ซ่งฮื้อ ศิลปินหัวโตแห่งท้องน้ำ
ถึงจะว่ายน้ำไม่เร็ว ไม่มีสีสันอะไรเลยเวลาสู้เบ็ด
โดย ปริญญา ผดุงถิ่น
ถึงจะว่ายน้ำไม่เร็ว ไม่มีสีสันอะไรเลยเวลาสู้เบ็ด แต่มุมมองส่วนตัว ผมยกให้ปลาซ่งฮื้อ เป็นปลาเกมน้ำจืดมีเกรด เหนือกว่าพวกปลาสวาย ปลาบึก ปลายี่สกเทศ ฯลฯ
ทั้งนี้ทั้งนั้น วิธีการตกก็เป็นตัวเพิ่มคุณค่าให้กับปลาซ่งด้วย คือ ถ้าตกด้วย “ตะกร้อล่อเหยื่อ” ความเทพในตัวปลาซ่งก็หดหายไป
แต่ถ้าเป็นการตกด้วยทุ่นชิงหลิว เหยื่อเล็กๆเม็ดเดียว ไม่ว่าจะใช้กับคันชิงหลิวเพียวๆ หรือใช้รอกและคัน ที่เรียกว่า “สะปิ๋ว” การได้ปลาซ่งแต่ละตัวขึ้นมา มันช่างทรงคุณค่า ทั้งต่อตัวปลาเอง และตัวนักตกปลา
ปลาซ่ง ปลาซ่งฮื้อ หรือปลาหัวโต มีชื่ออังกฤษ Bighead Carp อยู่ในกลุ่มที่เราเรียกกันรวมๆ ว่า ปลาจีน ส่วนฝรั่งเรียกรวมๆ ว่า Asian Carp
หัวก็โตปากก็กว้าง แต่การหากินของมันมาแนวเดียวกับปลาวาฬที่ใช้แผงฟันบาลีนทั้งหลายคือ ดูดกินแต่แพลงตอน
ถ้าไม่มีการคิดค้นวิธีตกแบบตะกร้อและทุ่นชิงหลิวละก็ การตกปลาซ่งจะเป็นอะไรที่ยากสุดขีด
แม้แต่ใช้ทุ่นชิงหลิว อันตอบสนองไวจัดต่อการดูดการเล็มเหยื่อของปลา ก็ต้องเลือกวิธีการประกอบทุ่นที่เรียกว่า “บาลานซ์” (แปลก ไม่ยักมีศัพท์ไทยๆ หรือจีนต้นแบบซะงั้น) เท่านั้น ถึงจะไวพอต่อความแผ่วเบาในการกินเหยื่อของปลาซ่ง
ปล.ผมเองสมัยบ้าตกปลาอย่างหนัก ก็ตกทุ่นบาลานซ์ไม่เป็น เพิ่งมาลองหัดเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ในช่วงเวลาที่เรียกว่า แขวนคันแล้ว
อยากบอกว่าใครไม่เคยลองตกปลาซ่ง ด้วยทุ่นชิงหลิวแบบบาลานซ์ ควรต้องลองจริงๆ นี่คือสุดยอดวิชาตกปลาของโลก ซึ่งนักตกปลาต้องเพียบพร้อมไปด้วยความตั้งใจ และมีสมาธิ จึงจะทำได้
คือจะปล่อยมุข เฮฮาอะไรกับเพื่อนที่มาตกปลาด้วยกันก็ได้หรอก แต่ตาเหยี่ยวของคุณ จะต้องจับจ้องที่หางทุ่นจิ๋วๆ ตรงผิวน้ำตลอดเวลา แดดร้อนก็หนีเข้ากระท่อมร่มๆ ไม่ได้ ต้องนั่งปักหลักอยู่ขอบบ่อเท่านั้น
การสู้เบ็ดแบบเนิบๆ ของปลาซ่ง โดยมีปากนุ่มๆ เป็นตัวช่วยให้เบ็ดหลุดง่าย การเย่อปลาซ่งจึงเป็นศิลปะที่แตกต่างจากปลาอื่น
เนื่องจากปัจจุบัน นักเขียนรุ่นใหม่นิยมแต่งเติมนิยาย “สามก๊ก” ให้หวือหวาตามใจฉันกันมากมาย ผมขอแจมด้วย คงไม่ผิด
คือที่ “ขงเบ้ง” ไปนั่งตกปลา พลางครุ่นคิดปราบข้าศึกไปได้สำเร็จ 4 จาก 5 ทัพ ทั้งที่ยังไม่ทันได้รบจริงนั้น
ปลาที่ขงเบ้งตกในเวลานั้น ก็คือ ปลาซ่งฮื้อนี่แหละ (คนฉลาดคู่ควรกับปลาตกยาก อิอิ)
หน้าตาบื้อๆ บุคลิกเรียบร้อย แต่ปลาซ่งในโลก กลับมีฐานะเป็นปลาผู้รุกรานตัวฉกาจ แพร่หลายไปยังทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และยุโรป
แม่น้ำ แหล่งน้ำ ที่มีความเย็น หรือมีสภาพคล้ายกับเมืองจีนบ้านเกิด ปลาซ่งจะแพร่พันธุ์ได้ ซึ่งนับว่าโชคดีสำหรับบ้านเรา ปลาซ่งไม่วางไข่ในแหล่งน้ำไทย เพราะไม่ตรงสเปกที่มันต้องการ
ปลาซ่งเป็นปัญหาทางสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงของอเมริกา เพราะมันแพร่พันธุ์ไว โตไว แล้วแย่งดูดกินแพลงตอนอาหารลูกปลาท้องถิ่น จนถึงกับมีการประกาศสงครามกับปลาซ่งและปลาจีนอื่นๆ รวม 4 ชนิด เมื่อปี 2007
ทั้งนี้ ปลาซ่งมักระบาดไปกับคู่แฝดของมัน คือ ปลาลิ่น หรือปลาเล่งฮื้อ (Silver Carp) โดยน้ำหนักสูงสุด ปลาซ่งอยู่ที่ 40 กก. เป็นรองปลาเล่ง ที่หนักได้ถึง 50 กก.
ปลาซ่งปลาเล่งหลุดลงแหล่งน้ำของอเมริกา ด้วยหลายสาเหตุ เช่น การหลุดหนีไประหว่างการขนส่ง เพราะปลาพวกนี้ นิยมส่งถึงลูกค้าแบบปลาเป็น ไม่ใช่ปลาแช่เย็น
บ้างเอาปลาซ่งไปทำ “เหยื่อเป็น” ตกปลาล่าเหยื่อ บ้างก็ปล่อยปลาซ่งให้ช่วยทำหน้าที่กำจัดภาวะน้ำเขียว
มีสารคดีวันล่าปลาจีนในอเมริกา พวกซิ่งเรือเร็วตะบึงไปตามแม่น้ำที่มีพวกมันอาศัยชุกชุม พอปลาจีนโดดลอยขึ้นเหนือน้ำ (ลอยสูงสุดที่ 3 เมตร!) ก็จะใช้ธนูยิงกลางอากาศ ตีด้วยไม้เบสบอล หรือใช้สวิงดักรับ บรรยากาศน่าตื่นตามาก (แต่บางคนก็โดนปลาโดดชนซะกรามหัก)
ปลาใหญ่ที่โดดลอยแผล็วๆ พวกนั้น คือ ปลาลิ่น หรือปลาเล่งฮื้อ ส่วนปลาซ่งโดดไม่เป็น ถ้าจะยิงด้วยธนู ก็ต้องเฝ้ารอปลาซ่งลอยหัวบนผิวน้ำ
หากใช้เบ็ด ฝรั่งบางพื้นที่จะใช้ “เบ็ดนรก” หรือตวัดด้วยเบ็ดสามตาให้ติดตัวปลา (ผมไม่นับเป็นการตกปลาและรังเกียจ)
หากใช้เหยื่อก็ใช้วิธีที่เรียกว่า Suspension Method หรือตะกร้อพร้อมเบ็ดหลายตัว ซึ่งผมฟันธงเลย ฝรั่งลอกไทยชัดๆ 555


