ฟันยกก๊วนปั่นMILL
ก.ล.ต.ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำผิด 24 ราย ปั่นหุ้น MILL เรียกให้ชำระค่าปรับ 172.14 ล้าน
ก.ล.ต.ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำผิด 24 ราย ปั่นหุ้น MILL เรียกให้ชำระค่าปรับ 172.14 ล้าน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำผิด 24 ราย สร้างราคาหุ้นบริษัท มิลล์คอน สตีล (MILL) โดยเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่งรวม 172.14 ล้านบาท
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ส่งเรื่องให้ ก.ล.ต.ดำเนินการต่อและตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่าในช่วงระหว่างวันที่ 21 มี.ค.-3 มิ.ย. 2557 มีบุคคลรวม 24 ราย สร้างราคาหุ้น MILL ทำให้ราคาหุ้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด มี นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล และ น.ส.ธนิกา ตั้งพูนผลวิวัฒน์ เป็นตัวการหลักในการสร้างราคาหุ้นได้รู้เห็น หรือตกลงกับผู้ร่วมกระทำความผิดอีก 5 ราย ได้แก่ น.ส.พรวดี สมพงษ์ชัยกุล นายเกียรติเกษม นันทพิบูลย์ (นายวรพจน์อำนวยพล นายอมฤต นันทนาวุฒิ และนายพงษ์พัฒน์ รุ่งวานนท์ชัย และผู้สนับสนุนการกระทำผิดอีก 17 ราย นายอำนาจ วงศ์ไพฑูรย์ปิยะ น.ส.ปรีชญา ฑีฆาสุรัตน์ นายอนุพงศ์ คุตติกุล น.ส.ณัฐธยาน์ โชคอุดมนิรันดร์ น.ส.สยุมพร เล็กซิ้มลิ้ม น.ส.ศรีอุบล อินทรอำนวย น.ส.บุญญารัตน์ แสงกาศ น.ส.อำไพ รัตนนาวิน นายอัครินทร์ ธนกิจรุจิโรจน์ น.ส.ธัญญ์นภัส ธนกิจรุจิโรจน์ น.ส.ศรีลออ นันทสุขเกษม น.ส.อวยพรวลี นันทพิบูลย์ นายปฏิภาณ ชาตะเมธีกุล นายเอกพล เตชะมโนรมย์ นายสิทธัตถ์ สิทธิสมาน น.ส.รัตนา มีกลิ่นหอม และ นายสราวุฒิ ลีละศรชัย
นายสิทธิชัยและ น.ส.ธนิกา และผู้ร่วมกระทำความผิดอีก 5 ราย (บุคคลลำดับที่ (3)-(7)) ซื้อขายหุ้น MILL ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเอง รวมทั้งบุคคลและนิติบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในลักษณะอำพรางให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดว่าในช่วงเวลาดังกล่าวมีการซื้อขายหุ้นนั้นเป็นจำนวนมาก และ/หรือราคาหุ้นได้เปลี่ยนแปลงไป และมีการซื้อขายในลักษณะต่อเนื่องกัน ทำให้การซื้อขายหุ้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อชักจูงให้บุคคลทั่วไปเข้าซื้อหรือขายหุ้นดังกล่าว โดยผู้สนับสนุนการกระทำความผิดอีก 17 ราย (บุคคลลำดับที่ (8)-(24)) ได้ยินยอมให้นายสิทธิชัยและ น.ส.ธนิกา ใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และบัญชีเงินฝากธนาคารเพื่อใช้ในการซื้อขายหุ้น MILL ในช่วงเวลาดังกล่าวซึ่งเป็นการกระทำที่ผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์มาตรา 243(1) ประกอบมาตรา 244 และมาตรา 243(2) ซึ่งมีระวางโทษตามมาตรา 296
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับ โดยให้ผู้กระทำความผิดทั้ง 24 ราย ชำระค่าปรับทางแพ่ง ผู้กระทำความผิดทั้งหมดได้ทำบันทึกยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งแล้ว นายสิทธิชัยและ น.ส.ธนิกา ชำระค่าปรับรายละ 81.98 ล้านบาท ผู้ร่วมกระทำความผิด 5 ราย ชำระค่าปรับรายละ 5 แสนบาท และผู้สนับสนุนการกระทำความผิด 17 ราย ชำระค่าปรับรายละ 3.33 แสนบาท รวมเป็นเงินค่าปรับทางแพ่งจำนวน 172.14 ล้านบาท
นอกจากนี้ สั่งห้ามนายสิทธิชัยเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนเวลา 3 ปี มีผลทำให้ผู้กระทำผิดทั้ง 23 ราย ที่เหลือเป็นผู้มีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน


