posttoday

รูปร่างและการแต่งกาย ชนต่างภาษาสมัย ร.3 ที่วัดโพธิ์

25 พฤศจิกายน 2561

ภาพลักษณ์ของมนุษย์และแฟชั่นการแต่งกายพัฒนาไม่เคยหยุดยั้ง

โดย สมาน สุดโต 

ภาพลักษณ์ของมนุษย์และแฟชั่นการแต่งกายพัฒนาไม่เคยหยุดยั้ง เทียบปัจจุบันกับอดีตเกือบจำไม่ได้ แต่ถ้าอยากเห็นสภาพของมนุษย์ต่างภาษาสมัยรัชกาลที่ 3 มีลักษณะเป็นอย่างไร ต้องไปวัดโพธิ์เพราะช่างไทยและศิลปินจารึกไว้ให้ดูที่ศาลาและวิหารมากถึง 32 ชาติ-ภาษา

เมื่อดูแล้วอาจงงๆ ว่า ใครเป็นใคร เพราะชื่อสัญชาติที่ใช้เรียกเปลี่ยนไป เครื่องแต่งกายก็เปลี่ยนเว้นคนกลุ่มเดียวที่ไม่เปลี่ยน เมื่อสมัยรัชกาลที่ 3 แต่งกายอย่างไร สมัยนี้ก็แต่งอย่างนั้น ชนชาตินั้น คือกะเหรี่ยง ดังที่ พระศรีธวัชเมธี (ชนะ ภมรพล ป.ธ. 9) ไปชมแล้วเขียนในอนุทินว่าไปทัวร์วัดโพธิ์ ชมความงามภาพ “คนต่างภาษา” แต่จะงดงามปานใด ขอเชิญไปดูกันเอง ที่ดูออกภาพเดียวคือ กะเหรี่ยง ในพระวิหารป่าเลไลยก์ นอกนั้นก็เดากันไปเดากันมา ยังไม่กล้าฟันธง

รูปร่างและการแต่งกาย ชนต่างภาษาสมัย ร.3 ที่วัดโพธิ์

อรวรรณ ทรัพย์พลอย นักอักษรศาสตร์ชำนาญการพิเศษ สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร เขียนเล่าว่า โคลงภาพคนต่างภาษาอันเป็นหนึ่งในจารึกวัดโพธิ์ ที่รัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปลูกฝังความรู้แก่ราษฎรในช่วงเวลาที่สังคมไทยกำลังเปิดประตูการค้ากับคนต่างชาติ ต่างภาษา สะท้อนความสัมพันธ์ไทยกับนานาชาติ ภาพโคลงคนต่างภาษา จึงเป็นการประมวลความรู้เกี่ยวกับคนชาติต่างๆ นับได้ว่าเป็นงานเขียนชาติพันธ์ุวรรณา (Ethnograhpy) ชิ้นแรกของไทย ที่ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนนาคพันธ์)ได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับคนในโคลงนั้น ได้ 32 ภาษา จากโคลง 65 บท

ต่อมา ทวีศักดิ์ เผือกสม ได้ศึกษาวิจัยและสรุปความเกี่ยวกับโคลงภาพคนต่างภาษาในคนแปลกหน้านานาชาติของกรุงสยาม จึงอาจกล่าวได้ว่า โคลงภาพคนต่างภาษาเป็นการรวบรวมความรู้เกี่ยวกับคนชาติภาษาต่างๆ ที่ชนชั้นนำของไทยรู้จัก สนใจใคร่รู้ หรือมีความสำคัญที่จะอยู่ในความรับรู้ของตน เป็นการขยายพรมแดนความรู้เกี่ยวกับเชื้อชาติและภูมิศาสตร์ของชาติภาษานั้นๆ เพื่อให้ราษฎรทั่วไปได้มีโอกาสรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยที่มีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับคนต่างชาติต่างภาษาในสมัยต้นรัตนโกสินทร์

รูปร่างและการแต่งกาย ชนต่างภาษาสมัย ร.3 ที่วัดโพธิ์

ส่วนใครเป็นใครที่ ทวีศักดิ์ ค้นคว้ามีสรุปไว้แล้วในหนังสือสมโภชพระอาราม 230 ปีวัดโพธิ์ แต่คอลัมน์นี้คัดมาเพียงส่วนหนึ่ง

1.สิงหฬ : สวมใส่เสื้อผ้าสีขาวล้วน และใช้ผ้ายาวถึง 20 ศอก (กรมหมื่นนุชิตชิโนรส)

2.ไทย : อยู่เมืองอโยธยาที่ยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม สวมใส่เสื้อผ้างดงาม ราวกับมีเทวดามาตัดเย็บให้ สวมเสื้อสวยงาม นุ่งผ้า “ปูม” คาดพุงและอะไรๆ ก็ดูดีไปหมด (กรมหมื่นนุชิตชิโนรส)

3.กะเหรี่ยง : สวมเสื้อ สวมสร้อยลูกปัด เป็นคนรักษา/ตรวจด่าน (ชายแดน) บ้านเรือนอยู่ตาม “ตรอกห้วย หุบดง” (จ่าจิตรนุกูล)

4.อาฟริกัน : ผมหยาบหยิก-ผมเงาะ (หัวพริกหยิกหยาบเผ้าผมเงาะ) ปากแสยะยิงฟัน ดูน่า “ขัน” เป็นบ้า “เบื้อ” ถิ่นฐานบนเกาะแอฟริกา ผิวดำเป็น “เขม่า” เป็นพวก “โฉดชาติ” สวมกางเกงลาย “สุหรัด” ใส่เสื้อสีขาว พับผ้าเช็ดหน้าเป็นจีบ “คาดเอว” สวมเครื่องแต่งกายไม่แยกเพศ (จ่าจิตรนุกูล)

รูปร่างและการแต่งกาย ชนต่างภาษาสมัย ร.3 ที่วัดโพธิ์

5.ดอดชิ (Dutch) : เชี่ยวชาญการเดินทะเล นับถือพระเยซูคริสต์ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นผู้สร้างโลก (ลัทธิมั่นเหลือจน สุดมล้าง) สวมเสื้อกางเกงเหมือนคนอังกฤษ อยู่เมือง “เนื่องวิลันดาฟาก ใต้แฮ” เชื้อชาติ “ดอดชิ” (พระญาณปริยัติ)

6.อิตาเลียน : เครื่องแต่งกายเหมือนคนอังกฤษ “ทำเนียบเทียบเชื้อใช้ เช่นกัน” ประเทศอยู่ทางใต้ของดินแดนชายฝั่งตะวันตกไพร่พลห้าวหาญ (ขุนธนสิทธิ์)

7.ฝรั่งเศส : สวมเสื้อดำ มีอินทรธนูทอง กางเกงกลัดกระดุมเคลือบทอง ห้อยนาฬิกา ประเทศอยู่ใกล้เคียงกับอังกฤษ บ้านเมืองของ “ฝรันชิ” (France) ใหญ่โตมาก มีทหาร “ซิบปาย” (Sepoy?) รักษาด่าน มีประชากรจำนวนมาก (พระมุนีนายก)

8.ยิบเซ็ดอ่าน (Egyptian) : ธรรมเนียม (ทำเนียบทำนอง) แบบเดียวกับคนอังกฤษ สวมเสื้อใส่หมวก “พลิกแพลงแปลงยักดัด ประดิษฐ์แฮ” อาศัยอยู่ใน “ทวีปแว่นแคว้นใต้ ต่ำชวา (?)” ชำนาญการเดินเรือ (ขุนธนสิทธิ์)

9.สาระกาฉวน (Saracen?) : ใจกล้าหาญ ใช้เรือกำปั่น “สลุปสามเสา” เชี่ยวชาญ-เฟื่องฟูในเรื่อง “วัดแดดดิ่ง น้ำฟ้า” อาศัยอยู่ใน “อินเดียทวีป” ที่เมือง “สระกาเซียเกษตร” มีทหาร “ซิบป่าย” เพียบพร้อมด้วยปืนรักษาป้อม (กรมขุนเดชอดิศร)

รูปร่างและการแต่งกาย ชนต่างภาษาสมัย ร.3 ที่วัดโพธิ์

10.ยี่ปุ่น : ไว้ทรงผม “สองแหยมหยุกหยุย” ใช้เสื้อผ้า “ต่างสี” อาศัยอยู่ที่ “เกาะยี่ปุ่น” ชำนาญการช่าง “แปดด้าน” อาทิ ผลิตดาบ “เงางามปลาบ” “ป้าน (น้ำชา)” และ “ปิ่นโต” (กรมขุนเดชอดิศร)

11.อาหรับ : สวมเสื้อขาวกรอมเท้า กางเกง “วิลาศลาย” “จีบจะดัดเกี้ยวเกล้า ต่างสี”นับถือศาสนาอิสลาม นิกายชีอะห์

12.หรุ่มโต้ระกี่ (Turk) : ชอบกินนม-เนยวัว ไม่กินหมู ไว้หนวดเครา “รกรอบแก้ม” จมูกโด่งยาว “แหลม เฟือดฟ้า” รูปร่างสูงใหญ่ล่ำ ใจกล้าชอบเดินทางท่องเที่ยว (กรมหมื่นไกรสรวิชิต)

13.แขกปะถ่าน (Pathan) : แขกปาทานเป็นพวก “มฤจฉา ทิฏฐิ” ชอบแต่งอูฐเที่ยวรับจ้าง ไว้หนวดเคราดำหนาน่ากลัว สวมเสื้อกางเกงสีขาว โพกศีรษะด้วยผ้าขาว “โขมพัตร” อาศัย “อยู่แดนดินหลี่มี โดยที่มากนา” นับถือศาสนาอิสลาม นิกายชีอะห์ (เซ็น) (หลวงชาญภูเบศร์)

14 แขกจุเหลี่ย : นับถือศาสนาอิสลามทั้งนิกายชีอะห์และสุหนี่ (นบเซ็นเซ่นสุหนี่) โพกศีรษะด้วยผ้าขาว สวมกางเกงใส่เสื้อลาย(ล้ำ เลขลาย) อาศัยอยู่ในเมืองมัทราส อาศัยการรีดนมวัวขาย กินข้าวสาลีเคล้าเนยคลุกกับข้าวเป็นอาหาร (หลวงชาญภูเบศร์)

นี่คือส่วนหนึ่งใน 32 ชาติและภาษาในจารึกวัดโพธิ์

ข่าวล่าสุด

เปิดตัว Gemini 3 Flash โมเดล AI ราคาประหยัดแต่ฉลาดเกือบเท่าเดิม