posttoday

ออมด้วย PVD มีแต่ได้

29 พฤษภาคม 2561

อย่างที่กัปตัน ก.ล.ต.ได้บอกไปว่าการ “เก็บก่อนใช้” เป็นวิธีที่สร้างวินัยการออมเพื่อเกษียณที่ดีมาก

อย่างที่กัปตัน ก.ล.ต.ได้บอกไปว่าการ “เก็บก่อนใช้” เป็นวิธีที่สร้างวินัยการออมเพื่อเกษียณที่ดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่ามนุษย์เงินเดือนที่บริษัทมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund : PVD) ถือว่าชนะเลิศ เพราะนอกจากเราจะได้หักเงินเดือนสะสมเป็นเงินออมอัตโนมัติได้สูงสุด 15% ของเงินเดือนและนำไปลงทุนให้งอกเงยโดยบริษัทจัดการลงทุน (บลจ.) ที่เชี่ยวชาญแล้ว ยังได้อะไรพิเศษตอกไข่ใส่ท็อปปิ้ง ฟรุ้งฟริ้งอีกหลายอย่าง
1.ได้เงินสมทบจากนายจ้างฟรีๆ จะมีอะไรดีไปกว่านี้อีก เพราะเมื่อเราออมเงินใน PVD นายจ้างก็จะสมทบเงินให้เราอีกจำนวนหนึ่ง มากน้อยแล้วแต่ข้อกำหนดของแต่ละบริษัท บางที่ไฮโซสุดๆ อาจจะจูงใจด้วยการสมทบเงินให้เท่ากับที่เราออม สมมติเงินเดือน 3 หมื่นบาท ถ้าเราสะสมใน PVD 10% เท่ากับ 3,000 บาท นายจ้างสมทบให้เราอีก 10% คือ 3,000 บาททันที ก็เหมือนเราลงทุนปุ๊บได้เงินเพิ่มปั๊บหนึ่งเท่า คิดง่ายๆ ก็เหมือนได้ผลตอบแทนทันที 100% กันเลย
บางบริษัทอาจจะสมทบให้เป็นเปอร์เซ็นต์ไปเลย 3% บ้าง 5% บ้าง หรือให้เป็นขั้นบันไดตามอายุงานบ้างก็แล้วแต่นโยบายแตกต่างกันไป แต่ก็เป็นเงินที่เราได้มาฟรีๆ ที่นายจ้างใจดีมอบให้เป็นสวัสดิการเพียงแค่เราเริ่มออมเพื่อตัวเองใน PVD ซึ่งสิทธิพิเศษนี้สำหรับสมาชิก PVD เท่านั้น ทั้งนี้ต้องดูว่าต้องทำงานครบกี่ปีเราถึงจะได้เงินส่วนของนายจ้างเต็มจำนวนตามนโยบายของแต่ละบริษัท ซึ่งส่วนใหญ่คือ 5 ปี
2.ยกเว้นภาษีเงินที่ออมเข้า PVD คิดง่ายๆ เงินที่เราหักสะสมเข้า PVD ในแต่ละเดือน เมื่อรวมทั้งปีแล้วส่วนที่ไม่เกิน 5 แสนบาท จะไม่ถูกนำมาคำนวณรายได้เพื่อเสียภาษี (หักลดหย่อนได้ 1 หมื่นบาท ส่วนที่เหลืออีก 4.9 แสนบาท ได้รับยกเว้นภาษี) ซึ่งเมื่อดูจากฐานเงินเดือนมนุษย์เงินเดือนธรรมดาส่วนใหญ่อย่างพวกเรา ต่อให้สะสมเต็มที่ 15% ของเงินเดือนก็ไม่เกิน 5 แสนบาท/ปี อยู่ดี ถือได้ว่าเราหักเงินต่อเดือนเท่าไร ยิ่งประหยัดภาษีเท่านั้น
3.ยกเว้นภาษีผลประโยชน์จากการลงทุนของ PVD โดยทั่วไปไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ย เงินปันผล หรือกำไรจากการขายหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นผลตอบแทนเข้ามาใน PVD จะไม่มีการคิดภาษี เท่ากับว่าเงินที่ลงทุนใน PVD จะได้ผลตอบแทนเต็มเม็ดเต็มหน่วยสำหรับสมาชิกจริงๆ
4.ยกเว้นภาษีเงินที่ได้รับเมื่อออกจากงานหลังอายุ 55 ปี ไม่ว่าจะเป็นเงินสมทบที่นายจ้างให้ทุกเดือน และผลประโยชน์ที่ได้รับทั้งหมดจากการลงทุน สรุปคือเงินที่เราจะได้ทั้งหมดจาก PVD ไม่เสียภาษีสักแดงเดียว แต่เดี๋ยวก่อน!!! การยกเว้นภาษีในข้อนี้ มีเงื่อนไขที่ต้องทำตามอยู่ ซึ่งย่อหน้าต่อไปทำดอกจันตัวโตๆ ลงไฮไลต์ชัดๆ ไว้เลย
เงื่อนไขที่ว่าก็คือต้องลาออกจากงานพร้อมกับนำเงิน PVD ออกมาใช้เมื่อมีอายุ 55 ปีขึ้นไปและเป็นสมาชิก PVD ต่อเนื่องมาไม่น้อยกว่า 5 ปี ดังนั้นใครที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขนี้ก็เสียภาษีกันไปตามระเบียบ ซึ่งการคำนวณภาษีที่ต้องจ่ายก็มีหลายรูปแบบตามเงื่อนไขระยะเวลาการทำงาน อย่างไรลองศึกษารายละเอียดเพิ่มได้ที่ www.ThaiPVD.com
ส่วนใครที่ลาออกจากงานเพราะว่าเปลี่ยนงานก่อนอายุ 55 ปี แล้วไม่อยากเสียภาษี ก็แค่ย้าย PVD ที่เดิมไปต่อที่ใหม่ ถ้าที่ทำงานใหม่ไม่มี PVD หรือลาออกไปเฉยๆ ไม่ได้ทำงานต่อ ก็ให้เลือกคงเงินไว้ใน PVD เดิมก่อนจนกว่าจะเข้าเงื่อนไขเมื่อย่อหน้าก่อน (ปรึกษา บลจ. ที่ดูแล PVD ของท่าน) หรือจะโอนไปลงทุนต่อในกองทุน RMF ก็ได้
สิ่งสำคัญที่จะขอเตือนไว้ตรงนี้เลยก็คือการลาออกจากกอง PVDเพื่อเอาเงินออกมาใช้ไม่ว่ากรณีไหนก็ตามโดยไม่ได้ลาออกจากงาน ต้องเสียภาษีแน่นอนนะจะบอกให้ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือตอนเกษียณจะเอาเงินที่ไหนใช้จ่าย ถ้ามีไม่พอแล้วละก็...สยอง
สุดท้าย กัปตันอยากบอกว่า แม้จะมีสิทธิพิเศษและเงื่อนไขที่ว่ามาทั้งหมดในวันนี้ ก็เป็นเพียงแรงจูงใจในระดับหนึ่งเท่านั้นเอง ถ้าเทียบกับเป้าหมายระยะยาวที่ยิ่งใหญ่และสำคัญกว่า นั่นก็คือการมีเงินเพียงพอสำหรับใช้ในวัยเกษียณอย่างมีคุณภาพไปตลอดชีวิต ซึ่ง PVD ตอบโจทย์นี้ได้อย่างแน่นอน หากเราใส่ใจอย่างจริงจัง เพราะสุดท้ายผลลัพธ์ก็ไม่ใช่เงินของใคร แต่เป็นเงินของเราเองนะครับ
พบกับคอลัมน์ “เกษียณแฮปปี้ PVD ช่วยได้” ทุกวันอังคารสุดท้ายของเดือน หรือติดตามเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ PVD ได้ที่ www.ThaiPVD.com/Facebook : ออมสนุก สุขเกษียณ…สวัสดีครับ

ข่าวล่าสุด

วปอ.68 มอบตาข่ายป้องกันโดรน ทิ้งระเบิด และสิ่งของ ช่วยทหารชายแดนภาค 2