posttoday

ความเคลื่อนไหวของ กรณ์ จาติกวณิช

16 กันยายน 2561

เมื่อเอ่ยถึง กรณ์ จาติกวณิช ผู้คนในสังคมก็จะรู้ว่าเป็นนักการเมืองผู้มีความรู้ความสามารถผู้หนึ่ง ของพรรคประชาธิปัตย์

โดย วิมลพรรณ ปีตธวัชชัย
 
เมื่อเอ่ยถึง กรณ์ จาติกวณิช ผู้คนในสังคมก็จะรู้ว่าเป็นนักการเมืองผู้มีความรู้ความสามารถผู้หนึ่ง ของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเพื่อนนักเรียนอังกฤษที่มีความสนิทสนมกลมเกลียวกับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และมีประสบการณ์ในการบริหารจัดการบริษัทหลักทรัพย์ที่มีชื่อเสียงหลายแห่งมาอย่างโชกโชน กรณ์ จาติกวณิช จึงเป็นนักการเมืองอีกคนหนึ่งที่เป็นความคาดหวังของผู้คนในสังคมว่าจะเป็นนักการเมืองน้ำดีที่อาสาเข้ามาทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและประชาชน
 
กรณ์ จาติกวณิช เกิดเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2507 ที่ Priencess Beatrice Hospital กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นบุตรชายคนที่ 2 ของ ไกรศรี จาติกวณิช อดีตอธิบดีกรมศุลกากร กับ รัมภา จาติกวณิช (สกุลเดิม พรหโมบล) เป็นหลานลุงของ เกษม จาติกวณิช อดีตผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตคนแรกของประเทศไทย เป็นหลานปู่ของ พระยาอธิกรณ์ประกาศ (หลุย จาติกวณิช) อดีตอธิบดีกรมตำรวจ และองคมนตรี ในรัชกาลที่ 7 เป็นหลานตาของ พระยานุเรศบำรุงกิจ (รวย พรหโมบล) อดีตอธิบดีกรมตำรวจเช่นกัน
 
กรณ์ จาติกวณิช จบการศึกษาชั้นต้นจากโรงเรียนสมถวิลราชดำริ และโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน จบการศึกษาระดับมัธยมปลายจากวินเชสเตอร์ คอลเลจ (Winchester College) ประเทศอังกฤษ และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาปรัชญาการเมืองและเศรษฐศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับ 2 มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด (University of Oxford) ประเทศอังกฤษ
 

ความเคลื่อนไหวของ กรณ์ จาติกวณิช

 
เมื่อจบการศึกษาแล้วในปี 2528 เริ่มทำงานในตำแหน่งผู้จัดการกองทุน บริษัท เอส จี วอร์เบิร์ก (S.G. Warburg) ประเทศอังกฤษ กลับประเทศไทยในปี 2531 ได้ร่วมก่อตั้งและเป็นประธาน บริษัทหลักทรัพย์ เจ เอฟ ธนาคม ในวัยเพียง 24 ปี เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เจ เอฟ ธนาคม เมื่ออายุ 28 ปี
 
ในปี 2544 ตัดสินใจขายหุ้น เจ เอฟ ธนาคม ทั้งหมดให้กับ JPMorgan Chase ด้วยตั้งใจจะวางมือจากการบริหารธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ เนื่องจากแผนธุรกิจบรรลุผล ทั้งยังได้ผ่านงานในวงการการเงินและหลักทรัพย์มามากแล้ว จึงตัดสินใจรับข้อเสนอเป็นประธานบริษัท เจพี มอร์แกน ประเทศไทย เข้าทำงานในฐานะผู้บริหารมืออาชีพอย่างเต็มตัว จนถึงปี 2548 ก็ก้าวสู่วงการเมือง เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตามคำชักชวนของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
 
เมื่อเข้าสู่วงการเมือง กรณ์ จาติกวณิช ได้รับเลือกตั้งให้เป็นผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร ของพรรคประชาธิปัตย์ 2 สมัย มีบทบาทในสภาผู้แทนราษฎร ในตำแหน่งรองประธานคณะกรรมาธิการการเงินการคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน ของสภาผู้แทนราษฎร ได้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภาคกรุงเทพมหานครในปี 2551
 
เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้จัดตั้งรัฐบาล ในเดือน ธ.ค. 2551 กรณ์ จาติกวณิช ก็ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แม้จะไม่ปรากฏผลงานที่โดดเด่น แต่ก็ไม่มีเสียงร่ำลือให้เสียหาย
 

ความเคลื่อนไหวของ กรณ์ จาติกวณิช

 
จากนั้นกรณ์ก็ลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไปร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับกลุ่ม กปปส. ของ สุเทพ เทือกสุบรรณ
 
ครั้นเสียงปี่เสียงกลองทางการเมืองเริ่มกระหึ่ม หลังจากห่างหายไปหลายปี กรณ์ก็เริ่มเคลื่อนไหวและสร้างบทบาทในสังคมให้เป็นที่สนใจของผู้คนโดยการอ้างว่าในฐานะประธานนโยบาย ของพรรคประชาธิปัตย์ จะยื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจว่า ปตท.ทำผิดกฎหมาย และทำผิดรัฐธรรมนูญที่ทำธุรกิจแข่งกับเอกชน
 
เพราะ ปตท.ใช้บริษัทลูก GPSC เข้าไปซื้อหุ้น 69% ในบริษัทผลิตไฟฟ้าเอกชนที่ชื่อ GLOW และ  ปตท.ขยายสาขากาแฟอเมซอนไปแข่งกับชาวบ้าน
 
เลยอยากรู้ว่ากรณ์กำลังคิดอะไรอยู่ คนอย่าง กรณ์ จาติกวณิช ต้องไม่โง่พอที่จะไม่รู้อะไรเป็นอะไร แต่เป้าหมายที่กรณ์กำลังจะสร้างเงื่อนขึ้นมาขณะนี้ กรณ์กำลังทำอะไรและทำเพื่อใคร
 
กรณ์ อ้าง พ.ร.บ.การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ทั้งๆ ที่รู้ว่าพระราชบัญญัติการปิโตรเลียมที่ว่านั้นได้สิ้นสุดไปพร้อมกับการจัดตั้งบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และไม่สามารถจะนำ พ.ร.บ.ดังกล่าวนั้นมาบังคับใช้กับบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ได้อีกแล้ว
 
กรณ์เองก็รู้อยู่เต็มอก ว่าการที่ GPSC ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ปตท.เข้าไปซื้อหุ้นในบริษัทผลิตไฟฟ้า GLOW ก็ไม่ได้เป็นเรื่องผูกขาดการผลิตไฟฟ้าเพื่อกันไม่ให้เอกชนอื่นเข้ามาแข่งขันแต่อย่างใด เพราะในปัจจุบันนี้ได้มีบริษัทเอกชนหลายแห่งที่ได้สัมปทานการผลิตไฟฟ้าในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก และเมื่อ
เทียบกำลังการผลิตของแต่บริษัทที่ได้สัมปทานไปแล้วกับกำลังผลิตไฟฟ้าของ GPSC บวกกับ GLOW แล้ว GPSC และ GLOW ยังมีกำลังการผลิตอยู่ในระดับที่ 4 ที่ 5 ของโรงงานผลิตไฟฟ้ารายอื่นๆ อีกหลายแห่ง และ GPSC ก็ไม่ได้ผลิตไฟฟ้าไปขายแข่งกับใครที่ไหน นอกจากนำไปใช้เองในอุตสาหกรรมของ ปตท.ที่มาบตาพุด
 

ความเคลื่อนไหวของ กรณ์ จาติกวณิช

 
กรณ์ จาติกวณิช กล่าวว่า ปตท.นั้นเป็นความหวังของทุกคน สามารถที่จะสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติมากกว่าที่จะมาขายกาแฟแข่งกับชาวบ้าน ก็ต้องขอบอกกับกรณ์ว่า ขณะนี้ร้านกาแฟอเมซอนของ PTTOR ทั่วประเทศนั้นมี 2,260 สาขา มีจำนวน Franchise 1,881 สาขา ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในสถานีบริการน้ำมัน ปตท.ที่มีเอกชนเป็นเจ้าของอีก 379 สาขา เป็นร้านที่ PTTOR ดำเนินการเอง ร้านกาแฟอเมซอนในสถานีบริการน้ำมันทั้งหมดนั้น ไม่เคยไปแข่งขันกับร้านกาแฟของชาวบ้านเลย นอกจากนี้ พนักงานของร้านกาแฟซึ่ง PTTOR กำหนดให้มีพนักงานประจำร้านจำนวน 5 คนนั้น ผู้ประกอบการก็ได้ส่งพนักงานไปฝึกอบรมเป็นผู้ชงกาแฟ (Barista) มืออาชีพ ที่ศูนย์ฝึกอบรมของ PTTOR ที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นการส่งเสริมการจ้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชนไปพร้อมกัน เพราะพนักงานจากร้านกาแฟอเมซอนที่ได้รับการฝึกอบรมเป็น Barista (นักชงกาแฟ) จากศูนย์ฝึกอบรม PTTOR ทุกคนต่างก็ได้รับความรู้และมีความสามารถในการชงกาแฟอย่างถูกวิธีอันจะเป็นความรู้ความสามารถในศาสตร์อีกแขนงหนึ่งที่จะทำเป็นอาชีพที่สร้างงานสร้างรายได้ให้กับผู้ได้รับการฝึกอบรมไปตลอดชีวิต โดยในขณะนี้ PTTOR ได้ฝึกอบรมนักชงกาแฟมืออาชีพ (Barista) ไปแล้วกว่าหมื่นคน
 
นอกจากนี้ กาแฟอเมซอน ของ PTTOR ยังรับซื้อเมล็ดกาแฟภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ โดย PTTOR ก็ได้ร่วมมือกับมูลนิธิโครงการหลวงในโครงการวิจัยและพัฒนาการปลูกและการผลิตกาแฟอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ณ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวนั้นต่อเนื่องมาเป็นระยะที่ 2 แล้ว ในปี 2561
 
ผลของความร่วมมือระหว่าง PTTOR กับมูลนิธิโครงการหลวงทำให้สามารถขจัดปัญหาในการปลูกกาแฟของเกษตรกรในพื้นที่ภาคเหนือได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องการส่งเสริมการปลูกกาแฟร่วมกับป่า ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม สร้างอัตลักษณ์ของสินค้ากาแฟและมาตรฐานของสินค้าในระบบการจัดการแปลงปลูก การเพิ่มประสิทธิภาพการปลูกกาแฟให้ปลอดภัยมีคุณภาพดี ปรับปรุงดูแลสวนกาแฟพันธุ์ดีให้มีรสชาติดี ปรับเปลี่ยนสวนกาแฟเก่าที่ไม่มีคุณภาพดีออกไป ส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรต้นแบบ สนับสนุนให้การผลิตกาแฟได้มาตรฐาน มีการจัดการแปลงกาแฟที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สนับสนุนเกษตรกรให้แปรรูปกาแฟอย่างเหมาะสม ลดความสูญเสียหลังการเก็บเกี่ยว แก้ปัญหาเกษตรกรพื้นที่ที่บุกรุกป่า สนับสนุนให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน สร้างความเข้มแข็ง และให้มีความพร้อมในการผลิตวัตถุดิบ เข้าสู่ระบบธุรกิจการค้าเมล็ดกาแฟคุณภาพ สามารถเพิ่มมูลค่าของสินค้ากาแฟในพื้นที่ผลิตอันจำกัดได้ ทำให้เกษตรกรตระหนักในคุณค่าของผลิตผลกาแฟเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยไม่ทำลายป่า และในปี 2561 นี้ PTTOR ได้รับซื้อกาแฟผ่านวิสาหกิจชุมชน มูลนิธิโครงการหลวงเป็นกาแฟ Arabica จำนวน 2,800 ตัน จากผลผลิตกาแฟในพื้นที่ประมาณ 3 หมื่นไร่ในเชียงใหม่ ลำปาง แม่ฮ่องสอน ซึ่งสามารถผลิตกาแฟได้ 3,892 ตัน ในปีการผลิต 2559/2560 และ PTTOR ยังซื้อกาแฟ Robusta จำนวน 1,500 ตัน จากกลุ่มเกษตรกรชาวสวนกาแฟทางจังหวัดภาคใต้ด้วย แต่ที่สำคัญคือความร่วมมือระหว่าง ปตท. (PTTOR) กับมูลนิธิโครงการหลวง เพื่อพัฒนาคุณภาพกาแฟไทยที่ทำมานานถึง 6-7 ปีนั้น ได้เสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่เกษตรกรชาวสวนกาแฟกว่า 6,000 ครัวเรือนบนภูดอย และทำให้ผลผลิตกาแฟในจังหวัดภาคเหนือตอนบนมีคุณภาพในระดับมาตรฐานกาแฟโลก ดังจะเห็นได้จากที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ได้ส่งกาแฟไทยไปประกวดในงานกาแฟโลก และได้รับรางวัลในระดับต้นๆ มา 2-3 ปีแล้ว
 
กรณ์ จาติกวณิช ย่อมจะรู้ว่า ในปัจจุบันนี้ สังคมไทยในทุกระดับมีความตื่นตัวในการดื่มกาแฟสูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเมืองปลูกกาแฟ และเป็นเมืองท่องเที่ยว เชียงใหม่จึงมีร้านกาแฟที่อยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยว และบนถนนสายหลักมากถึง 594 ร้าน ไม่รวมร้านกาแฟในตรอกซอกซอยต่างๆ ทั่ว จ.เชียงใหม่ อีก 200-300 ร้าน จนมีคำกล่าวกันว่าเดินไปทุก 500 เมตร ใน จ.เชียงใหม่ ก็จะพบกับร้านกาแฟเป็นระยะๆ เชียงใหม่จึงได้ชื้อว่าเป็นเมืองกาแฟ
 

ความเคลื่อนไหวของ กรณ์ จาติกวณิช

 
ในจำนวนร้านกาแฟกว่าพันร้านใน จ.เชียงใหม่ นั้น ปรากฏว่ามีกาแฟอเมซอนอยู่เพียง 55 ร้าน ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในสถานีบริการน้ำมัน ปตท.กาแฟอเมซอนของ PTTOR จึงไม่ใช่คู่แข่งของร้านกาแฟทั้งหลายในเชียงใหม่ ซึ่งผู้ประกอบการเป็นคนหนุ่มสาวกับผู้ที่หลงใหลดูดดื่มในกลิ่นและรสของกาแฟ ทำให้เชียงใหม่มีโรงคั่วกาแฟถึง 27 แห่ง และมีคนหนุ่มคนสาวเจ้าของร้านกาแฟที่เป็นนักชงกาแฟ (Barista) มืออาชีพในระดับนานาชาติ เช่นนักชงกาแฟที่เคยเข้าประกวดได้รางวัลชนะเลิศของโลกในการชงกาแฟลาเต้อาร์ต บ้างก็เป็นนักชงกาแฟ (Barista) มืออาชีพที่ได้รับการยอมรับให้เข้าไปเป็นกรรมการคัดเลือก Barista ระดับนานาชาติ และยังมีชาวเขาเชื้อสายขมุ ที่ขี่มอเตอร์ไซค์พร้อมหาบกาแฟลงจากบ้านเทพเสด็จ ดอยสะเก็ด มาวางขายกาแฟแบกับดินในตลาดเมืองเชียงใหม่ ที่การชงกาแฟของเขาเป็นที่นิยมชมชอบของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น แล้ววันหนึ่ง ขมุหนุ่มนักชงกาแฟบ้านเทพเสด็จ ดอยสะเก็ด ก็ได้รับเชิญให้นำกาแฟไทยไปชงเผยแพร่ในเทศกาลกาแฟที่ประเทศญี่ปุ่น และเป็นเช่นนี้มาหลายปีแล้ว
 
ความหลากหลายของร้านกาแฟที่มีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องราคาและรสชาติ ทำให้ธุรกิจร้านกาแฟใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นการลงทุนขนาดย่อมมีความคึกคักมีชีวิตชีวา เป็นความรื่นรมย์ของนักดื่มกาแฟ ที่กาแฟอเมซอนของ PTTOR ไม่เคยย่างกรายเข้าไปเป็นคู่แข่ง นอกจากจะปล่อยให้เป็นทางเลือกของคอกาแฟผู้มีรสนิยมที่แตกต่างกันไปเท่านั้น
 
ดังนั้นหาก กรณ์ จาติกวณิช ไม่มีความภาคภูมิใจเหมือนคนไทยคนอื่นๆ ที่ได้เห็นความสำเร็จของสินค้าไทย แบรนด์ไทย ของคนไทย และของประเทศไทย เช่น กาแฟอเมซอนที่กำลังจะก้าวสู่การแข่งขันในตลาดการค้าโลกในอนาคต เพราะขณะนี้กาแฟอเมซอนได้ไปผงาดในกัมพูชาถึง 108 สาขา ในลาว 50 สาขา ในฟิลิปปินส์ 6 สาขา ในเมียนมา 4 สาขา ในญี่ปุ่น 2 สาขา และในโอมาน 1 สาขา โดยมีทีท่าว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั้น
 
กรณ์ จาติกวณิช ก็ไม่ควรกล่าวหาอะไรใครง่ายๆ โดยไม่ศึกษาหาข้อเท็จจริงให้ถ่องแท้เสียก่อน แต่กลับฉวยโอกาสแบบสุกเอาเผากิน สร้างความสับสนให้เกิดขึ้นในสังคม ราวกับนักการเมืองไร้คุณภาพที่ต่ำเตี้ยทางสติปัญญา และล้มละลายทางความเชื่อถือของประชาชน
 
เมื่อเป็นเช่นนี้ อนาคตทางการเมืองในวันข้างหน้า กรณ์ จาติกวณิช จะมีทางที่ไหนเดิน

ข่าวล่าสุด

3 ชาติผนึกกำลังทลาย 'KK Park - ชเวก๊กโก' รังใหญ่ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"