โบ๊เบ๊ชี้ค้าส่งกลาง-ล่างซึมผู้บริโภคระวังใช้จ่าย
ผู้ประกอบการโบ๊เบ๊ ทาวเวอร์ ระบุตลาดเสื้อผ้าแฟชั่นพ่อค้าแม่ค้าปลีกซื้อสินค้าเท่าที่จำเป็น แถมมีแนวโน้มจะซื้อน้อยลง
ผู้ประกอบการโบ๊เบ๊ ทาวเวอร์ ระบุตลาดเสื้อผ้าแฟชั่นพ่อค้าแม่ค้าปลีกซื้อสินค้าเท่าที่จำเป็น แถมมีแนวโน้มจะซื้อน้อยลง
น.ส.ดวงฤดี นนท์ชี พนักงานขายเสื้อผ้าแฟชั่นขายส่งและขายปลีกในโบ๊เบ๊ ทาวเวอร์ เปิดเผยว่า ภาพรวมการซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นในรูปแบบขายส่งให้กับพ่อค้าและแม่ค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ยอดการซื้อสินค้าอยู่ในภาวะทรงตัว และส่วนใหญ่ระมัดระวังการซื้อสินค้าเพื่อเก็บไว้สต๊อก เน้นการซื้อสินค้าแค่พอจำหน่ายและค่อยมาซื้อเพิ่มเติมเมื่อสินค้าใกล้จะหมด
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการโบ๊เบ๊มีช่องทางสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ก เว็บไซต์ เป็นช่องทางทางเลือกใหม่ให้กับพ่อค้าและแม่ค้ามีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น และบริการจัดส่งพัสดุที่มีให้เลือกหลากหลายจัดส่งราว 1-2 วัน ประกอบกับค่าบริการที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับต้นทุนในการเดินทางมาซื้อสินค้าด้วยตนเอง ทำให้ไม่ต้องเสียเวลามาซื้อสินค้าที่ร้าน
ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลังเข้ามาเดือน ก.ค.การซื้อยังอยู่ ในภาวะทรงตัว และมีแนวโน้มว่ายอดการซื้อสินค้าจะลดลงด้วยซ้ำ เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว โดยเฉพาะกำลังการซื้อของกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เนื่องจากเป็นสินค้าที่จำหน่ายอยู่ในโบ๊เบ๊ส่วนมาก ที่สำคัญเสื้อผ้าแฟชั่นมีทั้งของเด็กและผู้ใหญ่ราคาเริ่มต้น 100-180 บาท ในรูปแบบการขายส่ง และเมื่อไปจำหน่ายราคาปลีกไม่ถึง 300 บาท ถือว่าอยู่ในราคาไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับเสื้อผ้าแฟชั่นที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า
นายกิจชัย วณิชชาธรรมกุล เจ้าของร้านเสื้อผ้าแฟชั่นขายส่งและขายปลีกในโบ๊เบ๊ ทาวเวอร์ กล่าวว่า การจำหน่ายเสื้อผ้าอยู่ในภาวะทรงตัว ไม่ได้มียอดขายเพิ่มขึ้น ขณะที่พฤติกรรมลูกค้าที่มาซื้อเสื้อผ้าในราคาขายปลีก ส่วนใหญ่จะซื้อโดยเฉลี่ยไม่เกิน 300-500 บาท/ครั้ง หรือราว 1-2 ตัวเท่านั้น เชื่อว่ายังคงมีพฤติกรรมระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย เพราะเสื้อผ้าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยหรือไม่จำเป็นต้องซื้อและใส่เท่าที่มี หรือจำเป็นต้องซื้อจึงมาซื้อมากกว่า
สำหรับกลยุทธ์ของร้านค้าที่จำหน่ายทั้งแบบส่งและปลีกในขณะนี้ การผลิตจากทางโรงงานจะสั่งในปริมาณที่พอดี ไม่เน้นการสต๊อกสินค้า และดูตามกระแสหรือเทรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กระแสออเจ้า ชุดไทย หรือกระทั่งวันสำคัญของประเทศ อาทิ วันแม่แห่งชาติ 12 ส.ค. ซึ่งประชาชนจะหาเสื้อสีฟ้าที่มีตราสัญลักษณ์มาใส่ วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 66 พรรษา 28 ก.ค. และ 2 เม.ย. วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นต้น


