posttoday

ธุรกิจโรงแรมเวียดนาม-อินโดฯคึก หนุนผลงานกองทรัสต์ SHREIT

30 กรกฎาคม 2562

ครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเป็นไปตามเป้า จากการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาค และการเมืองที่มั่นคง

ครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเป็นไปตามเป้า จากการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาค และการเมืองที่มั่นคง

นายปธาน สมบูรณสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตราทีจิก พร็อพเพอร์ตี้ อินเวสท์เตอร์ส ในฐานะผู้จัดการทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แบบต่ออายุได้เพื่อธุรกิจโรงแรมและสิทธิการเช่าสตราทีจิก ฮอสพิทอลลิตี้ (SHREIT) เปิดเผยว่า บริษัทฯประเมินทิศทางการเติบโตของสินทรัพย์กองทรัสต์ SHREIT ว่าในระยะยาวจะมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการขยายตัวของเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค ทั้งในประเทศเวียดนามและอินโดนีเซีย

โดยในปีนี้โรงแรม Ibis และโรงแรม Capri by Fraser ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองโฮจิมิน ประเทศเวียดนาม มีรายได้ต่อห้องพักต่อคืนปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่โรงแรม Pullman Jakarta มีอัตราการเข้าพักฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดี และเหตุการณ์ทางการเมืองเข้าสู่ภาวะปกติ เห็นได้จากจำนวนการใช้บริการห้องจัดเลี้ยงของกลุ่ม MICE ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยมีการจัดการประชุมที่สำคัญอาทิเช่น Amazon Regional Conference ในช่วงกลางเดือนก.ค.ที่ผ่านมา

จากข้อมูล สำนักงานสถิติของเวียดนาม หรือ GSO (General Statistics Office) ได้เปิดเผยข้อมูลว่าเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีอัตราการขยายตัว 6.76% ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในอันดับต้น ๆ ของอาเซียน ส่งผลให้บริเวณพื้นที่ใกล้เคียงที่ตั้งของสินทรัพย์ มีการก่อสร้างอาคารสำนักงานให้เช่าเพิ่มขึ้นจำนวนมาก รวมถึงการขยายพื้นที่ของศูนย์ประชุมแห่งชาติ ‘ไซ่ง่อน’ (SECC) ซึ่งได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างเฟสใหม่แล้ว เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 ปี เพื่อรองรับการจัดงานที่จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งจะส่งผลให้อัตราการเข้าพักของโรงแรมในพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มขึ้นด้วย

ขณะที่ทิศทางเศรษฐกิจของประเทศอินโดนีเซียเริ่มกลับมาขยายตัวได้ดีในครึ่งปีหลัง โดยล่าสุดประเทศอินโดนีเซียได้รับการปรับอันดับเครดิตเรทติ้งของ S&P จากระดับ BBB – เป็น BBB ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นในระดับสากลให้กับนักลงทุนที่ต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศได้เป็นอย่างดี