posttoday

เรียนรู้เพื่อสืบทอด ผ้ามัดย้อมครามแห่งเต่างอย

21 ตุลาคม 2561

สกลนครนั้นมีภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดกันมา

โดย ทีมข่าวภูมิภาคโพสต์ทูเดย์ 

สกลนครนั้นมีภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดกันมา นั่นคือการย้อมผ้าจากสีธรรมชาติที่ได้มาจากต้นคราม ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระกระแสรับสั่งต่อ สุชญา พรหมดา ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเต่างอยพัฒนศึกษา อ.เต่างอย จ.สกลนคร ระหว่างพานักเรียนเข้าร่วมงานชุมนุมยุวเกษตรระดับประเทศ เมื่อเดือน มิ.ย. 2560 ที่ผ่านมาว่า เด็กๆ ที่เต่างอย ควรจะย้อมผ้าจากต้นครามเป็น ทำผ้ามัดย้อมเป็น ทำผ้ามัดหมี่เป็น

พระกระแสรับสั่งดังกล่าวเป็นโจทย์ที่สุชญากลับมาหาแนวทางทำตามรับสั่ง ซึ่งก็ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 3 (เต่างอย) นำวิทยากรท้องถิ่น ปราชญ์ นิยมค้า หรือที่รู้จักกันในนาม Mann Craft ศิลปินแห่งคราม ผู้สร้างสรรค์ศิลปะบนผืนผ้าชื่อดังของ จ.สกลนคร มาให้คำแนะนำ

“พอได้ทดลองและได้ทำแล้ว รู้สึกว่ามันไม่ได้ยากอย่างที่คิด เด็กๆ พากันให้ความสนใจที่จะเข้ามาขอร่วมกลุ่มทำผ้ามัดย้อม ผ้าย้อมครามกันเป็นจำนวนมาก เด็กๆ ทุกคนตั้งใจทำ และมีความสนุกสนาน ซึ่งแสดงว่าเด็กๆ เขาชอบ รักที่จะทำ”

เรียนรู้เพื่อสืบทอด ผ้ามัดย้อมครามแห่งเต่างอย

จากการเริ่มก่อตั้งกลุ่มกันมาเมื่อประมาณกลางเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้มีเด็กๆ สนใจเข้ามาเป็นสมาชิกจำนวนมากเกือบ 40 คนแล้ว และได้มีการวางแผนขยายเครือข่ายออกไปอีก

นภาพร งอยผาลา หรือ น้ำตาล นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนเต่างอยพัฒนศึกษา ประธานกลุ่มยุวชนเกษตรกรโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 3 เต่างอยพัฒนศึกษา บอกว่า เดิมกิจกรรมของกลุ่มจะทำการอนุรักษ์พันธุ์ข้าวและพืชผักผลไม้ต่างๆ และได้เพิ่มกิจกรรมการทำผ้าย้อมสีธรรมชาติจากต้นครามเข้ามา โดยมีจุดประสงค์ที่จะรวมกันอนุรักษ์ภูมิปัญญาการทอผ้าครามย้อมคราม ในกลุ่มของยุวเกษตรกรโรงงานหลวงที่ 3 นั้นจะเริ่มกันตั้งแต่ปลูกต้นคราม เก็บเกี่ยวคราม เข้าสู่กระบวนการหมักคราม ก่อหม้อคราม และย้อมคราม

“การทำผ้ามัดย้อมครามของเราซึ่งทำแบบสมัยโบราณนั้น ในแต่ละครั้งที่ทำลายผ้าออกมาถึงแม้ว่าจะทำการมัดย้อมในรูปแบบเดียวกัน แต่เมื่อแกะลายออกมาแล้วส่วนใหญ่ลวดลายก็จะไม่เคยเหมือนกันสักครั้งเดียว เพราะเป็นการทำมัดย้อมด้วยมือไม่ได้ใช้เครื่องจักรพิมพ์ลาย”

เรียนรู้เพื่อสืบทอด ผ้ามัดย้อมครามแห่งเต่างอย

น้ำตาล บอกว่า สำหรับงานฝีมือภูมิปัญญาผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติจากต้นครามนี้ เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านที่อยากให้ทุกคนช่วยกันอนุรักษ์ ไม่อยากให้สูญหายไป โดยกลุ่มเยาวชนที่เข้ามาทำผ้าย้อมครามส่วนใหญ่จะได้แรงบันดาลใจที่เห็นผู้หลักผู้ใหญ่ คนเฒ่าคนแก่ในชุมชนทำผ้าย้อมครามกันมาอย่างต่อเนื่อง จึงอยากที่จะสืบสานภูมิปัญญาให้อยู่ต่อไปอีกนานเท่านาน ซึ่งโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 3 (เต่างอย) เข้ามาช่วยส่งเสริมและเป็นแรงผลักดันอีกทางหนึ่งด้วย

จักรพงศ์ กงแก่นทา หรือ น้องอ๊อด บอกว่า กลุ่มของพวกเขาไม่ใช่แค่กลุ่มยุวชนเกษตรกรเท่านั้น แต่ยังเป็นกลุ่มยุวชนมัคคุเทศก์อีกด้วย โดยจะทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่น นำนักท่องเที่ยวไปรู้จักกับสถานที่ต่างๆ ทั้งเรื่องราวของโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 3 เรื่องราวของภูมิปัญญาท้องถิ่นที่พวกเขาเรียนรู้มาและถ่ายทอดต่อ

ขณะที่ นฤดล กุลสอนนานกร หรือ น้องการ์ฟิลด์ หนึ่งในสมาชิกกลุ่มย้อมผ้าครามของโรงเรียนเต่างอยพัฒนศึกษา บอกว่า การที่ได้เข้ามาอยู่ในกลุ่มสมาชิกยุวชนเกษตรกรโรงงานหลวง และได้เข้ามาศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องของการทำผ้าย้อมครามนั้นทำให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดในการเรียนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังทำให้ได้รู้ซึ้งถึงภูมิปัญญาการย้อมผ้าครามจากพืชครามซึ่งเป็นพืชในธรรมชาติที่มีอยู่มากในพื้นที่ ทำให้ได้รู้ว่าภูมิปัญญาพื้นบ้านที่ย้อมผ้าจากสีธรรมชาตินั้นเขาทำกันอย่างไร มีขั้นตอนอย่างไร ทำอย่างไรถึงจะสีติดดี มีวิธีการปลูกและเก็บเกี่ยวครามอย่างไร

เรียนรู้เพื่อสืบทอด ผ้ามัดย้อมครามแห่งเต่างอย

“รู้สึกถึงความภาคภูมิใจของคนรุ่นปู่ย่าตายาย รุ่นบรรพบุรุษที่สร้างสมภูมิปัญญาดังกล่าวเอาไว้ให้ลูกหลานได้มีผ้าย้อมครามที่เป็นสีจากพืชจากธรรมชาติ ไม่ใช่สีเคมีและเมื่อสวมใส่แล้วยังดีต่อสุขภาพ ที่สำคัญผ้าย้อมครามยังมีคุณสมบัติในการป้องกันแสงยูวีได้อีกด้วย ซึ่งจะนำความรู้ที่ได้ไปสืบสานให้เยาวชนและน้องๆ รุ่นหลังได้เรียนรู้ต่อไปอีก ทั้งที่บ้านมีพื้นที่ว่างก็เตรียมที่จะทำพื้นที่เพื่อจะปลูกครามเอาไว้ใช้ในการทำผ้ามัดย้อมอีกด้วย”

เด็กๆ โรงเรียนเต่างอยพัฒนศึกษา บอกเล่าถึงประสบการณ์ที่ได้เข้าร่วมกลุ่มเรียนรู้การทำผ้ามัดย้อมจากครามอย่างภาคภูมิใจ

ข่าวล่าสุด

เลิกวนลูป! ส่อง 3 เป้าหมายยอดนิยมที่คนไทยตั้งไว้ทุกต้นปี เป็นจริงได้อย่างไร?