posttoday

ฟาร์มบางสระเก้า ต้นแบบเลี้ยงกุ้งปลอดสาร

25 สิงหาคม 2561

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ ซีพีเอฟเปิดฟาร์มบางสระเก้า อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี

โดย ปิยนุช ผิวเหลือง 

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ ซีพีเอฟเปิดฟาร์มบางสระเก้า อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี แก่สื่อมวลชน ซึ่งเป็นฟาร์มต้นแบบโรงเรือนระบบปิด ป้องกันการติดโรคของกุ้ง โดยที่ไม่ต้องพึ่งสารเคมีและยาปฏิชีวนะ

สำหรับโรงเรือนระบบปิด เป็นรูปแบบการเลี้ยงกุ้งรูปแบบใหม่ จากการศึกษาวิจัยของซีพีเอฟ โดยตัวบ่อจะมีหลังคาป้องกันปัจจัยเสี่ยงภายนอก ไม่ว่าจะเป็นสภาพภูมิอากาศเมื่อมีฝนตก สิ่งแปลกปลอมหรือสารตกค้างสามารถปะปนกับน้ำฝนได้ อีกทั้งป้องกับความเสี่ยงทางอากาศ ที่อาจมาจากลม หรือนก ตลอดจนสามารถรับมือกับความผันผวนทางสภาพภูมิอากาศ และสภาวะโลกร้อน เนื่องจากโรงเรือนระบบปิด มีระบบม่านระบายอากาศที่สามารถรักษาอุณหภูมิในบ่อเลี้ยงให้อยู่ในระหว่าง 28-30 องศาเซลเซียสตลอดเวลา ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการเลี้ยงกุ้ง

นอกจากนี้ ซีพีเอฟ ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้กับโรงเรือนระบบปิด ในการจัดเตรียมน้ำที่ใช้ในการเลี้ยงกุ้ง ที่ต้องผ่านเครื่องกรอง Ultra Filtration (UF) สามารถกรองเชื้อโรคขนาดเล็กออกจากน้ำ โดยไม่ใช้สารเคมี ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคของกุ้งที่มากับน้ำ สำหรับระบบการจัดการน้ำภายในบ่อเลี้ยงกุ้ง เลือกใช้เทคโนโลยีไบโอฟลอค (Biofloc Technology) ซึ่งจะมีการเติมจุลินทรีย์ แต่คัดเลือกสายพันธุ์ที่มีประโยชน์ต่อกุ้ง และปลอดภัยต่อผู้บริโภค สามารถลดการใช้น้ำในการเลี้ยง ช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อม

เปรมศักดิ์ วนัชสุนทร รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ฟาร์มบางสระเก้า เป็นฟาร์มต้นแบบที่พัฒนาต่อเนื่องมาจากฟาร์มร้อยเพชร ครอบคลุมพื้นที่ 600 ไร่ เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2557 มีโรงเรือนเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไมในระบบปิด มีการป้องกันพาหะนำโรคกุ้งทุกชนิดไม่ให้เล็ดลอดเข้าสู่ระบบการเลี้ยงได้ โดยการพัฒนาระบบการเลี้ยงกุ้งในโรงเรือนระบบปิด ควบคู่กับการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย จะทำให้กระบวนการผลิตกุ้งสามารถรองรับความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในอาหารที่ตรวจสอบย้อนกลับได้ ทั้งกระบวนการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้

ทั้งนี้ การลงทุนของฟาร์มเลี้ยงกุ้งระบบปิด มีต้นทุนอยู่ที่ 5 ล้านบาท/ไร่ ในอนาคตซีพีเอฟ วางแผนวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ต้นทุนการลงทุนต่อไร่ต่ำลง และสามารถขยายผลไปยังกลุ่มเกษตรกรรายย่อยได้ ตลอดจนวางแผนประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (ไอโอที) กับการบริหารจัดการระบบฟาร์มเลี้ยงกุ้ง ผ่านระบบเซ็นเซอร์ที่ใช้ในการให้อาหาร การตรวจวัดออกซิเจนในน้ำ เพื่อสั่งการเครื่องตีน้ำ เป็นต้น การนำเทคโนโลยีมาใช้ สามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในฟาร์ม

เปรมศักดิ์ กล่าวว่า จุดเด่นที่สำคัญฟาร์มเลี้ยงกุ้งระบบปิด คือ สามารถเลี้ยงกุ้งได้ตลอดปี และมีผลผลิตที่แน่นอน สำหรับฟาร์มบางสระเก้า มีผลผลิตกุ้งประมาณ 8 ตัน/ไร่/รุ่น ใน 1 ปี ฟาร์มเลี้ยงกุ้งระบบปิดสามารถเลี้ยงกุ้งได้ 3 รุ่น ขณะที่ระยะเวลาการจับกุ้ง แบ่งเป็น 4 รอบ ได้แก่ 1.รอบ 45 วัน ได้กุ้งขนาด 70-80 ตัว ต่อ 1 กิโลกรัม 2.รอบ 75 วัน ได้กุ้งขนาด 50 ตัว ต่อกิโลกรัม 3.รอบ 90 วัน ได้กุ้งขนาด 30 ตัว ต่อกิโลกรัม 4.รอบ 105 วัน ได้กุ้งขนาด 24 ตัว ต่อกิโลกรัม ซึ่งถือว่ามีจำนวนผลผลิตต่อไร่สูงกว่าฟาร์มระบบเปิด ด้วยการควบคุมสภาพแวดล้อมและเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ

“อินเดียเป็นประเทศที่มีกำลังการผลิตกุ้งสูง และส่งออกเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หากเปรียบเทียบราคาการส่งออกของไทยยังสูงกว่าอินเดีย แต่ไทยมีจุดแข็งด้านคุณภาพของกุ้ง โดยซีพีเอฟ ถือว่าเป็นผู้ผลิตพันธุ์กุ้งขาว อันดับที่ 1 ของโลก ที่ผ่านมาซีพีเอฟลงทุนศึกษาวิจัยระบบการเพาะเลี้ยงพันธุ์กุ้งขาวมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาผลผลิตกุ้งให้ได้คุณภาพสูงที่สุด” เปรมศักดิ์ กล่าว

ข่าวล่าสุด

LH Bank ออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก “LHB OPD SAVER”