posttoday

รักกันมั่นคง ชมพลอย หลีระพันธ์+ธนวรรธ ดำเนินทอง

17 พฤศจิกายน 2561

ความรักของคู่รักที่บ่มเพาะจากคำว่า “เพื่อน” จนกลายมาเป็น “คู่ชีวิต”

โดย /ภาพ : วราภรณ์ ผูกพันธ์ 

ความรักของคู่รักที่บ่มเพาะจากคำว่า “เพื่อน” จนกลายมาเป็น “คู่ชีวิต” ของนักธุรกิจด้านอาหารและโรงเรียนนานาชาติ Thai International School ระหว่าง “ปาล์ม” ชมพลอย หลีระพันธ์ทายาทคนเล็กของ มัลลิการ์ หลีระพันธ์ ผู้ก่อตั้งมัลลิการ์ อินเตอร์ฟู้ด ที่เข้าสู่ประตูวิวาห์กับแฟนหนุ่มและครบรอบแต่งงานกันครบ 1 ปี เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา กับ “โน้ต” ธนวรรธ ดำเนินทอง ซึ่งรู้จักกันตอนอยู่ไมเนอร์ กรุ๊ป

ชีวิตหลังแต่งงานที่ยังดูเหมือนข้าวใหม่ปลามัน เพราะได้รับคำแนะนำถึงหลักการครองเรือนที่ดีจากคุณแม่มัลลิการ์เพื่อเป็นเคล็ดลับการใช้ชีวิตการครองเรือนได้อย่างเหนียวแน่น

เรื่องราวความรักของทั้งคู่ที่ไม่ค่อยเปิดเผยที่ไหนมากนัก ปาล์ม สาวนักบริหารหญิงเก่งแห่งมัลลิการ์ อินเตอร์ฟู้ด เล่าว่า ความรักของเธอเริ่มจากคำว่า เพื่อน ของญาติสนิท พัฒนามาเป็นแฟนและคบกันได้ราว 4 ปี ก่อนที่จะตัดสินใจแต่งงานกัน

ฝ่ายหญิงก็ยังเป็นเวิร์กกิ้งวูแมนทำงานในตำแหน่ง Chief Operation Officer หน้าที่รับผิดชอบคืองานด้านวางแผน ปรับปรุงกระบวนการและปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบการผลิต ระบบการฝึกอบรม พัฒนาระบบจัดเก็บและกระจายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยดูแลพนักงานราว 500 คน งานจึงต้องยุ่งเป็นธรรมดา เพราะธุรกิจของคุณแม่เติบโตมาจากธุรกิจครอบครัวเล็กๆ จนเติบโตมีมูลค่าหลายพันล้านบาท

ฝ่ายชายก็ทำงานในไลน์ธุรกิจเดียวกันคือ ด้านอาหาร โดยโน้ตเป็นผู้บริหารอยู่ในบริษัทไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ MINT ผู้นำในธุรกิจร้านอาหารที่มีขนาดใหญ่ มีร้านอาหารมากกว่า 2,000 สาขา ใน 20 ประเทศ ภายใต้แบรนด์ อาทิ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ไทย เอ็กซ์เพรส สเวนเซ่นส์ ซิซซ์เล่อร์ แดรี่ควีน และเบอร์เกอร์ คิง ฯลฯ ธนวรรธนั่งในตำแหน่งบิซิเนส แอนด์ ดีเวลอปเมนต์

รักกันมั่นคง ชมพลอย หลีระพันธ์+ธนวรรธ ดำเนินทอง

นอกจากสาขาที่ จ.ภูเก็ต และต้องบินไปดูงานสาขาที่เมียนมาบ้าง โดยธนวรรธทำงานร่วมกับไมเนอร์มานานกว่า 3 ปีแล้ว สิ่งที่หนุ่มโน้ตรู้สึกประทับใจแรกในตัวสาวปาล์มอยู่ตรงที่เป็นผู้หญิงที่เก่งและมีความมั่นใจในตัวสูงมาก มีแรงปรารถนาที่จะมาช่วยสานต่อธุรกิจของครอบครัวอย่างจริงจัง

ผิดจากภาพคุณหนูจ๋า ซึ่งคล้ายคลึงกับเขาที่ตั้งใจว่าจบมาแล้วจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ โดยทั้งคู่ได้เคยโคจรมาพบกันตั้งแต่วัย 20 ต้นๆ โดยหนุ่มโน้ตเป็นเพื่อนของญาติสนิท ในขณะเดียวกันภาพแรกที่สาวปาล์มเห็นฝ่ายชายแวบแรกคือ เป็นชายหนุ่มที่ดูเรียบร้อย ใส่แว่นดูเป็นเด็กเรียน ซึ่งตอนนั้นทั้งคู่ไม่ได้คิดอะไรเกินกว่าคำว่าเพื่อน

เพราะขณะนั้นหนุ่มโน้ตมีแฟนอยู่แล้ว แต่ปาล์มไม่เคยมีแฟนมาก่อนแม้มีชายหนุ่มมาชอบ แต่สาวปาล์มเทใจให้กับการเรียนเพียงอย่างเดียว เพราะค่าที่มีคุณแม่เป็นอาจารย์ที่เคร่งครัดเรื่องการเรียนมาก เลิกเรียนเสร็จต้องกลับบ้าน คุณพ่อคุณแม่ไม่เคยปล่อยให้ไปไหนไกลตาเลย

ทั้งคู่ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เมื่อปาล์มศึกษาจบปริญญาโทมาจากประเทศอังกฤษ ได้เจอกันอีกครั้งสาวปาล์มก็ไม่ได้รู้สึกประทับใจอะไรเป็นพิเศษ เพราะภาพหนุ่มโน้ตค้านกับสเปกหนุ่มในดวงใจคือ สูง มีซิกซ์แพ็ก และมีกล้ามเป็นมัดๆ แต่ก็ได้คุณสมบัติข้อหลังๆ คือ ใส่ใจดูแลอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ข้อดีข้อหลังนี่แหละที่มัดใจสาวปาล์มไว้ได้

“แม้เรารู้จักกันแต่ก็ไม่ได้คุยหรือสนิทกันมาก เริ่มคุยกันแรกๆ จากเฟซบุ๊ก ครั้งแรกคือผมทักปาล์มไปเรื่องปวดหลัง ซึ่งเรามีปัญหาปวดหลังเหมือนๆ กัน โดยเราคุยเป็นเพื่อนกันก่อน จากนั้นผมถ่ายรูปตัวการ์ตูนสีฟ้าชื่อ Stitch ซึ่งเราชอบตัวการ์ตูนนี้เหมือนๆ กัน ก็เริ่มแชตกันโดยยังไม่ได้คิดอะไร

มาเริ่มคุยกันจริงจังตอนภาพยนตร์เรื่องพี่มากพระโขนง ซึ่งมาริโอ้เล่น ผมก็ติดตามข่าวว่าโกยรายได้ 300 ล้านแล้วนะ แต่ผมยังไม่มีโอกาสได้ดูสักที ส่วนปาล์มก็ทักมาว่าดีจังที่หนังดังคนเลยมาดูหนังกันเยอะ ร้านอาหารของปาล์มที่อยู่ในเมเจอร์หลายสาขาก็ได้อานิสงส์ไปด้วย เราเลยพูดกันเล่นๆ ว่าไปดูกันไหม เราก็ชวนญาติไปดู แต่ไปๆ มาๆ กลับได้ไปดูหนังกัน 2 คน แล้วก็เริ่มคุยกันมากขึ้น” หนุ่มโน้ตเล่าย้อนไปถึงเมื่อแรกที่จีบกันใหม่ๆ

คบกันในเวลาที่พอเหมาะคือ 4 ปี ทั้งคู่จึงตัดสินใจแต่งงานกัน ด้วยความหนุ่มโน้ตกล้าที่จะไปทำความรู้จักกับคุณพ่อคุณแม่ของฝ่ายหญิงก่อน โดยที่ไม่ได้กังวลเลยว่า สาวปาล์มเป็นไข่ในหินของพ่อแม่ และไม่เคยคบใครเป็นแฟนจริงจังมาก่อน

“พอโน้ตเข้ามา เขากล้าเจอคุณแม่หลังคบกันได้ 4 เดือน จำได้ว่าบ้านเราไปญี่ปุ่นกันหมดบ้าน ซึ่งโน้ตกล้าลงออนเซนเดียวกับพ่อกับพี่ปอนด์ ซึ่งเขาบอกว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไร แค่อยากไปด้วยเท่านั้น คือเขากล้าที่จะฝ่าด่าน ส่วนโน้ตเคยบอกว่าเขาก็รู้สึกว่าแม่ก็หวงปาล์มหน่อยๆ แต่คุณแม่ก็เปิดใจ ซึ่งเขาก็บอกว่าเป็นเรื่องไม่ยาก ไม่ได้รู้สึกว่ามีอุปสรรคอะไร” สาวปาล์มเล่า ในขณะที่ธนวรรธแม้รู้ว่าตนเองไม่ใช่สเปกของสาวปาล์มเลย แต่เขาขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความเป็นคนดีจากเนื้อในของเขา ที่มีความจริงใจและไม่ได้มาเล่นๆ

‘เสมอต้นเสมอปลาย หมัดเด็ดมัดใจ’

รักกันมั่นคง ชมพลอย หลีระพันธ์+ธนวรรธ ดำเนินทอง

...ชมพลอย หลีระพันธ์

ชมพลอย เล่าถึงหลักคำสอนของคุณพ่อคุณแม่ที่เธอนำมาใช้กับชีวิตคู่ก็คือ

“คุณพ่อคุณแม่ค่อนข้างโอเคกับสิ่งที่ปาล์มเลือก คือถ้าลูกรักใครพ่อแม่ก็รักด้วย เรื่องการใช้ชีวิตคู่พ่อแม่ไม่ได้พูดไม่ได้สอนโดยตรง แต่วิธีครองรักของพ่อแม่ของปาล์มคือ ถ้าคนหนึ่งร้อน อีกคนหนึ่งต้องเย็น เพราะถ้ามีปัญหาแล้วทะเลาะกันมันก็ไม่รอด

อย่างเวลาปาล์มเห็นคุณแม่โกรธ คุณพ่อจะเย็น แต่ส่วนใหญ่คุณแม่จะเป็นฝ่ายร้อน (หัวเราะ) ซึ่งโน้ตค่อนข้างเข้าใจปาล์มดี หลายคนบอกว่าปาล์มคล้ายแม่ แต่ปาล์มไม่เท่าแม่ คุณแม่จะดุกว่า (ยิ้ม) ส่วนคุณพ่อให้เวลากับครอบครัวมากๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ปาล์มเห็นคุณพ่อทำมาตลอด

ส่วนคุณแม่จะนิ่งๆ ทุกเย็นหลังเลิกงานคุณพ่อหากไม่มีนัดจะโทรหาคุณแม่ ถามว่าอยู่ไหน แต่คำเดียวที่แม่ตอบคือ อยู่ร้านไง คือพ่อทำงานที่แจ้งวัฒนะ คุณพ่อจะขับรถมาหาคุณแม่ที่ร้านย่านเกษตรนวมินทร์ แล้วกินข้าวกัน

สิ่งที่ปาล์มได้เรียนรู้คือ คุณพ่อให้ความสำคัญกับครอบครัวทุกครั้งที่มีโอกาส ซึ่งปาล์มชอบ สามีปาล์มก็เป็นแบบนั้นคือ ทุกเย็นเขาต้องโทรมาถามว่า อยู่ไหน กินอะไร ทุกเย็นเราพยายามกินข้าวด้วยกัน หรือชวนสามีไปฝึกโยคะบ้าง เพราะโยคะช่วยเรื่องปวดหลังของเราได้ สามีก็ตามใจ”

สิ่งที่สาวปาล์มประทับใจในตัวสามีคือ ความใส่ใจตั้งแต่ครั้งยังเป็นแฟน สามีจะนึกถึงเธอตลอดแม้เป็นเรื่องเล็กน้อย เช่น รู้ว่าเธอชอบอะไร เขามักซื้อมาฝาก และเข้าใจความรู้สึกหรือความนึกคิดของฝ่ายภรรยาเสมอ

“อย่างปาล์มชอบแก้วของร้านกาแฟแบรนด์ดัง เช่น เวลาเขาไปเที่ยวที่ไหนแล้วเจอเขาจะโทรมาถามว่าเอาไหม เอาลายอะไร มีลายนี้ๆ นะ เขาจะเข้าใจในสิ่งที่ปาล์มคิดหรือพยายามอธิบาย เช่น ไปเที่ยวฟินแลนด์กัน ปาล์มจำรายละเอียดอื่นๆ ไม่ได้ แต่ปาล์มจำตึกสีแดงได้ เขาจะอธิบายว่าตรงที่มีตึกสีแดงไง ปาล์มจึงจำได้ ซึ่งความเข้าใจกันต้องอาศัยประสบการณ์ ทำให้ปาล์มรู้สึกว่าเขาใส่ใจ

สิ่งที่ประทับใจในตัวโน้ตคือ เขาสม่ำเสมอในความที่เขารู้ว่าเขาไม่ใช่คนร่ำรวย แต่เขามีความมุ่งมั่นและพยายาม อยากทำให้ตัวเองมีชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อสร้างครอบครัวที่ดีตามมาได้ เราดูที่จิตใจเป็นหลัก คุณแม่ก็เคยบอกว่า แฟนปาล์มไม่จำเป็นต้องรวยกว่า เพราะถ้าเรายิ่งหาคนที่รวยกว่า มันยิ่งหายาก แต่ถ้าเราไม่ได้สเปกกลุ่มเป้าหมาย (หัวเราะ) ของเราจะได้ไม่แคบ คือเราไม่ได้มองเรื่องรวยจน แต่ต้องเป็นคนดี รักเรารักครอบครัวเป็นหลักก็พอ”

แต่งงานกันมาครบ 1 ปี การใช้ชีวิตคู่เป็นเรื่องที่ยากหรือไม่ ชมพลอยบอกว่าสำหรับเธอเป็นเรื่องไม่ยาก ในทางกลับกันสามีจะยากมากกว่า เพราะเขาต้องย้ายมาอยู่กับครอบครัวของฝ่ายหญิง

“คุณแม่บอกปาล์มเสมอว่า ถ้าแต่งงานสามีต้องมาอยู่กับเรา จะได้อยู่ในสายตา เพราะแม่ยังเป็นห่วงอยู่ ปาล์มเชื่อว่าโน้ตเป็นคนดี คงไม่หนีเที่ยวหรือทำร้ายเรา แต่เราจะแบ่งวันไปอยู่ที่บ้านสามีบ้าง ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ของโน้ตน่ารัก ท่านเข้าใจ ทำให้การตัดสินใจของโน้ตที่มาอยู่บ้านภรรยาไม่ยาก เพราะบ้านเรากับบ้านเขาใกล้กันมาก บ้านปาล์มอยู่เหม่งจ๋าย บ้านโน้ตอยู่พระราม 9 คือโน้ตสามารถวิ่งออกกำลังกายแล้ววิ่งไปบ้านเขาได้อย่างสบาย”

สิ่งที่ปาล์มเป็นห่วงในตัวสามีคือ อยากให้สามีมีหน้าที่การงานที่มั่นคง และทำงานอย่างมีความสุข ส่วนตัวเธอจะคอยสนับสนุนให้สามีมีความมั่นคงก้าวหน้า

“ทำงานปาล์มมีเครียดบ้าง แต่ถ้าเครียดปาล์มชอบไปฝึกโยคะ เพราะปาล์มชอบคิดเรื่องงานตลอดเวลา ทั้งงานช่วยโรงเรียนและบริหารธุรกิจอาหาร ตอนนี้ปาล์มมีหลายโปรเจกต์ที่ต้องทำให้หัวสมองคิดตลอด ถ้าสามีรู้ว่าปาล์มเครียดเขาจะชวนไปหาอะไรกิน หรือชวนไปเที่ยว เขาชอบวางแผนท่องเที่ยว ปาล์มก็ชอบท่องเที่ยว แต่ไม่มีใครช่วยวางแผน พอมีเขา เขาช่วยวางแผนให้หมด เราก็ตามอย่างเดียว

พอมีสามีรู้สึกว่าดีตรงเรามีเพื่อนที่คอยให้คำปรึกษา ทำให้เราได้ทำกิจกรรมอื่นๆ ที่เราไม่กล้าทำคนเดียว เช่น ไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียว ซึ่งแต่ก่อนการวางแผนทริปเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ตอนนี้ปาล์มได้สามีเป็นคนวางแผน ไปไหนเราก็ไปกันได้ทุกที่ ซึ่งดีมากๆ ค่ะ”

‘แฮปปี้ไวฟ์ แฮปปี้ไลฟ์’

รักกันมั่นคง ชมพลอย หลีระพันธ์+ธนวรรธ ดำเนินทอง

...ธนวรรธ ดำเนินทอง

ชีวิตการแต่งงานของโน้ตกับภรรยาเป็นเรื่องที่ปรับตัวเข้ากันได้ง่ายมาก โน้ตเล่า เพราะเวลาที่ได้อยู่ที่บ้านน้อยมาก ตอนเช้าก็ต้องรีบออกไปทำงาน แต่ตอนเย็นพยายามจะกินข้าวด้วยกันให้บ่อยขึ้น

“มีเพื่อนคนหนึ่งที่เขาแต่งงานก่อนผม เขาแนะนำว่าให้ตามใจภรรยา ให้ใส่ใจในสิ่งที่ภรรยาชอบ แม้เขาไม่ค่อยใส่ใจสามี แต่อย่างไรสามีต้องใส่ใจภรรยา เพราะแฮปปี้ไวฟ์ คือแฮปปี้ไลฟ์ ซึ่งผมทำมาตลอด (ยิ้ม) ถ้าถามว่าภรรยาของผมเป็นคนแบบไหน ตอบว่าเขาเป็นคนแมนๆ เป็นผู้หญิงที่ฟังก์ชันนัลมาก ที่บอกว่าแมน คือเขาไม่เรื่องมากและเป็นผู้หญิงไม่เยอะ ตรงไปตรงมา

สิ่งที่เขาพูดก็ตรงกับใจเขา ซึ่งดีมากๆ คือปาล์มเรียกว่านิสัยเกือบทอมเลย (ยิ้ม) ผมชอบผู้หญิงที่ตรงไปตรงมา ผมค่อนข้างให้ความสำคัญกับการไว้ใจ มีการสื่อสารที่ดี มีความเข้าใจ เชื่อใจกัน มันเป็นเบสิกของรีเลชั่นชิปที่ดี แต่เราไม่โรแมนติกทั้งคู่ มีเขียนการ์ดให้วันสำคัญๆ บ้าง เช่น วันเกิดผม ปาล์มมีเขียนการ์ดอวยพรวันเกิดบ้าง หรือครบรอบ 1 ปีของการแต่งงานก็มีเตือนกันบ้างว่าเราควรนัดกันไปกินข้าวกันนะ ปาล์มจะมีซื้อของมาเซอร์ไพรส์บ้าง เช่น ซื้อนาฬิกาการ์มินให้เพราะรู้ว่าผมชอบวิ่ง

ปาล์มเป็นผู้หญิงที่เมื่อผมฝากใจให้เขาแล้ว ผมก็เชื่อใจเขา เราเป็นคู่ที่เปิดเผยมาก เรารู้พาสเวิร์ดเข้าโทรศัพท์มือถือของกันและกัน เป็นมาตั้งแต่เริ่มคบกันแล้ว คือพอผมซื้อโทรศัพท์มือถือผมก็เอานิ้วของปาล์มไปสแกนเครื่องผม ปาล์มก็ทำเหมือนกัน คือเราไม่มีอะไรต้องแอบ”

สำหรับในอนาคตเรื่องการมีทายาทนั้น ต้องอาศัยการพูดคุยกัน เพราะธนวรรธอยากเป็นคุณพ่อที่มีเวลาดูแลทั้งลูกและภรรยาอย่างเต็มที่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

“ผมเห็นสังคมโดยรอบเวลามีลูกชีวิตจะเปลี่ยน ซึ่งผมคุยกับปาล์มเสมอว่า หากเราจะมีลูกปาล์มต้องแบ่งเวลานะ เราต้องให้เวลากับลูกด้วย เราอยากมั่นใจว่า ถ้ามีลูกแล้วเราต้องมีเวลาให้ลูก ถือเป็นสิ่งสำคัญ คือการให้เวลากับลูก ซึ่งไม่แตกต่างจากสิ่งที่ครอบครัวปาล์มเป็นคือ คุณพ่อมีเวลาให้ครอบครัว ซึ่งผมก็อยากทำอย่างนั้นให้ได้”

อย่างไรก็ดี สิ่งที่สามีเป็นห่วงในตัวสาวปาล์มคือ อยากให้ภรรยาประสบความสำเร็จในการสานต่อธุรกิจพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าอย่างที่เขาหวังไว้ในฐานะทายาทรุ่นที่ 2 ต้องดูแลให้ธุรกิจพัฒนาไปมากกว่ารุ่นที่คุณพ่อคุณแม่ได้ทำมา

“เราคุยเรื่องงานกันตลอด ผมรู้ว่างานเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา ผมอยากให้เขาประสบความสำเร็จในการทำงานอย่างที่เขาหวังและตั้งใจครับ”

ข่าวล่าสุด

โปรแกรมบอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด ผลบอลสด วันอังคารที่ 23 ธ.ค. 68