รูปร่างและการแต่งกาย ชนต่างภาษาสมัย ร.3 ที่วัดโพธิ์
ภาพลักษณ์ของมนุษย์และแฟชั่นการแต่งกายพัฒนาไม่เคยหยุดยั้ง
โดย สมาน สุดโต
ภาพลักษณ์ของมนุษย์และแฟชั่นการแต่งกายพัฒนาไม่เคยหยุดยั้ง เทียบปัจจุบันกับอดีตเกือบจำไม่ได้ แต่ถ้าอยากเห็นสภาพของมนุษย์ต่างภาษาสมัยรัชกาลที่ 3 มีลักษณะเป็นอย่างไร ต้องไปวัดโพธิ์เพราะช่างไทยและศิลปินจารึกไว้ให้ดูที่ศาลาและวิหารมากถึง 32 ชาติ-ภาษา
เมื่อดูแล้วอาจงงๆ ว่า ใครเป็นใคร เพราะชื่อสัญชาติที่ใช้เรียกเปลี่ยนไป เครื่องแต่งกายก็เปลี่ยนเว้นคนกลุ่มเดียวที่ไม่เปลี่ยน เมื่อสมัยรัชกาลที่ 3 แต่งกายอย่างไร สมัยนี้ก็แต่งอย่างนั้น ชนชาตินั้น คือกะเหรี่ยง ดังที่ พระศรีธวัชเมธี (ชนะ ภมรพล ป.ธ. 9) ไปชมแล้วเขียนในอนุทินว่าไปทัวร์วัดโพธิ์ ชมความงามภาพ “คนต่างภาษา” แต่จะงดงามปานใด ขอเชิญไปดูกันเอง ที่ดูออกภาพเดียวคือ กะเหรี่ยง ในพระวิหารป่าเลไลยก์ นอกนั้นก็เดากันไปเดากันมา ยังไม่กล้าฟันธง
อรวรรณ ทรัพย์พลอย นักอักษรศาสตร์ชำนาญการพิเศษ สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร เขียนเล่าว่า โคลงภาพคนต่างภาษาอันเป็นหนึ่งในจารึกวัดโพธิ์ ที่รัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปลูกฝังความรู้แก่ราษฎรในช่วงเวลาที่สังคมไทยกำลังเปิดประตูการค้ากับคนต่างชาติ ต่างภาษา สะท้อนความสัมพันธ์ไทยกับนานาชาติ ภาพโคลงคนต่างภาษา จึงเป็นการประมวลความรู้เกี่ยวกับคนชาติต่างๆ นับได้ว่าเป็นงานเขียนชาติพันธ์ุวรรณา (Ethnograhpy) ชิ้นแรกของไทย ที่ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนนาคพันธ์)ได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับคนในโคลงนั้น ได้ 32 ภาษา จากโคลง 65 บท
ต่อมา ทวีศักดิ์ เผือกสม ได้ศึกษาวิจัยและสรุปความเกี่ยวกับโคลงภาพคนต่างภาษาในคนแปลกหน้านานาชาติของกรุงสยาม จึงอาจกล่าวได้ว่า โคลงภาพคนต่างภาษาเป็นการรวบรวมความรู้เกี่ยวกับคนชาติภาษาต่างๆ ที่ชนชั้นนำของไทยรู้จัก สนใจใคร่รู้ หรือมีความสำคัญที่จะอยู่ในความรับรู้ของตน เป็นการขยายพรมแดนความรู้เกี่ยวกับเชื้อชาติและภูมิศาสตร์ของชาติภาษานั้นๆ เพื่อให้ราษฎรทั่วไปได้มีโอกาสรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยที่มีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับคนต่างชาติต่างภาษาในสมัยต้นรัตนโกสินทร์
ส่วนใครเป็นใครที่ ทวีศักดิ์ ค้นคว้ามีสรุปไว้แล้วในหนังสือสมโภชพระอาราม 230 ปีวัดโพธิ์ แต่คอลัมน์นี้คัดมาเพียงส่วนหนึ่ง
1.สิงหฬ : สวมใส่เสื้อผ้าสีขาวล้วน และใช้ผ้ายาวถึง 20 ศอก (กรมหมื่นนุชิตชิโนรส)
2.ไทย : อยู่เมืองอโยธยาที่ยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม สวมใส่เสื้อผ้างดงาม ราวกับมีเทวดามาตัดเย็บให้ สวมเสื้อสวยงาม นุ่งผ้า “ปูม” คาดพุงและอะไรๆ ก็ดูดีไปหมด (กรมหมื่นนุชิตชิโนรส)
3.กะเหรี่ยง : สวมเสื้อ สวมสร้อยลูกปัด เป็นคนรักษา/ตรวจด่าน (ชายแดน) บ้านเรือนอยู่ตาม “ตรอกห้วย หุบดง” (จ่าจิตรนุกูล)
4.อาฟริกัน : ผมหยาบหยิก-ผมเงาะ (หัวพริกหยิกหยาบเผ้าผมเงาะ) ปากแสยะยิงฟัน ดูน่า “ขัน” เป็นบ้า “เบื้อ” ถิ่นฐานบนเกาะแอฟริกา ผิวดำเป็น “เขม่า” เป็นพวก “โฉดชาติ” สวมกางเกงลาย “สุหรัด” ใส่เสื้อสีขาว พับผ้าเช็ดหน้าเป็นจีบ “คาดเอว” สวมเครื่องแต่งกายไม่แยกเพศ (จ่าจิตรนุกูล)
5.ดอดชิ (Dutch) : เชี่ยวชาญการเดินทะเล นับถือพระเยซูคริสต์ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นผู้สร้างโลก (ลัทธิมั่นเหลือจน สุดมล้าง) สวมเสื้อกางเกงเหมือนคนอังกฤษ อยู่เมือง “เนื่องวิลันดาฟาก ใต้แฮ” เชื้อชาติ “ดอดชิ” (พระญาณปริยัติ)
6.อิตาเลียน : เครื่องแต่งกายเหมือนคนอังกฤษ “ทำเนียบเทียบเชื้อใช้ เช่นกัน” ประเทศอยู่ทางใต้ของดินแดนชายฝั่งตะวันตกไพร่พลห้าวหาญ (ขุนธนสิทธิ์)
7.ฝรั่งเศส : สวมเสื้อดำ มีอินทรธนูทอง กางเกงกลัดกระดุมเคลือบทอง ห้อยนาฬิกา ประเทศอยู่ใกล้เคียงกับอังกฤษ บ้านเมืองของ “ฝรันชิ” (France) ใหญ่โตมาก มีทหาร “ซิบปาย” (Sepoy?) รักษาด่าน มีประชากรจำนวนมาก (พระมุนีนายก)
8.ยิบเซ็ดอ่าน (Egyptian) : ธรรมเนียม (ทำเนียบทำนอง) แบบเดียวกับคนอังกฤษ สวมเสื้อใส่หมวก “พลิกแพลงแปลงยักดัด ประดิษฐ์แฮ” อาศัยอยู่ใน “ทวีปแว่นแคว้นใต้ ต่ำชวา (?)” ชำนาญการเดินเรือ (ขุนธนสิทธิ์)
9.สาระกาฉวน (Saracen?) : ใจกล้าหาญ ใช้เรือกำปั่น “สลุปสามเสา” เชี่ยวชาญ-เฟื่องฟูในเรื่อง “วัดแดดดิ่ง น้ำฟ้า” อาศัยอยู่ใน “อินเดียทวีป” ที่เมือง “สระกาเซียเกษตร” มีทหาร “ซิบป่าย” เพียบพร้อมด้วยปืนรักษาป้อม (กรมขุนเดชอดิศร)
10.ยี่ปุ่น : ไว้ทรงผม “สองแหยมหยุกหยุย” ใช้เสื้อผ้า “ต่างสี” อาศัยอยู่ที่ “เกาะยี่ปุ่น” ชำนาญการช่าง “แปดด้าน” อาทิ ผลิตดาบ “เงางามปลาบ” “ป้าน (น้ำชา)” และ “ปิ่นโต” (กรมขุนเดชอดิศร)
11.อาหรับ : สวมเสื้อขาวกรอมเท้า กางเกง “วิลาศลาย” “จีบจะดัดเกี้ยวเกล้า ต่างสี”นับถือศาสนาอิสลาม นิกายชีอะห์
12.หรุ่มโต้ระกี่ (Turk) : ชอบกินนม-เนยวัว ไม่กินหมู ไว้หนวดเครา “รกรอบแก้ม” จมูกโด่งยาว “แหลม เฟือดฟ้า” รูปร่างสูงใหญ่ล่ำ ใจกล้าชอบเดินทางท่องเที่ยว (กรมหมื่นไกรสรวิชิต)
13.แขกปะถ่าน (Pathan) : แขกปาทานเป็นพวก “มฤจฉา ทิฏฐิ” ชอบแต่งอูฐเที่ยวรับจ้าง ไว้หนวดเคราดำหนาน่ากลัว สวมเสื้อกางเกงสีขาว โพกศีรษะด้วยผ้าขาว “โขมพัตร” อาศัย “อยู่แดนดินหลี่มี โดยที่มากนา” นับถือศาสนาอิสลาม นิกายชีอะห์ (เซ็น) (หลวงชาญภูเบศร์)
14 แขกจุเหลี่ย : นับถือศาสนาอิสลามทั้งนิกายชีอะห์และสุหนี่ (นบเซ็นเซ่นสุหนี่) โพกศีรษะด้วยผ้าขาว สวมกางเกงใส่เสื้อลาย(ล้ำ เลขลาย) อาศัยอยู่ในเมืองมัทราส อาศัยการรีดนมวัวขาย กินข้าวสาลีเคล้าเนยคลุกกับข้าวเป็นอาหาร (หลวงชาญภูเบศร์)
นี่คือส่วนหนึ่งใน 32 ชาติและภาษาในจารึกวัดโพธิ์


