posttoday

ต้นจันพระนารายณ์ ต้นไม้หลายแผ่นดิน อายุ 300 ปี

24 มีนาคม 2562

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี เตรียมมอบต้นจัน สมเด็จพระนารายณ์ให้วัดและโรงเรียน นำไปปลูกเพื่อขยายพันธ์ุสิ่งมีชีวิตสมัยสมเด็จพระนารายณ์ให้อยู่ยงตลอดไป ทั้งนี้จากการเปิดเผยของนิภา สังคนาคินทร์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ระหว่างที่สื่อมวลชนที่ร่วมโครงการสื่อมวลชนสัญจร จัดโดยกรมศิลปากร วันที่ 15-16 มี.ค. 2562

ต้นจัน สิ่งมีชีวิต อายุ 300 ปี ยืนต้นอยู่หน้ากำแพงฝั่งขวามือของพระที่นั่งจันทรพิศาลซึ่งเป็นพระที่นั่งที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในวังนารายณ์เช่นกัน พระที่นั่งองค์นี้สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงโปรดให้สร้างขึ้นเป็นลำดับแรก เมื่อต้นรัชกาล

เพื่อยืนยันความแก่และยั่งยืนตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จัดทำเอกสารเพื่อให้รายละเอียดในการสืบค้นอายุของต้นจันโบราณในวังนารายณ์ ว่าเริ่มจากภาพเก่าเมื่อคราวพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เสด็จพระราชดำเนินพระนารายณ์ราชนิเวศน์แห่งนี้ ในภาพนั้นปรากฏมีต้นจันขนาดใหญ่อายุประมาณเป็นร้อยปีจำนวน 2 ต้น ยืนต้นคู่อยู่หน้าพระที่นั่งจันทรพิศาล

เมื่อประมาณอายุต้นจันถึงปัจจุบัน จึงคะเนได้ว่าจะมีอายุมากกว่า 300 ปีขึ้นไป ซึ่งกว่าจะเป็นต้นจันใหญ่ยักษ์ขนาดนี้ได้ ต้องผ่านกาลเวลาหลายร้อยปี เนื่องจากต้นจันเป็นต้นไม้ที่มีอัตราการเจริญเติบโตช้ามาก จึงเชื่อได้ว่าต้นจันต้นนี้มีมาตั้งแต่ครั้งแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จึงเรียกกันว่า “ต้นจันพระนารายณ์”

ต้นจันพระนารายณ์ ต้นไม้หลายแผ่นดิน อายุ 300 ปี

ในปีพุทธศักราช 2560 ต้นจันพระนารายณ์เป็น 1 ในต้นไม้ทรงคุณค่า 65 ต้น ที่กระทรวงวัฒนธรรมคัดจากต้นไม้ทรงคุณค่าทั่วประเทศ เพื่อให้เป็น “รุกขมรดกแห่งแผ่นดิน” ใต้ร่มพระบารมี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร

โครงการขยายพันธ์ุต้นจันพระนารายณ์

ต้นจันก็เหมือนสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่วนเวียนตามวัฏจักรแห่งชีวิต จากเยาว์วัย เป็นหนุ่มใหญ่ เข้าสู่มัชฌิมวัย และวัยชราเมื่อเวลาผ่านไปหลายปี ต้นจันพระนารายณ์ก็อยู่ในวงเวียนชีวิตนี้เช่นกัน เมื่อผ่านไป 300 ปีก็มีอาการบ่งชี้ว่าเป็นไม้ใหญ่วัยชรา เช่น ออกดอกติดผลน้อยลง หรือบางปีไม่มีเลย ต่างจากอดีตที่ทุกๆ ปีในช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย. ลูกจันสีเหลืองหอม ร่วงหล่นเกลื่อนใต้ต้น แต่ระยะหลังนี้มีให้เห็นน้อยแล้ว เช่น ปี 2561 ติดเพียงผลเดียวเท่านั้น

เมื่อเห็นเหตุการณ์ดังนี้ จึงเกิดโครงการอนุรักษ์ต้นจันพระนารายณ์ รุกขมรดกแห่งแผ่นดิน เริ่มจากการเก็บรวบรวม “ลูกจัน” ที่วังสมเด็จพระนารายณ์และจากต้นจันในพื้นที่ประวัติศาสตร์อื่นๆ ในเขตเมืองลพบุรี ได้แก่ ต้นจันที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วัดกวิศราราม บ้านวิชาเยนทร์ วัดตองปุ เอามาเพาะ โดยมีผู้ร่วมดำเนินการเพาะลูกจัน 2 ราย คือ สุดใจ ลาโม้ อยู่ที่บ้านดงน้อย ต.กกโก อ.เมืองลพบุรี และสะอาด กล่อมสกุล และครอบครัว ที่บ้านหัวสำโรง ต.หัวสำโรง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี โดยดำเนินการแบบนี้ จันพระนารายณ์ จะยืนยงคู่เมืองลพบุรีตลอดไป

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์ชู 3 แกนพัฒนาคน รับรางวัล HR Leader for Social Impact 2025