posttoday

หุ้นกลุ่มรับเหมา ซิโน -ไทย ซีฟโก้ มาแรง

03 พฤษภาคม 2562

นักวิเคราะห์ เชื่อปี 62 ประมูลคึก งานภาครัฐเป็นรูปธรรมมากขึ้น ลุ้น 4 โครงการในอีอีซี มูลค่า 6.5 แสนล้าน

นักวิเคราะห์ เชื่อปี 62 ประมูลคึก งานภาครัฐเป็นรูปธรรมมากขึ้น ลุ้น 4 โครงการในอีอีซี มูลค่า 6.5 แสนล้าน

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส มีมุมมองเชิงบวกกับอุตสาหกรรมก่อสร้างปี 2562 ที่มีทิศทางขาขึ้น โดยไตรมาสแรกงานประมูลภาครัฐมีความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมขึ้น โดยเฉพาะ 4 โครงการในพื้นที่พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี ) มูลค่ารวม 6.5 แสนล้านบาท

อย่างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด เฟส 3 และโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ซึ่งล้วนอยู่ในช่วงท้ายของการประมูล และคาดว่าได้ผู้ชนะทั้งหมดภายในเดือนพ.ค. 2562

นอกจากนี้ ยังมีโครงสร้างพื้นฐานอีก 4 โครงการ มูลค่ารวม 1 แสนล้านบาท ที่อยู่ในขั้นตอนเปิดขายเทคนิคการจัดทําขอบเขตของงาน (ทีโออาร์) และกำหนดยื่นซองไตรมาส 2 ปีนี้ และไตรมาสนี้เป็นช่วงที่หลายโครงการใหญ่เริ่มดำเนินการก่อสร้าง หลังจากได้ผู้ชนะในไตรมาสแรก

บล.ฟินันเซีย ไซรัส เชื่อว่าแผนการเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะถูกสานต่อด้วยรัฐบาลใหม่ โดยเฉพาะโครงการอีอีซี และความร่วมมือระหว่างภาครัฐบาลและเอกชน (PPP) เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวม โดยคาดว่าโครงการใหญ่จำนวนมากจะเปิดประมูลได้ อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม โครงการรถไฟไทยจีน 7 สัญญา โครงการรถไฟทางคู่ เฟส 2 และรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ รวมถึงการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวตามการผลักดันโครงการเมกะโปรเจกต์ของภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่น

บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองว่าผู้รับเหมาก่อสร้างสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) ในระดับที่ดีได้ จากทั้งต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ยังทรงตัว ประกอบกับการแข่งขันในตลาดที่ไม่รุนแรงนัก จากปริมาณงานที่ทยอยเปิดประมูล และแบ่งออกเป็นสัญญาย่อยทำให้สามารถกระจายงานได้อย่างทั่วถึง

ขณะที่ประเด็นหลายพรรคการเมืองชูนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจาก 300 บาท เป็น 400 - 420 บาทต่อวัน คาดว่ากระทบผู้รับเหมาฐานรากจำกัด เนื่องจากงานเป็นระยะสั้นและสามารถผลักให้กับผู้จ้างได้ ส่วนผู้รับเหมาหลักจะได้รับผลกระทบในแง่ต้นทุนจากค่าจ้างสัญญารับเหมาช่วง ( Sub-contract ) ที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ต้นทุนแรงงานคิดเป็นสัดส่วน 15-20 % ของต้นทุนรวม ประเมินว่าทุกๆ 5 % ที่ค่าแรงปรับขึ้น ในกรณีที่ไม่มีการปรับตัว จะกระทบกำไรของผู้รับเหมาราว 1 - 2 % อย่างไรก็ดี ค่าจ้างเฉลี่ยในปัจจุบันสูงกว่าระดับดังกล่าว และปัจจุบันมีการนำเครื่องจักรมาใช้ลดการพึ่งพาแรงงานมากขึ้น

จากปัจจัยบวกดังกล่าว บล.ฟินันเซีย ไซรัส ให้น้ำหนักการลงทุน “มากกว่าตลาด”สำหรับหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดยยกให้ 2 บริษัท เป็นหุ้นเด่น คือ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) ให้ราคาเหมาะสม 28.50 บาท จากความโดดเด่นของงานในมือ (แบ็กล็อก) ที่สูงประมาณ 1 แสนล้านบาท และบริษัท ซีฟโก้ (SEAFCO) ให้ราคาเหมาะสม 10.20 บาท ที่จะได้รับอานิสงค์ในฐานะธุรกิจต้นน้ำ ซึ่งเป็นด่านแรกของการก่อสร้างขนาดใหญ่ ทั้งของภาครัฐ และเอกชน

อย่างไรก็ตาม บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่ามีความเสี่ยงที่ต้องติดตาม คือ การจัดตั้งรัฐบาลใหม่หากล่าช้า จะส่งผลลบต่อกรอบเวลาการประมูลโครงการภาครัฐ และความเชื่อมั่นในการลงทุนภาคเอกชนได้

 

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์-FWD คว้า 3 รางวัล Adman Awards 2025 ตอกย้ำเข้าถึงลูกค้าทุก Gen ด้วย "ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย"