ไต้หวันกับโมเดลเศรษฐกิจร่วม

โดย ธมนวรรณ นิ่มอนงค์ นักศึกษาหลักสูตรเศรษฐศาสตร์การเงิน คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) www.econ.nida.ac.th

สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) หรือเกาะไต้หวัน เป็นหนึ่งในดินแดนภายใต้สาธารณรัฐประชาชนจีน มีประชากรทั้งหมดประมาณ 23 ล้านคน ภาษาส่วนใหญ่ใช้ภาษาจีนกลางในการสื่อสาร เดิมไต้หวันเป็นเกาะที่อยู่ของชนพื้นเมืองที่ถูกถือครองโดยประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 50 ปี (ค.ศ. 1895-1945) ได้มีการวางรากฐานไว้ในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา ด้านการคมนาคม ด้านเศรษฐกิจ ทำให้เศรษฐกิจของไต้หวันเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเปลี่ยนแปลงจากภาคการเกษตรเป็นภาคอุตสาหกรรม และใหญ่เป็นอันดับที่ 14 ของโลก เป็นประเทศอุตสาหกรรมขั้นสูงที่เน้นไปทางการผลิต และมีการส่งออกรถยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย

ในช่วงปีที่ผ่านมา รัฐบาลไต้หวันได้ผลักดัน “นโยบายมุ่งใต้ใหม่ (New Southbound)” ซึ่งเป็นนโยบายที่ได้นำไต้หวันเชื่อมโยงกับกลุ่มประเทศในอาเซียน (เออีซี) กลุ่มเอเชียใต้ และกลุ่มประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ทั้งด้านเศรษฐกิจการค้า เทคโนโลยี และวัฒนธรรมทุกมิติ โดยได้มีการร่วมมือกันแบ่งทรัพยากร บุคลากร และการตลาด อีกทั้งยังสร้างโมเดลความร่วมมือแบบใหม่ คือ “เศรษฐกิจร่วม” เพื่อเสาะหาทิศทางและปรับตัวให้สอดคล้องความผันแปรของสถานการณ์โลกและบูรณาการเศรษฐกิจระดับภูมิภาคในวันข้างหน้า ซึ่งเป้าหมายหลักของเรื่องนี้ คือ การลงลึกในระยะยาว การพัฒนามิติที่หลากหลายมุมมอง และการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันในวงกว้าง

ด้านการเงินและการลงทุน ไต้หวันมีความโดดเด่นทางด้านเศรษฐกิจเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ทำให้เป็นที่จับตามองของนักลงทุนส่วนใหญ่ ซึ่งไต้หวันมีตลาดหลักทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ติด 20 อันดับแรกของโลก หากเรียงจากมูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization) และยังมีผลิตภัณฑ์หลากหลายให้นักลงทุนเลือกสรรในการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น หุ้นสามัญ พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า และยังมีกองทุน ETF (Exchange Traded Fund) ที่หลากหลายมาก ซึ่งไต้หวันก็มีแหล่งให้ความรู้ทางการเงินและการลงทุน คือ Taiwan Stock Museum มีลักษณะเช่นเดียวกับ INVESTORY พิพิธภัณฑ์เรียนรู้การลงทุนของประเทศไทย

ปัจจุบันยังได้มีการร่วมมือกันกับประเทศไทย อย่างเช่น การลงนามบันทึกความร่วมมือกับตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไต้หวัน (Taiwan Futures Exchange : TAIFEX) ตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อมุ่งส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุนของทั้งสองประเทศต่อเนื่อง ผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูลการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ และการส่งเสริมการทำธุรกรรมข้ามตลาด ตลอดจนการอบรมและแลกเปลี่ยนบุคลากร เพื่อขยายโอกาสการลงทุนและความร่วมมือในภาคอุตสาหกรรม เพิ่มทางเลือกให้ผู้ลงทุน และผู้ร่วมตลาดของทั้งสองประเทศ

ด้านการศึกษา ไต้หวันมุ่งเน้นการให้ความรู้กับทรัพยากรมนุษย์เป็นอย่างยิ่ง โดยมีโครงการแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างประเทศ และส่งเสริมบุคลากรในประเทศด้วยการให้ทุนการศึกษากับผู้ที่สนใจในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านภาษา ด้านบริการ ด้านวิชาการ และด้านการเงิน มีสถาบันให้ความรู้ด้านการเงินและการธนาคารโดยเฉพาะอย่าง Taiwan Academy of Banking and Finance ซึ่งมีหลักสูตรที่ทันสมัย ตอบโจทย์ของภาคธุรกิจการเงิน และได้มาตรฐานระดับสากล นอกจากนี้ยังมีขอบเขตการให้บริการระดับนานาชาติ

ด้านการท่องเที่ยว ไต้หวันเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านกิน เที่ยว ช็อป โดยมีอาหารการกินที่อร่อยและหลากหลาย โดยเฉพาะ Street Food ที่ขายในตลาดกลางคืน ซึ่งจะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย ชานมไข่มุก คือ เอกลักษณ์ของไต้หวันที่มีขายไปทั่วโลก นอกจากนี้ไต้หวันยังมีทั้งแหล่งช็อปปิ้งและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น ยอดเขาสูงชันและป่าดิบในสภาพที่สมบูรณ์สวยงามด้วย โดยเฉพาะเทือกเขาที่ทอดตัวอยู่ตรงกลางของเกาะจนแบ่งโซนเมืองของประเทศออกเป็นซ้ายกับขวา เมืองใหญ่ๆ ที่มีชื่อเสียงของไต้หวันจะอยู่ติดทะเลทางตะวันตก เช่น เมืองหลวงไทเป (Taipei) ทางตอนเหนือ และเมืองเกาสง (Kaohsiung) ทางตอนใต้ จึงเห็นได้ว่า ไต้หวันมีแหล่งท่องเที่ยวที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ทั้งความทันสมัย ศิลปวัฒนธรรม ศาสนา สังคม และธรรมชาติ ด้วยค่าครองชีพของไต้หวันที่ถูกกว่าประเทศญี่ปุ่นถึง 3 เท่า อีกทั้งยังมีการคมนาคมที่สะดวกสบาย ผู้คนมีความเป็นระเบียบวินัยเป็นอย่างมาก จึงมีผู้ชื่นชอบที่จะมาเยือนเกาะแห่งนี้

จากการที่ผู้เขียนได้เดินทางไปศึกษาและได้ไปสัมผัสไต้หวันด้วยตนเองนั้น เกาะไต้หวันมีความน่าสนใจในหลากหลายด้าน จึงไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใดผู้คนทั่วโลกถึงมุ่งที่จะเดินทางมายังไต้หวันด้วยวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเพื่อมาท่องเที่ยว ศึกษาต่อ ทำธุรกิจ หรือลงทุนในตลาดทุน จึงทำให้ไต้หวันมีการพัฒนาในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง