เคาะ4แนวทางดูแลสับปะรดสกัดม็อบบุก
ครม.ไฟเขียวแนวทางแก้ไข ปัญหาราคาสับปะรดตกต่ำ ช่วง พ.ค.-มิ.ย. สกัดม็อบเตรียมบุกกรุงเทพฯ
ครม.ไฟเขียวแนวทางแก้ไข ปัญหาราคาสับปะรดตกต่ำ ช่วง พ.ค.-มิ.ย. สกัดม็อบเตรียมบุกกรุงเทพฯ
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหาราคาสับปะรดตกต่ำ เนื่องจากอีกไม่กี่วันคาดว่าอาจมีม็อบเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดมาร้องเรียน ซึ่งขณะนี้ยอมรับว่าสินค้าเกษตรมีปัญหาเกือบทุกตัว เพราะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีปัญหาราคากุ้งตกต่ำ เพราะปลูกและเลี้ยงกันมากเกินกว่าความต้องการของตลาด
สำหรับแนวทางการบริหารจัดการสับปะรดโรงงานในเดือน พ.ค.-มิ.ย. 2561 ตามที่คณะกรรมการนโยบายและพัฒนา สับปะรดแห่งชาติที่มีนายสมคิด จาตุศรี พิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน นำเสนอประกอบด้วย
1.มาตรการนำ ส่วนเกินออกนอกระบบ โดยให้กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกระจายออกนอกพื้นที่ ซึ่งส่งเสริมการบริโภคในจังหวัดที่ไม่มีการปลูก และให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ประสานปศุสัตว์จังหวัดนำไปทำอาหารหมักเลี้ยงโคเนื้อและโคนม หากต้องใช้ งบประมาณให้กรมปศุสัตว์ทำโครงการเสนอขอใช้งบประมาณจากคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.)
2.ผลักดันส่งออกตลาดต่างประเทศ โดยให้กระทรวงพาณิชย์ทำเอ็มโอยูเพื่อขยายการส่งออกในรูปแบบรัฐต่อรัฐ เป้าหมายคือรัสเซีย อิหร่าน และให้ประสานจัดหาผู้ส่งออกไทยและผู้นำเข้าในต่างประเทศให้เป็นรูปธรรม
4.มาตรการอื่นๆ ให้กรมการค้าภายใน โดยคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) พิจารณาต้นทุนราคากระป๋องบรรจุสับปะรดให้สอดคล้องกับราคาแร่เหล็กที่ลดลง และให้สมาคมอุตสาหกรรมบรรจุสับปะรดกระป๋องรวบรวมประเด็นเสนอต่อกรมสรรพสามิตในการส่งออกน้ำสับปะรดเข้มข้น ซึ่งใช้ในภาคอุตสาหกรรมหาแนวทางแก้ไขต่อไป
อย่างไรก็ตาม ปริมาณผลผลิต สับปะรดในปี 2561 พบว่ามีพื้นที่เก็บเกี่ยวประมาณ 5.3 แสนไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ประมาณ 3.47%