ร้านอาหารแข่งเดือด ขาใหญ่เปิดแผน 5 ปีบุกหนัก

โดย...จะเรียม สำรวจ

ถือเป็นปีที่มีความคึกคักมากเลยทีเดียวสำหรับธุรกิจร้านอาหาร เพราะตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาแต่ละแบรนด์ต่างลุยเปิดสาขาใหม่กันอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็เร่งศึกษาตลาดเพื่อนำแบรนด์ร้านอาหาร น้องใหม่เข้ามาเปิดให้บริการโดยมุ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงเร็วและเบื่อง่าย

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ปีนี้ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารมีการแข่งขันกันค่อนข้างรุนแรง และเพื่อชิงความได้เปรียบทางธุรกิจ พร้อมกับข่มขวัญคู่แข่งในตลาดทำให้แต่ละบริษัทต่างออกมาประกาศแผนระยะยาว 5 ปี เพื่อประกาศศักยภาพทางธุรกิจ

เริ่มที่บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป หรือซีอาร์จี หลังจาก ณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ออกมาประกาศแผน 5 ปีว่าจะใช้งบลงทุนสูงถึง 1 หมื่นล้านบาท ในการสยายปีกธุรกิจร้านอาหารในเครือทั้ง 11 แบรนด์ ให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย 76 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อก้าวสู่เป้าหมายรายได้ 2.2 หมื่นล้านบาท ในปี 2565 ธุรกิจร้านอาหารในเครือก็ออกมาเปิดเกมรุกเปิดร้านใหม่กันอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะแบรนด์ที่มียอดขายอยู่ในอันดับต้นๆ อย่างเคเอฟซี อานตี้แอนส์ และเปปเปอร์ ลันช์

นงนภัส รำเพย ผู้อำนวยการอาวุโส แบรนด์ อานตี้ แอนส์ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป กล่าวว่า  แผนการดำเนินธุรกิจในอีก 5 ปีนับจากนี้ บริษัทจะให้ความสำคัญกับการขยายสาขาในพื้นที่เมืองรองมากขึ้น เพราะหลังจากทดลองนำร้านอานตี้แอนส์ เข้าไปเปิดให้บริการพบว่า ลูกค้าให้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี โดยทำเลที่บริษัทจะให้ความสนใจเข้าไปเปิดร้านอานตี้แอนส์ คือ ห้างไฮเปอร์มาร์เก็ต สนามบิน และปั๊มน้ำมัน

จากแนวทางดังกล่าวร้านอานตี้แอนส์ มั่นใจว่า ในปี 2565 น่าจะมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 250-300 สาขา และมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท จากสิ้นปีนี้ที่คาดว่าจะปิดจำนวนสาขาได้ที่ 65 สาขา และมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 900 ล้านบาท

เช่นเดียวกับร้านเปปเปอร์ ลันช์ ที่ออกมาประกาศว่าจะขยายสาขาให้ได้ครบ 100 สาขาในอีก 5 ปีนับจากนี้ จากสิ้นปีนี้ที่คาดว่าจะมีสาขาอยู่ที่ 40 สาขา ซึ่งแต่ละปีคาดว่าจะใช้งบลงทุนเฉลี่ยประมาณ 80-100 ล้านบาท

อรวรรณ โกมลพันธ์พร ผู้อำนวยการ อาวุโสแบรนด์เปปเปอร์ ลันช์ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารในปีนี้มีการแข่งขันกันค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากปัจจุบันศูนย์การค้ามีการปรับกลยุทธ์ดึงร้านอาหารชื่อดังจากนอกห้างเข้ามาเปิดให้บริการมากขึ้น ดังนั้นบริษัทจึงต้องมีการปรับกลยุทธ์ ด้วยการสร้างโมเดลร้านให้มีความหลากหลายเพื่อเป็นทางเลือกของผู้บริโภค

ในส่วนของบริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป ก็ออกมาเปิดเกมรุกร้านอาหารในเครือทั้ง 13 แบรนด์อย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยแบรนด์ที่ถือเป็นแม่ทัพในการบุกตลาด คือ ร้านตำมั่ว เนื่องจากนับจากนี้ไปจะให้ความสำคัญกับการขยายร้านในรูปแบบแฟรนไชส์เป็นหลัก

ธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจแบรนด์และแฟรนไชส์ บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้บริษัทจะให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์มากขึ้น โดยโมเดลที่บริษัทให้ความสนใจและอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ คือ คีออสก์ และห้องแถว ซึ่งจากแนวทาง ดังกล่าวคาดว่าสิ้นปี 2562 จะมีร้านแฟรนไชส์ร้านตำมั่วเพิ่มเป็น 195-200 สาขา จากปัจจุบันมี 149 สาขา และในอีก 5 ปีคาดว่าจะมีร้านแฟรนไชส์เพิ่มเป็น 350 สาขา จากจำนวนสาขาทั้งหมด 500 สาขา ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวบริษัทคาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท

ขณะที่เครือมัลลิการ์ อินเตอร์ฟู้ด ก็ออกมาปรับกลยุทธ์การทำตลาดหันรุกตลาดต่างประเทศ หลังจากเจอปัจจัยลบทางด้านกำลังซื้อในประเทศ ส่งผลให้ยอดขายในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งตลาดหลักที่จะให้ความสำคัญในการขยายสาขา คือ ประเทศเพื่อนบ้าน

ชยพล หลีระพันธ์ กรรมการบริหารและผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจองค์กร บริษัท มัลลิการ์ อินเตอร์ฟู้ด กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการขยายร้านเย็นตาโฟเครื่องทรง โดยในส่วนของตลาดในประเทศสิ้นปีนี้คาดว่าจะเปิดสาขาใหม่ได้ครบ 40 สาขา จากปัจจุบันมี 35 สาขา เพื่อผลักดันให้สิ้นปี 2561 นี้ มีรายได้กลับมาเติบโตเป็นบวกอีกครั้ง

ด้านเครือเอส แอนด์ พี ก็ออกมาเปิดเกมรุกให้ความสำคัญกับการพัฒนาร้านอาหารแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างความหลากหลายและเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค

เกษสุดา ไรวา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ บริษัทจะให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจร้านอาหารแบรนด์ใหม่มากขึ้น เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับ ผู้บริโภคและเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ โดยในส่วนของปีนี้บริษัทมีแผนจะใช้งบประมาณ 300 ล้านบาท เปิดตัวร้านอาหารแบรนด์ใหม่ ควบคู่ไปกับการขยายสาขาร้านอาหารแบรนด์เดิม และร้านเบเกอรี่ ซึ่งเบื้องต้นวางแผนไว้ว่าจะเปิดร้านอาหารและเบเกอรี่สาขาใหม่ในประเทศไทยประมาณ 30 สาขา และต่างประเทศอีกประมาณ 4 สาขา