บริษัทเหล่านั้นไม่เดือดร้อน ไม่มีสารเคมีอันตรายทั้ง 3 สาร ในมือในสต๊อกแล้ว เพราะหลังวันที่ 1 ธ.ค. 2562 ซึ่งเป็นวันที่มีผลบังคับใช้ต้องไม่มีสารเหล่านี้ในประเทศไทยอีก และสารเคมีเหล่านั้นเป็นภาระบริษัทเอกชนที่นำเข้า ต้องรับผิดชอบในการนำกลับรีเอ็กพอร์ตกลับไป หรือการทำลายตามกฎหมาย และไม่สามารถเอาเงินหลวงไปใช้ได้ ยืนยันว่าเป็นภาระของบริษัทที่จะต้องนำกลับคืนตามกฎหมายเท่านั้น ใครใช้เงินหลวงไปรับทำลายติดคุก" น.ส.มนัญญากล่าว
นอกจากนั้นในวันที่ 22 พ.ย. จะมีการประชุมสารวัตรเกษตรทั่วประเทศ 300 กว่าคนเพื่อรับทราบแนวทางในการลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับเกษตรกรและประชาชนที่มีสารทั้ง 3 ตัวในครอบครองว่าต้องไปส่งคืนบริษัทหรือร้านค้าหรือเอเยนต์อย่างไร
น.ส.มนัญญา กล่าวว่า ไม่เสียเวลารอกระทรวงอื่นแล้ว ว่าจะมีท่าทีอะไรต่อ 3 สาร เพราะ ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. หากเกษตรกรเราไม่ทราบ โทษตามกฎหมายหนักจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับเป็นแสนเป็นล้าน ซึ่งไม่อยากให้มีภาพเกษตรกรของเราโดนตรวจจับเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงให้เรียกประชุมสารวัตรเกษตร จะได้รับทราบทิศทางเดียวและลงพื้นที่แจ้งเตือนประชาชนทันที