น้ำพริกคางกุ้ง‘ซาด๊ะ’ ความอร่อยและหอมกรอบ 

 

ปัจจุบันกรรมวิธีการแปรรูปอาหารพัฒนาไปมาก เนื่องจากมีเครื่องมือทันสมัยเข้ามาผสมผสานกับภูมิปัญญาพื้นบ้านในแต่ละท้องถิ่น จึงทำให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสที่จะเลือกซื้อหามารับประทานได้อย่างมากมายหลากหลาย 

 

นวนันท์ เบนกุโรโม เจ้าของธุรกิจน้ำพริกคางกุ้ง แบรนด์ “ซาด๊ะ” อีกหนึ่งในสินค้าชื่อดังของ จ.ปทุมธานี บอกถึงจุดเริ่มต้นของการทำผลิตภัณฑ์ “น้ำพริกคั่วคางกุ้ง” ว่า โรงงานกุ้งแช่แข็งต่างๆ นั้นมีคางกุ้งอยู่เป็นจำนวนมาก โดยคางกุ้งนั้นสามารถนำมาทอดให้กรอบ แล้วปรุงแต่งรสชาติให้ออกมาเป็นลักษณะคล้ายกับน้ำพริกที่มีรสชาติสามรส โดยคางกุ้งนั้นถือว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายเนื่องจากมีแคลเซียมสูง และยังอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ

 

“การทดลองทำออกจำหน่ายขายในพื้นที่ใกล้เคียง มีลูกค้าให้ความสนใจสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง จึงได้ทำออกมาเป็นธุรกิจให้กว้างมากยิ่งขึ้น พร้อมกับนำเข้าจดทะเบียนเป็นสินค้า OTOP ซึ่งทำให้เรามีตลาดกว้างขวางมากยิ่งขึ้น เพราะได้ไปออกร้านตามงานแสดงสินค้า OTOP ที่ทางสำนักงานพัฒนาชุมชน และกรมการพัฒนาชุมชน หรือที่ทางอุตสาหกรรมหรือพาณิชย์จัดขึ้น ช่วง 1 ปีเศษที่ผ่านมาเรามีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับได้ทำการตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ Social Network เพจ Facebook ต่างๆ ก็ยิ่งเพิ่มช่องทางการตลาดได้เป็นอย่างดี”

 

 

นวนันท์ บอกว่า กระบวนการผลิตจะนำคางกุ้งล้างทำความสะอาด คัดแยก ก่อนที่จะนำไปทอด แล้วนำไปอบ เพื่อไล่น้ำมันและความชื้นออกให้หมด จากนั้นจึงนำเข้าสู่กระบวนการปรุงให้ออกมาเป็นรสชาติต่างๆ ทั้งใส่น้ำพริกแกงเครื่องเทศและสมุนไพรต่างๆ ตามแต่ละสูตร เมื่อแล้วเสร็จตามกระบวนการและขั้นตอน จึงนำลงบรรจุในแพ็กเกจจิ้งที่เป็นกระปุก ซึ่งมีอายุในการเก็บรักษาได้นานถึง 6 เดือน

 

“ผลิตภัณฑ์น้ำพริกคางกุ้งของเรามีให้เลือกมากถึง 5 รสชาติ คือ น้ำพริกคั่วคางกุ้งรสชาติดั้งเดิม น้ำพริกคางกุ้งกะเพรากรอบ น้ำพริกคางกุ้งรสต้มยำ น้ำพริกคางกุ้งซอสมะขาม และคางกุ้งหม่าล่า ขณะนี้เรากำลังดำเนินการทำออกมาเป็นแพ็กเกจจิ้งใหม่บรรจุอยู่ในซองฟอยล์ ซึ่งจะทำให้สามารถเก็บรักษาได้นานมากกว่าเดิมประมาณ 1 ปี เพื่อความพร้อมและความสะดวกในการส่งออกไปวางขายในพื้นที่ต่างๆ”

 

การต่อยอดผลิตภัณฑ์นั้น นวนันท์ บอกว่า ได้วางแผนต่อยอดผลิตภัณฑ์ออกมาเป็นของว่าง คือ “ข้าวเม่าหมี่คางกุ้ง” นอกจากนี้ก็มีปลาช่อนทะเลฉาบสามรส โดยการนำเอาปลาช่อนทะเลขนาดเล็กมาทอดแล้วนำมาอบจนกรอบ สามารถรับประทานได้ทั้งก้าง แล้วจึงนำมาปรุงให้มีรสชาติออกมาเป็นสามรส คือ เปรี้ยวเค็มหวาน ขณะนี้ได้เริ่มนำออกวางจำหน่ายแล้วซึ่งก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับน้ำพริกคางกุ้ง

 

“การทำผลิตภัณฑ์ของเรานั้น เราจะเน้นคุณภาพเป็นหลัก ซึ่งจะต้องปราศจากน้ำมันและไขมัน เพื่อจะได้มีความกรอบนุ่ม เหมาะกับผู้ที่รักสุขภาพ ซึ่งคางกุ้งนั้นจะอุดมไปด้วยโปรตีน มีแคลเซียมสูง อีกทั้งมีรสชาติเป็นเอกลักษ์ที่ปรุงมาจากสมุนไพรไทยแท้ๆ จึงเกิดความกรอบหอมอร่อย เคี้ยวเพลิน จะกินกับข้าวสวย ข้าวต้ม หรือทานเป็นของว่างก็ได้”