posttoday

สมเด็จวัดเกศไชโย พิมพ์ 6 ชั้น อกตัน

29 กรกฎาคม 2561

“เกิดเกษไชโย โตวัดระฆัง สิ้นที่บางขุนพรหม”

โดย อาจารย์ชวินทร์ [email protected]

“เกิดเกษไชโย โตวัดระฆัง สิ้นที่บางขุนพรหม”

คำกล่าวข้างต้นกล่าวถึงประวัติของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ผู้สร้างสมเด็จวัดระฆัง และท่านยังได้สร้างสมเด็จวัดเกศไชโย อันมีเอกลักษณ์ คือ กรอบกระจก อกร่อง หูบายศรี ที่นำมาให้ชมเป็นพิมพ์ 6 ชั้น อกตัน ซึ่งเป็นพิมพ์ที่ได้รับความนิยมรองลงมาจากพิมพ์ 7 ชั้นของวัดเกศไชโย สภาพสวยคมชัดเช่นนี้ปัจจุบันค่านิยมหลักล้านต้นแล้วครับ

ประวัติวัดเกษไชโย (วงการพระมักนิยมใช้คำว่า เกศไชโย) หรือวัดไชโยวรวิหารนั้น มีบันทึกไว้ว่าสร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้ เจ้าพระยารัตนบดินทร์ (รอด กัลยาณมิตร) เป็นแม่กองปฏิสังขรณ์วัดไชโยวรวิหาร พร้อมทำการสร้างหลวงพ่อโตขึ้นใหม่ หลังจากพังทลายลง และพระราชทานพระนามใหม่ว่า พระมหาพุทธพิมพ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปประทับนั่งปางสมาธิมีขนาดหน้าตักกว้าง 8 วา 6 นิ้ว ส่วนความสูงสุดยอดรัศมี 11 วา 1 ศอก 7 นิ้ว

กล่าวได้ว่า พระมหาพุทธพิมพ์ เป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่โตมากในสมัยนั้น และเป็นพระพุทธรูปก่อสร้างด้วยปูน ได้พังทลายลงจากการบูรณะวิหารเพราะต้องกระทุ้งราก ทำให้พบว่ามี “พระสมเด็จวัดเกศไชโยทั้ง 3 พิมพ์ คือ พิมพ์ 7 ชั้น พิมพ์ 6 ชั้นอกตัน พิมพ์ 6 ชั้นอกตลอด บรรจุไว้ภายในองค์หลวงพ่อโตที่พังทลายลงมาด้วย

ทั้งนี้ นอกจากเนื้อหามวลสารแล้ว จุดพิจารณาของพิมพ์ 6 ชั้น อกตัน เพื่อเป็นแนวทางสะสม คือ

- เส้นกรอบกระจก ด้านขวาขององค์พระจะสูงกว่าด้านซ้ายเล็กน้อย

- เส้นซุ้ม ด้านบนตรงกลางจะมีเนื้อหนากว่าทั้งสองข้าง และมีลักษณะโค้งได้รูปสวยงามเหมือนพิมพ์ 7 ชั้น

- สังเกตขอบด้านข้างจะมีรอยขัด และพระเกศมีลักษณะเป็นรูปทรงกรวยเรียวเล็กจรดเส้นซุ้ม

- พระพักตร์ลักษณะเป็นรูปไข่ พระกรรณ ลักษณะเหมือนพระจันทร์เสี้ยว

- เส้นลำองค์พระจะเหมือนรากฟันยาวลงมาจรดมือ และบริเวณลำคอจะมีเส้นขีดเล็กในองค์ที่ติดชัด

- แขนช่วงบนถึงข้อศอก ทั้งสองข้างกางออกก่อนหักมุมตรง (ช่วงกลางแขนฝั่งขวาจะมีเนื้อหนาและโค้งกว่าแขนซ้าย) และช่องว่างของแขนด้านขวาองค์พระจะกว้างกว่าด้านซ้ายอย่างเห็นได้ชัด

- หน้าตักลักษณะคล้ายรูปเรือ และเข่าด้านซ้ายองค์พระจะสูงกว่าด้านขวาเล็กน้อย

- นอกเส้นซุ้มฝั่งซ้ายมือองค์พระ ช่วงล่างตั้งแต่ฐานชั้นที่ 1 ลงมาสังเกตที่นอกเส้นซุ้มจะมีร่องเป็นทางยาว

- เส้นฐาน ทั้งหมด 6 ชั้น และแต่ละชั้นค่อนข้างอวบ ส่วนปลายแหลมเรียวทั้งสองข้าง ช่องว่างระหว่างฐานสม่ำเสมอกัน

- เส้นฐานชั้นล่างสุดยาวเกือบจรดเส้นซุ้ม และในองค์ที่ติดชัดฐานล่างสุดฝั่งซ้ายองค์พระจะส่องเห็นปลายแตกเหมือนหางแซงแซว

- และใต้เส้นซุ้มฝั่งขวาองค์พระล่างสุด ในองค์ที่ติดชัดจะเห็นเส้นแตกเรียวเล็กอ่อนพลิ้ว 1 เส้น

- เนื้อพระสมเด็จวัดเกศไชโย อาจแบ่งได้ 3 ลักษณะ คือ เป็นพระเนื้อนุ่ม เนื้อนุ่มปานกลาง และเนื้อแกร่ง พระเนื้อนุ่มหรือเนื้อจัด มีสีขาวขุ่นอมน้ำตาลเหมือนเนื้อสมเด็จวัดระฆัง ส่วนพระเนื้อนุ่มปานกลาง ส่วนใหญ่สีขาวอมเหลืองเหมือนเนื้อสมเด็จบางขุนพรหม และพระเนื้อแกร่งเป็นพระเนื้อแก่ปูน ผิวแห้งแกร่ง ด้านหลังองค์พระจะมีรอยคล้ายขัดกระดาษทรายและคราบสีเหลืองที่ปรากฏขึ้นมา เกิดจากส่วนผสมมวลสารในองค์พระที่ระเหยออกมาเคลือบไว้จากเวลา 100 กว่าปี

นอกจากสังเกตและศึกษาจากพิมพ์และเนื้อหามวลสารที่จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือแล้ว ยังมีเคล็ดลับการตรวจเช็กจากคำพังเพยโบราณ คือ ขมิ้นกับปูน ย่อมเข้ากันไม่ได้ (ถ้าเป็นปูนใหม่จะมีปฏิกิริยาทางเคมีออกมา) กูรูรุ่นใหญ่ขออนุญาตเอ่ยนามคือ กำนันชูชาติ มากสัมพันธ์ ได้ให้ข้อแนะนำว่า การพิสูจน์พระสมเด็จแท้หรือเก๊ง่ายนิดเดียว โดยสะกิดเนื้อพระหรือพระมีรอยแยกย่นขอบข้างหรือด้านหลังองค์พระ และใช้ขมิ้นผสมน้ำหยดลงไปนิดหนึ่ง ถ้าเนื้อพระไม่เปลี่ยนสีก็คือแท้ (เพราะปูน 100 กว่าปี ผลทางเคมีหมดไปแล้ว) ถ้าเปลี่ยนเป็นสีแดงหรือสีหมากสุกก็แปลว่าพระเก๊ ไม่ทันสมเด็จโตฯ ท่านแน่นอน และ 6 ชั้น อกตัน องค์นี้ก็ผ่านการทดสอบด้วยขมิ้นมาแล้วเช่นกัน

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด ซันเดอร์แลนด์ พบ นิวคาสเซิ่ล พรีเมียร์ลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68