Refill Station สถานีบรรจุภัณฑ์แบบเติม

โดย วราภรณ์ เทียนเงิน 

จากการรวมกลุ่มของคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดเดียวกัน กับการสร้าง “รีฟิล สเตชั่น” หรือปั๊มน้ำยา แห่งแรกในไทย หรือแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน ที่ต้องการทำให้คนสามารถพกขวดมาเติมสินค้า เพื่อลดการใช้บรรจุภัณฑ์ และทำให้บรรจุภัณฑ์เกิดการใช้ซ้ำ รีไซเคิล ที่มีคุณค่า และสร้างสรรค์ต่อสังคม รวมถึงเพื่อช่วยลดการใช้พลาสติกลง ผลักดันทำให้ธุรกิจเพื่อสังคม (SE) ได้รับการตอบรับที่ดีกับลูกค้า

“สุภัชญา เตชะชูเชิด” ผู้ร่วมก่อตั้ง “Refill Station” หรือปั๊มน้ำยา เปิดเผยว่า การเปิดร้าน Refill Station เกิดขึ้นมาจากกลุ่มเพื่อน 3 คน ทั้งตนเอง “ปภาวี พงศ์ธนาวรานนท์” และ “ชนินทร์ ศรีสุมะ” ที่เป็นนักศึกษาชื่นชอบการทำกิจกรรมและการทำงานอาสาเหมือนกัน ซึ่งมีความสนใจในเรื่องเดียวกัน และเห็นว่าในต่างประเทศมีร้านค้าแบบเติม หรือเรียกว่า Bulk Store จำนวนมากที่ทำให้คนสามารถพกบรรจุภัณฑ์เพื่อนำมาเติมสินค้าต่างๆ ได้ และทำมาหลายปีแล้ว เพื่อสร้างสังคมที่เป็น “Zero Waste”

ทั้งนี้ จากความสนใจในเรื่องนี้จึงได้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและตัดสินใจที่จะทดลองทำตลาดเพื่อต้องการทำให้ทราบข้อมูลของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและตลาดที่ชัดเจน จึงได้ทดลองออกร้านในพื้นที่ตลาดนัด พร้อมกับทำการสื่อสารให้ลูกค้าทราบถึงแนวคิดสำคัญของร้าน โดยต้องใช้ระยะเวลาสื่อสารทำให้คนเข้าใจพอสมควร เพราะเป็นเรื่องใหม่ของประเทศไทย และได้มีการเปิดในพื้นที่ตลาดนัดประมาณ 3 เดือน ต่อมาจึงได้ตัดสินใจเปิดร้านที่อยู่บริเวณใกล้กับรถไฟฟ้าสถานีอ่อนนุช โดยจะอยู่ในซอยสุขุมวิท77/1 ภายในคาเฟ่ Better Moon

สำหรับสินค้าในร้านจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติทั้งหมด โดยมีความหลากหลายทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผม ครีมนวด ตลอดจนโทนเนอร์ ผลิตภัณฑ์ซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม และยาสีฟัน เป็นต้น ซึ่งทั้ง 3 คนจะคัดเลือกสินค้าด้วยตัวเอง เนื่องจากแต่ละคนมีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านแตกต่างกัน โดยตนเองจะถนัดด้านชีววิทยา จึงดูแลเรื่องการเลือกสินค้า ส่วน ปภาวี จะถนัดเกี่ยวกับเรื่องการดีไซน์และออกแบบ ขณะที่ ชนินทร์ ที่มีประสบการณ์หลากหลายจะดูแลในด้านธุรกิจและการทำบัญชี

ในปัจจุบันกลุ่มลูกค้าหลักๆ ทั้งคนทำงานและกลุ่มแม่บ้าน รวมถึงลูกค้าต่างประเทศที่ทำงานในไทย จะมีความสนใจและเข้าใจในเรื่องนี้อย่างดี รวมถึงการได้รับความสนใจจากสื่อต่างๆส่งผลให้ร้านมีลูกค้ารู้จักและได้รับการโปรโมทเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ร้านเปิดให้บริการครบ 1 ปีในเดือน ธ.ค. 2561 และมีแผนที่จะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น ทั้งสินค้ากลุ่มอาหารที่มีความหลากหลายรวมถึงเป็นอาหารที่สามารถเก็บได้ เช่น เส้นพาสต้า เต้าหู้ และกิมจิ เป็นต้น คาดว่าจะได้เห็นในเร็วๆ นี้

“ในช่วงที่ได้บริหารร้านตั้งแต่แรก ความยากอยู่ที่การทำให้ทุกคนเข้าใจในร้าน แนวคิดของร้าน เพราะเป็นเรื่องใหม่ของประเทศไทย แต่เพื่อนที่ร่วมทำด้วยกันต่างเป็นพลังงานที่ดี ร่วมมือกัน ทุกคนมีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน จึงช่วยส่งเสริมและอุดช่องโหว่ในแต่ละเรื่อง” สุภัชญา กล่าว

“สุภัชญา” กล่าวอีกว่า “Refill Station” ถือเป็นร้านรูปแบบใหม่แห่งแรกในไทย และแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน ที่มีสินค้าครอบคลุมและมีความหลากหลายอย่างมาก ต่อมาจึงมีประเทศสิงคโปร์ที่เปิดให้บริการรูปแบบเดียวกัน และล่าสุดประเทศกัมพูชาที่ได้พบกับเจ้าของร้านในกัมพูชา ซึ่งได้เข้ามาที่ร้านและตนเอง ผู้ร่วมก่อตั้ง ก็ได้ให้คำแนะนำแก่เจ้าของร้านชาวกัมพูชา

ทั้งนี้ ในระยะต่อไปสนใจจะเปิดสาขาใหม่ หรือการมีพันธมิตรในห้างสรรพสินค้า ที่สนใจอยากทำกิจกรรมเพื่อสังคม หรือซีเอสอาร์ ที่สามารถร่วมเป็นพันธมิตรได้ โดยมองว่า ความสนใจในการใช้บริการร้านปั๊มน้ำยาของคนไทยมีสูงขึ้น และตรงกับความต้องการของผู้บริโภคที่สนใจดูแลสิ่งแวดล้อม รวมถึงการร่วมรณรงค์ลดใช้พลาสติก

“การได้ร่วมทำร้านปั๊มน้ำยา ทั้ง 3 คน เราอยากทำองค์กรที่เป็น Environmental Enterprise ที่อยากทำสิ่งนี้เพื่อเป็นหนึ่งในกลไกขับเคลื่อน ร่วมแก้ปัญหาที่มีอยู่ในประเทศไทย เหมือนกับต่างประเทศที่มีร้านค้า Bulk Store เกิดขึ้นหลายแห่งและทำมาหลายปีแล้ว” สุภัชญา กล่าว

สุภัชญา กล่าวต่อว่า สำหรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจในการสร้างธุรกิจเพื่อสังคม (SE) โดยถือเป็นเรื่องใหม่ของประเทศไทย ควรที่จะเริ่มต้นจากการทำสิ่งที่เล็กๆ ก่อน และใช้การทดลองทำตลาดเพื่อดูว่ากลุ่มลูกค้าคือใคร และสร้างรูปแบบธุรกิจที่มีความเหมาะสม จากนั้นค่อยเดินทีละก้าวๆ ต่อไป อย่าเร่งรีบในการกระโดดข้ามขั้น อีกทั้งสิ่งสำคัญคือ การมีเพื่อนร่วมทีมในการร่วมมือทำงานไปด้วยกัน