posttoday

แบงก์เจอโจทย์หนักปีหน้า สินเชื่อโตชะลอตัว เอ็นพีแอลจ่อพุ่ง

25 ธันวาคม 2561

กสิกรไทยประเมินสินเชื่อปีหน้าชะลอตัวโต 5% จับตาเอ็นพีแอลเอสเอ็มอีพุ่ง เผชิญการแข่งขันบริการการเงินกับนันแบงก์มากขึ้น ลุ้นขึ้นดอกเบี้ยปี'62

กสิกรไทยประเมินสินเชื่อปีหน้าชะลอตัวโต 5% จับตาเอ็นพีแอลเอสเอ็มอีพุ่ง เผชิญการแข่งขันบริการการเงินกับนันแบงก์มากขึ้น ลุ้นขึ้นดอกเบี้ยปี'62

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย  ออกบทวิเคราะห์ทิศทางแบงก์ไทย ปี 2562 ยังคงเผชิญหลายโจทย์ท้าทายความสามารถในการทำกำไร  โดยคาดว่าในปี 2562 สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์จะเติบโต 5% (กรอบคาดการณ์ที่ 4-6%) ชะลอลงจากที่คาด ว่าจะขยายตัว 6% ในปี 2561 ทั้งนี้ สินเชื่อธุรกิจอาจจะเติบโต 4.5% อานิสงส์ หลักจากทิศทางการลงทุนเป็นแรง ขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจไทยในปี 2562

ขณะที่การเติบโตของสินเชื่อรายย่อยอาจชะลอลงมาที่ 6% ในปี 2562 (จากที่อาจจะขยายตัวได้สูงกว่า 8.5% ในปี 2561) เนื่องจากสินเชื่อบ้านและสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันกว่า 70% ของพอร์ตสินเชื่อรายย่อย น่าจะเผชิญปัจจัย เช่น มาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือน เม.ย. 2562 ขณะที่ สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อาจจะขยายตัวชะลอลงมาที่ 5.5% (จากที่น่าจะเติบโตด้วย ตัวเลขสองหลักในปี 2561) ตามยอดขายรถยนต์ที่น่าจะหดตัวลงในปี 2562 เมื่อเทียบกับยอดขายที่สูงกว่า 1 ล้านคัน ในปี 2561

นอกจากนี้ คาดว่าสัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อาจขยับขึ้นไปที่ 2.98% ในช่วงปลายปี 2562 จากระดับ 2.91% ณ สิ้นปี 2561 (ขยับลงจาก 2.94% ในไตรมาส 3/2561)  โดยคาดว่าสัดส่วน NPL ของสินเชื่อเอสเอ็มอีจะขยับอยู่ที่ 3.42% และเอ็นพีแอลสินเชื่อบ้านอยู่ที่ 3.70%  ซึ่งทำให้ธนาคารจะต้องมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น และต้องเตรียมความพร้อมรองรับกฎเกณฑ์ใหม่จะทยอยใช้ในปี 2562 เช่น มาตรฐานเงินกองทุนตามหลักเกณฑ์ BaselIII และมาตรฐานบัญชีใหม่ (IFRS9) ในปี 2563

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า กนง.ยังมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายได้อีกอย่างน้อย 1 ครั้งในระหว่างปี 2562 แต่คาดว่าธนาคารจะรอพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบงก์ เนื่องจากสภาพคล่องในระบบธนาคารยังมีมาก 3.8 ล้านล้านบาท ซึ่งคาดว่าธนาคารจะปรับดอกเบี้ยแบงก์บางส่วนในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ขณะที่ดอกเบี้ยทั่วไปทั้งขาเงินฝากและเงินกู้อาจจะปรับในช่วงครึ่งหลังของปีหลังผ่านพ้นช่วงเลือกตั้งไปแล้ว

แม้โอกาสที่ธนาคารจะมีการปรับ ขึ้นดอกเบี้ยจะช่วยทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 3.2% ในปี 2561 รวมถึงยังมีผลกระทบของ รายได้ค่าธรรมเนียมการโอนเงิน ซึ่งอาจ จะยังติดลบไปจนถึงช่วงไตรมาส 1/2562 ซึ่งทำให้ธนาคารต้องหารายได้ค่าธรรมเนียมในส่วนอื่นๆ มาชดเชย ส่วนกำไรจากเงินลงทุนอาจยังขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด

ในขณะเดียวกัน ธนาคารต้องรับมือสภาวะการแข่งขันในตลาดให้บริการทางการเงินที่เข้มข้นขึ้นจากกลุ่ม FinTech กลุ่ม TechFin และกลุ่ม e-commerce ที่มีต้นทุนต่ำกว่า