Play
ส่องโอกาสธุรกิจโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวไทยระดับเวิลด์คลาส กับ ‘Blue Whale Assets’
จากความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวยังเป็นความได้เปรียบในการแข่งขัน
จากความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวยังเป็นความได้เปรียบในการแข่งขัน (Competitive Advantage) และเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของเมืองไทย โดยประเทศไทยสามารถคว้ารางวัล The World's Best Tourist Country ติดต่อกันยาวนานกว่า 9 ปี นับตั้งแต่ปี 2553 จากการจัดอันดับของ Travel News นิตยสารธุรกิจท่องเที่ยวชื่อดังในสแกนดิเนเวีย(1) การันตีถึงความนิยมในเมืองไทยจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้เป็นอย่างดี
แม้ว่าปัจจุบันมีความท้าทายจากปัจจัยต่าง ๆ อาทิ ภาวะเศรษฐกิจโลก, ค่าเงินบาทที่แข็งค่า, ความไม่แน่นอนทางการเมืองระหว่างประเทศ แต่ภาพรวมสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเมืองไทย ยังเพิ่มขึ้นในอัตราเฉลี่ยต่อปี (CARG) กว่า 9.38%(2) โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมได้รับอานิสงส์จากการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวตามไปด้วย โดยภาพรวมธุรกิจโรงแรมในประเทศพบว่า มีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องทั้งอัตราการเข้าพักที่อยู่ในระดับสูงกว่า 70% และราคาห้องพักเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น 10% จากปีที่ผ่านมา ทั้งยังมีศักยภาพที่จะปรับสูงตามเทรนด์การเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว(2)
‘รุ่งยศ จันทภาษา’ CEO บริษัท บลูเวล แอสเซท จำกัด ผู้จัดตั้งกองทรัสต์ บลูเวล ฮอสพิทอลลิตี้ (BWHREIT) ซึ่งเป็นกองทรัสต์อิสระ เพื่อจะเข้าลงทุนครั้งแรกในโรงแรมชั้นนำในประเทศไทย ให้มุมมองว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวไทยมีอัตราการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในไทย โดยในปีที่ผ่านมาติดอันดับที่ 12 ของ World Most Visited City จากการจัดอันดับของ Mastercard Global Destination Cities Index มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากว่า 9.7 ล้านคน โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรกที่มีสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุดในรอบ 10 ปี
นอกจากนี้ ไทยยังมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายสไตล์ที่มีชื่อเสียงติดอันดับต้น ๆ ของโลก เช่น กรุงเทพฯ เป็นอันดับ 1 ของ World Most Visited City และเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวใช้จ่ายสูงสุดเป็นอันดับ 5(3), เกาะสมุย ได้รับการจัดอันดับเป็น Best Holiday Destination ในอันดับ 8 ของโลก(4) และแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของคนไทยอย่างเขาใหญ่ ก็ถือเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติที่มีอากาศบริสุทธิ์เป็นที่รู้จักในระดับโลกอีกด้วย
“บลูเวล แอสเซท เล็งเห็นโอกาสและศักยภาพในการเติบโตของการท่องเที่ยวไทย โดยเรามีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้บริหารกองทรัสต์ที่เข้าลงทุนในโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องที่มีขนาดสินทรัพย์รวมใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จึงจัดตั้งกองทรัสต์ BWHREIT ซึ่งจะเข้าลงทุนครั้งแรกในโรงแรมชั้นนำ ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่โดดเด่น บนแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศ 3 แห่ง คือ โรงแรม Langham Splash Jungle Resort and Water Park ภูเก็ต, โรงแรมหรรษา เกาะสมุย และโรงแรม Greenery Resort and Khaoyai Convention Center เขาใหญ่ กองทรัสต์ BWHREIT จึงเปิดโอกาสในการลงทุนไปพร้อมกับการเติบโตการท่องเที่ยวไทย โดยมุ่งเป้าลงทุนใน โรงแรมที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้และการเติบโต รวมถึงมีจุดเด่นที่หลากหลาย เพื่อการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน”
CEO แห่งบลูเวล แอสเซท ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยยังมีจุดเด่นอีกหลายด้านที่ส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งอาหาร ค่าครองชีพ และทำเลที่ตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน ตลอดจนภูมิอากาศที่เอื้อต่อการท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ประกอบกับจำนวนประชากรชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้น และเทรนด์การแชร์ประสบการณ์ท่องเที่ยวผ่าน Social Media ในปัจจุบัน ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยมีศักยภาพในการพัฒนา และเติบโตได้อย่างโดดเด่น
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bwhreit.com/th/set/upcoming-ipo-set
แหล่งข้อมูล
(2) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
(3) การจัดอันดับจากมาสเตอร์การ์ด ในปี 2561
(4) การจัดอันดับจากเว็บไซต์ SmartTravelAsia.com ในปี 2560