posttoday

SHR ชูกำไรจากการดำเนินงาน 9 เดือน 783 ล้านบาท โตกว่า 9 %

12 พฤศจิกายน 2562

มั่นใจหลัง IPO โครงสร้างเงินทุนและผลประกอบการแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน

มั่นใจหลัง IPO โครงสร้างเงินทุนและผลประกอบการแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน

นายเดิร์ก อังเดร ลีน่า คุยเบอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR)เปิดเผยว่า รายได้และกำไรจากการดำเนินงานหรือ อีบิตดา ในรอบ 9 เดือน ปี 2562 ของบริษัทฯ เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้

โดยรายได้ในรอบ 9 เดือนปี 2562 อยู่ที่ 2,639 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 66% และอีบิตดาอยู่ที่ 783 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 9 % เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้เต็ม 9 เดือนของโรงแรม 6 แห่ง ในกลุ่ม Outrigger และการรับรู้รายได้บางส่วนของโรงแรม 2 แห่ง ในโครงการ CROSSROADS ที่บริษัทฯ เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ภาพรวมผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจเพราะ 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทฯมีค่าใช้จ่ายที่ไม่เกิดขึ้นประจำกว่า 260 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเปิดให้บริการโรงแรม 2 แห่ง ใน CROSSROADS ในช่วงต้น ซึ่งเป็นปกติของธุรกิจโรงแรมและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ

ประกอบกับบริษัทฯ ยังมีภาระต้นทุนทางการเงินที่กู้ยืมจากธนาคารมากกว่า 150 ล้านบาท เพื่อใช้ในการซื้อโรงแรม Outrigger เมื่อเดือนมิ.ย. 2561 ซึ่ง
สิ่งเหล่านี้เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่เกิดขึ้นประจำและเกิดขึ้นในปีนี้เพียงปีเดียว

"บริษัทฯ มั่นใจว่าหลังจากได้เงินทุนที่ระดมทุนได้จาก IPO ในครั้งนี้ มาเสริมความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุนให้บริษัทฯ ด้วยการชำระคืนเงินกู้เพื่อซื้อกิจการนี้จะลดภาระต้นทุนทางการเงินในส่วนนี้ได้ ประกอบกับโรงแรม 2 โรงแรมใน CROSSROADS ที่จะเปิดดำเนินการเต็มปีในปีหน้า ซึ่งผลตอบรับในช่วงแรกจากนักท่องเที่ยวก็เป็นไปด้วยดี เรามั่นใจว่าด้วยพื้นฐานของกำไร EBITDA ที่ดีอยู่แล้วสำหรับโรงแรมที่เปิดดำเนินการอยู่เดิม 8 โรง พร้อมกับปัจจัยบวก 2-3 ประการดังกล่าว ผลประกอบการปีต่อไปต้องเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งแน่นอน” นายเดิร์ก กล่าว

SHR เป็นบริษัทเพื่อการลงทุน (บริษัทโฮลดิ้ง ) ที่เน้นลงทุนในโรงแรมและรีสอร์ทระดับบนในราคาที่เข้าถึงได้ (Affordable Luxury) ที่ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมระดับโลก

ปัจจุบัน SHR มีจำนวนห้องพักรวมทั้งสิ้น 4,647 ห้อง จากโรงแรมและรีสอร์ทจำนวน 39 แห่ง ใน 5 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย สาธารณรัฐมัลดีฟส์ สาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ สาธารณรัฐมอริเชียส และ สหราชอาณาจักร

สำหรับช่วง 3 ปีที่ผ่านมา SHR เป็นบริษัทในธุรกิจโรงแรมที่มีอัตราการเติบโตของการเพิ่มขึ้นของรายได้และจำนวนห้องสูงที่สุด เมื่อเทียบกับคู่แข่งเทียบเคียงในอุตสาหกรรมที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทย ซึ่งเกิดจากการเติบโตทั้งในรูปแบบของการเติบโตบนทรัพย์สินของตัวเอง (Organic Growth) และในรูปแบบของการเข้าซื้อกิจการ (Inorganic Growth)