11พ.ย.2411 วันที่ ร.5 เสด็จขึ้นครองราชย์
เราตั้งใจอธิษฐานว่า เราจะกระทำการเต็มกำลังอย่างที่สุดที่จะให้กรุงสยามเป็นประเทศอันหนึ่ง
โดย สมาน สุดโต
“เราตั้งใจอธิษฐานว่า เราจะกระทำการเต็มกำลังอย่างที่สุดที่จะให้กรุงสยามเป็นประเทศอันหนึ่ง ซึ่งมีอิสรภาพและความเจริญ”
ข้างบนนี้คือพระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งหนังสือชุดตามรอยพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรป เรียบเรียงโดย พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ อัญเชิญมา เพื่อเล่าถึงพระราชอุตสาหะและพระราชกรณียกิจที่จะนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่สยาม
ทั้งนี้ ต้องย้อนไปที่พระบรมชนกนาถ รัชกาลที่ 4 ทรงมีพระเนตรยาวไกล ที่จ้างแหม่มแอนนา เลียวโนเวนส์ ชาวอังกฤษ จากเมืองสิงคโปร์ มาถวายพระอักษรภาษาอังกฤษแด่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ และพระราชโอรสพระราชธิดาองค์อื่นๆ โดยหวังให้ภาษาอังกฤษเป็นประตูเข้าสู่วิชาการต่างๆ เพื่อพัฒนาประเทศต่อไป
นอกจากนั้น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ได้ทรงศึกษาภาษาอังกฤษกับ จันดะเล หมอสอนศาสนา ชาวอเมริกัน และแพตเตอร์สัน ชาวอังกฤษ จึงทรงสนพระทัยและปรารถนาที่จะทอดพระเนตรบ้านเมืองของชาวต่างประเทศมากขึ้น
วันที่ 11 พ.ย. 2411 เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระเจ้าแผ่นดินแห่งกรุงสยาม แต่ยังทรงพระเยาว์ เจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) สมุหกลาโหม จึงเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ทั้งนี้จนกว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงบรรลุพระราชนิติภาวะ 20 พรรษา ช่วงนี้จึงเสด็จประพาสต่างประเทศ ทอดพระเนตรกิจการบ้านเมืองและขนบธรรมเนียมต่างๆ เพื่อจะได้เรียนรู้วัฒนธรรม และรูปแบบวิธีการปกครองเพื่อนำมาใช้ในสยามต่อไป
ประเทศแรกที่เสด็จขณะทรงพระเยาว์ คือเมืองสิงคโปร์ ขณะนั้นอยู่ในการปกครองของอังกฤษ
ต่อมาพระองค์ได้มีหมายกำหนดการเสด็จประพาสต่างประเทศอีกหลายครั้ง ดังนี้
1.วันที่ 9 มี.ค. 2413 เสด็จประพาสเมืองสิงคโปร์และเมืองปัตตาเวีย (ชวา) เสด็จกลับวันที่ 15 เม.ย. 2414 รวมเวลา 37 วัน (นับวันที่ 1 เม.ย. เป็นปีใหม่)
2.วันที่ 18 ธ.ค. 2415 เสด็จประพาสประเทศอินเดียและพม่า เสด็จกลับวันที่ 15 มี.ค. 2415 รวมเวลา 3 เดือน และทรงแวะสิงคโปร์ ปีนัง และย่างกุ้ง ด้วย
3.วันที่ 9 พ.ค. 2439 เสด็จประพาสสิงคโปร์และชวา ครั้งที่ 2 เพื่อส่งพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าชายจักรพงษ์ภูวนาถ ไปศึกษาที่ประเทศรัสเซีย จากนั้นได้เสด็จประพาสชวา เพื่อทรงพักฟื้นพระวรกายที่ทรงประชวรด้วยพระโรคภูมิแพ้เสด็จกลับพระนครวันที่ 28 ส.ค. 2439 รวมเวลา 98 วัน
4.วันที่ 7 เม.ย. 2440 เสด็จประพาสยุโรปครั้งแรก โดยเสด็จไปยัง เอเดน สุเอซ อิสไมล์เลีย พอร์ตซาอิด เวนิส อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ เจนีวา เซนมิเตอร์ โรม ออสเตรีย รัสเซีย เดนมาร์ก เบลเยียม เยอรมนี ฮอลแลนด์ สเปน โปรตุเกส มอนติคาร์โล เนเปิลส์ อียิปต์ เสด็จกลับถึงพระนครวันที่ 16 ธ.ค. 2440 รวมเวลา 8 เดือน 9 วัน
5.วันที่ 23 มิ.ย. 2441 เสด็จประพาสแหลมมลายู เสด็จกลับวันที่ 13 ก.ค. 2441
6.วันที่ 18 พ.ค. 2443 เสด็จประพาสแหลมมลายู เสด็จกลับวันที่ 2 มิ.ย. 2443
7.วันที่ 5 พ.ค. 2444 เสด็จประพาสชวาโดยเรือพระที่นั่งมหาจักรี เสด็จกลับวันที่ 24 ก.ค. 2444 เป็นเวลา 80 วัน เพื่อทรงพักฟื้นพระวรกายเช่นคราวที่แล้ว และเพื่อให้เสนาบดี พระเจ้าลูกยาเธอที่ทรงมีภาระหน้าที่ในกิจการของอาณาจักรได้ทรงมีโอกาสดูงานและศึกษาแบบอย่างของเมืองชวา
8.วันที่ 20 ก.พ. 2444 เสด็จประพาสสิงคโปร์เพื่อส่งพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าชายบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิตไปศึกษาต่อต่างประเทศ แล้วพระองค์เสด็จประพาสเลียบหัวเมืองชายทะเล เสด็จกลับวันที่ 2 มี.ค. 2444 รวมเวลา 12 วัน
9.วันที่ 27 มี.ค. 2449 เสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2 เสด็จกลับถึงพระนครวันที่ 17 พ.ย. 2450 รวมเวลา 264 วัน
ในการเสด็จประพาสต่างประเทศทุกครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงมีพระราชหัตถเลขาถึงสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินี (สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ) สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้านิภานภดล และพระเจ้าน้องยาเธอที่พระองค์ทรงไว้วางพระราชหฤทัยอีกหลายท่าน เช่น พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงดำรงราชานุภาพ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสมมตอมรพันธุ์ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนสรรพสาตรศุภกิจ เป็นต้น
เรื่องราวการเสด็จประพาสต่างประเทศของพระองค์นั้น มีให้ศึกษาจากแหล่งข้อมูลจำนวนมากทั้งจากพระราชหัตถเลขา พระราชโทรเลข บันทึกเส้นทางเสด็จประพาส โดยผู้ตามเสด็จเช่นจดหมายเหตุเสด็จประพาสยุโรป โดย พระยาศรีสหเทพ (เส็ง วิริยศิริ) เป็นต้น
หนังสือหนา 384 หน้า เต็มไปด้วยพระบรมฉายาลักษณ์ และภาพถ่ายอื่น พร้อมทั้งภาคผนวก จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ Good Morning พ.ศ. 2549


