คลังไฟเขียวฟ้องครูเบี้ยวหนี้

รมว.คลัง ไฟเขียว ลูกหนี้ครูรายไหน ไม่ชำระหนี้ตามกำหนด จะถูกดำเนินการตามกฎหมาย

วิกฤตปัญหาครูเป็นหนี้เป็นปัญหาที่เรื้อรังมานาน มีการเรียกร้องให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ ล่าสุดมีครูกลุ่มมหาสารคามประกาศปฏิญญามหาสารคามเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2561 โดยเรียกร้อง 1.ขอให้รัฐบาลและธนาคารออมสินพักหนี้โครงการสวัสดิการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ทุกโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2561 เป็นต้นไป และ 2.ลูกหนี้ ช.พ.ค. จำนวน 4.5 แสนคน จะยุติการชำระหนี้กับธนาคารออมสินตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2561 เป็นต้นไป

เกิดกระแสต่อต้านในสังคมถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่เป็นหนี้ก็ควรจะต้องจ่าย ในที่สุดแล้วหากลูกหนี้ไม่จ่ายหนี้ตามสัญญา กระทรวงการคลังก็ได้ไฟเขียวให้ธนาคารออมสินดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเร่งที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีให้เสร็จภายในเดือน ส.ค.นี้

อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า กรณีปัญหาหนี้ครูนั้นธนาคารออมสินได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้รับทราบแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาได้ช่วยเหลือไปหลายมาตรการ ดังนั้นหากลูกหนี้ครูรายไหนมีปัญหา ไม่ชำระหนี้ตามกำหนด ก็จะถูกดำเนินการตามกฎหมาย ถึงแม้ว่าคลังจะไม่ต้องการดำเนินการเช่นนี้ เพราะการฟ้องร้องข้าราชการครูจะทำให้ครูเสียสภาพการเป็นข้าราชการ อย่างไรก็ตาม ครูที่ออกมาเรียกร้องส่วนใหญ่เป็นครูที่เกษียณอายุแล้ว จึงไม่น่ากระทบต่อการฟ้องร้องของธนาคารแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ธนาคารออมสินได้รายงานว่า ที่ผ่านมามีมาตรการช่วยเหลือการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับครูที่มีการชำระหนี้ดี ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ย 1-2% ทำให้ภาระการชำระหนี้ต่องวดลดลง รวมถึงปรับโครงสร้างหนี้ให้กับครูที่มีปัญหา ด้วยการพักชำระเงินต้นให้ 3 ปี และลดอัตราดอกเบี้ยให้น้อยลง ตามความสามารถในการผ่อนชำระของครูแล้ว

อภิศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันธนาคารออมสินมีลูกหนี้ครูจำนวน 4.5 แสนราย มีการผ่อนชำระดี 4 แสนราย และมีหนี้ครูที่ไม่สามารถชำระได้ หรือเป็นเอ็นพีแอล 2-3 หมื่นรายเท่านั้น ซึ่งออมสินอยู่ระหว่างการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้อยู่แล้ว สำหรับกลุ่มครูที่ออกมาเรียกร้องอาจจะยังไม่รู้มาตรการช่วยเหลือดังกล่าว ซึ่งออมสินมีหน้าที่ดูแลลูกค้าทุกรายที่มีปัญหาให้สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ตามปกติให้เร็วที่สุด

ด้านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ชี้แจงผลการแก้ไขหนี้สินครูที่ล่าสุดในโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.2-7 มีผู้กู้ 483,587 ราย เป็นเงิน 410,923 ล้านบาท โดยร่วมกับธนาคารออมสินลดดอกเบี้ย 0.5-1% ให้กับครูที่มีวินัยทางการเงินดีไปแล้วกว่า 3.7 แสนราย ตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ครูส่วนใหญ่ 99% มีวินัย มีการผ่อนชำระดี ซึ่งครูที่ระบุว่ามีปัญหาและไม่อยากผ่อนชำระหนี้ มีเพียงไม่ถึง 1% เท่านั้น และเชื่อมั่นด้วยว่าหลังวันที่ 1 ส.ค. ลูกหนี้ครูส่วนใหญ่ยังจะผ่อนชำระหนี้เป็นปกติอยู่

ล่าสุด ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ได้ออกหนังสือเวียน ลงวันที่ 18 ก.ค. 2561 ถึงกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าสำนักงานธนาคารออมสิน เพื่อขอให้เร่งดำเนินการฟ้องคดีกับลูกหนี้สินเชื่อครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก ลูกหนี้ที่ศูนย์ควบคุมและบริหารหนี้เขต ทวงถามหรือบอกเลิกสัญญาเรียบร้อยแล้ว ขอให้ทุกสาขาตรวจสอบคดีและประสานกับศูนย์ควบคุมฯ เพื่อขออนุมัติฟ้องคดีให้ได้ในเดือน ก.ค. 2561 ส่วนลูกหนี้ที่จำเป็นต้องบอกเลิกสัญญาใหม่ ขอให้ทุกสาขาเร่งดำเนินการบอกเลิกสัญญาและฟ้องคดีให้แล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค. 2561

สำหรับลูกหนี้กลุ่มที่สอง ลูกหนี้ที่ศูนย์ควบคุมฯ อยู่ระหว่างทำหนังสือแจ้งให้สาขาธนาคารออมสินบอกกล่าวทวงถาม หรือแจ้งยกเลิกสัญญา ได้ขอให้ออมสินทุกสาขาเร่งกระบวนการฟ้องคดี โดยตรวจสอบเอกสารประกอบการฟ้องคดีให้ครบถ้วน และหากพบว่าศูนย์ควบคุมฯ เจ้าของบัญชียังไม่ได้จัดส่งหนังสือแจ้งเตือนให้ชำระหนี้เงินกู้ของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน ขอให้กรรมการ ผู้จัดการหรือหัวหน้าสำนักงานธนาคารออมสินประสานเพื่อขอรับหนังสือมาประกอบการฟ้องคดี พร้อมกับตรวจสอบภูมิลำเนาของผู้กู้และผู้กู้ร่วม

ทั้งนี้ หากพบว่าผู้กู้และผู้กู้ร่วมมีภูมิลำเนาอยู่ต่างพื้นที่ จนอำนาจสาขาไม่สามารถยื่นฟ้องคดีได้ ให้กรรมการผู้จัดการหรือหัวหน้าสำนักงานธนาคารออมสินเร่งดำเนินการส่งเรื่องคืนศูนย์ควบคุมฯ เจ้าของบัญชี เพื่อส่งให้สำนักงานทนายความในพื้นที่ดำเนินการโดยด่วน  และหลังจากนั้นหากกรรมการผู้จัดการหรือหัวหน้าสำนักงานได้รับเอกสารประกอบการดำเนินคดีครบถ้วนแล้ว ขอให้รีบบอกเลิกสัญญากับผู้กู้และผู้ค้ำประกันให้เสร็จเดือน ก.ค.นี้ หลังจากนั้นให้ประสานกับศูนย์ควบคุมฯ เพื่อขอภาระหนี้และยื่นฟ้องคดีให้ในเดือน ส.ค. 2561