posttoday

ดราม่าเสือกินคน

22 เมษายน 2561

ผลพวงจากการสืบค้นข้อมูลเสือดาวกินคนในอินเดีย เลยทำให้ผมได้เจอของแถมสนุกๆ เรื่องราวดราม่าระดับโลกของเสือกินคนแห่งอุทยานฯ รันธัมบอร์

โดย ปริญญา ผดุงถิ่น

ผลพวงจากการสืบค้นข้อมูลเสือดาวกินคนในอินเดีย เลยทำให้ผมได้เจอของแถมสนุกๆ เรื่องราวดราม่าระดับโลกของเสือกินคนแห่งอุทยานฯ รันธัมบอร์ ที่ชื่อ Ustad เจ้าของรหัส T 24

อุสตาดถูกรัฐบาลอินเดียตัดสินใจย้ายมันออกจากรันธัมบอร์ให้ไปอยู่ในกรงใหญ่ ท่ามกลางเสียงประท้วงคัดค้านระงมไปทั้งโลก ค้านตั้งแต่รู้ข่าวว่าจะมีการจับอุสตาดเพื่อย้ายออก ไปจนถึงเรียกร้องให้ “ปล่อยเสือเข้าป่า” เมื่ออุสตาดต้องสิ้นอิสรภาพไปอยู่ในกรงใหญ่ เมื่อปี 2015

จากที่เคยเป็นเสือตัวผู้ร่างใหญ่ที่ครองอาณาเขต 5,000 เฮกแตร์ ปัจจุบันเดินวนเวียนเป็นเสือติดจั่น ในสวนพฤกษศาสตร์ห่างจากบ้านเกิด 400 กม. ในกรงที่มีเนื้อที่ไม่ถึง 1 เฮกแตร์!

“ช่างภาพสัตว์ป่า” ในเมืองไทย ก็ร่วมวิจารณ์และรณรงค์กับเขาด้วย “ปล่อยอุสตาดๆๆๆ”

เสริมนิดว่า ครั้งที่ผมไปเที่ยวอุทยานฯ รันธัมบอร์หลายปีก่อน ตอนนั้นอุสตาด T 24 ก็เป็น “เสือใหญ่หน้าโหด” ขวัญใจช่างภาพอยู่พอดี ในโซนที่ติดกับพี่น้องของมัน คือ T 25 ที่เคยเป็นข่าวครึกโครมระดับโลกเช่นกัน ในฐานะเสือพ่อพระที่ยอมเลี้ยงลูกน้อยแทนเมียของมันที่ป่วยตาย

สาเหตุที่ทำให้อุสตาดต้องโดนย้ายจากป่า เพราะมันกัดคนตายไป 4 ราย 2 รายแรกเป็นชาวบ้าน 2 รายหลังเป็นพิทักษ์ป่า รายแรกเริ่มขึ้นเมื่อปี 2010 ตามด้วยปี 2012 จำนวน 2 ราย และตบท้ายด้วยปี 2015 อีก 1 ราย

อย่างไรก็ตาม จะเห็นว่าอุสตาดไม่ได้กัดคนแบบฆาตกรต่อเนื่อง เหมือนเสือกินคนตัวเอ้ทั้งหลายของอินเดียในอดีต

แถมการกินคนมีเฉพาะ 2 รายแรก แต่ 2 รายหลัง แค่ฆ่าแต่ไม่ได้กิน!

ทั้งนี้ เสือรันธัมบอร์ที่กัดคนตายจะมีแค่อุสตาดก็หาไม่ เนื่องจากตั้งแต่ปี 1986 เสือรันธัมบอร์เล่นงานคนถึงตายไปรวม 9 ราย (นี่กูไม่เคยรู้เลยนะนี่ ตอนไปเที่ยวที่นั่น ขอรำพึงดังๆ 555)

อุสตาดเองก็สร้างบารมีไว้เยอะ กับเหล่านักท่องเที่ยวและช่างภาพ มันมีนิสัยแปลกอย่างหนึ่ง ชอบลากเหยื่อที่ล่าได้ออกจากป่า มากินบนทางหลวงแบบไม่แคร์สื่อ ใครเจอแบบนี้มีหรือจะไม่ชอบมัน

นอกจากนั้น เวลาปกติทั่วไป นักท่องเที่ยวที่นั่งรถจี๊ป (เรียกว่า Gipsy) ก็สามารถเข้าไปดูอุสตาดได้อย่างใกล้ชิด โดยไม่มีอันตรายใดๆ

จากข้อมูลทั้งหมดที่ว่ามา ไม่แปลกใจที่มีคนมากมายขอยืนข้างอุสตาด อยากให้มันได้เป็นเจ้าป่ารันธัมบอร์ไปตามเดิม จากนักกิจกรรมอินเดียเคลื่อนไหวต่อต้านในประเทศ ได้ลุกลามจนกลายเป็นประเด็นในระดับโลก สำนักข่าวอย่างบีบีซี หรืออัลจาซีราห์ ยังต้องส่งคนมาทำข่าว

รัฐมนตรีคนตัดสินใจตั้งกรรมการผู้เชี่ยวชาญเสือมารวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลกันอย่างถี่ถ้วน ขณะที่ฝ่ายต่อต้านก็พึ่งอำนาจศาลขอให้สั่งระงับ (นึกถึงเมืองไทยครามครัน)

บทสรุปของทางการ ก็คือ ฟันธงว่าอุสตาดเป็นเสือกินคน เหตุผลสนับสนุนมีมากมาย ย้อนไปถึงการสังหารเหยื่อมนุษย์รายแรก อุสตาดลากศพไป 500 เมตร ก่อนกินเนื้อไปบางส่วน

เหยื่อรายที่ 2 โดนลากเข้าป่าไป 100 เมตร แล้วกินเนื้อส่วนใหญ่ เหลือไว้บางส่วน

ส่วนรายที่ 3 กับ 4 ที่ฝ่ายต้านอ้างว่าอุสตาดไม่ได้กินนั้น จริงๆ แล้วเพราะมีเจ้าหน้าที่เฮโลเข้าไปขัดขวาง แย่งศพคืนมาทันท่วงที

ขณะที่เสืออื่นๆ ที่สอยคนตายไปอีก 5 รายที่เหลือ เป็นการพุ่งตะปบด้วยกรงเล็บ ลักษณะของเสือตกใจหรือป้องกันตัว แต่อุสตาดต่างไปอย่างสิ้นเชิง มันเริ่มกัดที่หัวด้านหลัง แล้วกัดคอแบบเดียวกับเวลาฆ่าเหยื่อตามธรรมชาติไม่มีผิด

เหยื่อของอุสตาด 3 ใน 4 ราย เป็นการฆ่านอกพื้นที่อุทยานใกล้กับแหล่งอาศัยของคน ส่วนรายที่ถูกฆ่าในเขตอุทยาน คือรายสุดท้าย ก็เกิดขึ้นริมถนนหลักของอุทยานนั่นเอง

ส่วนที่นักท่องเที่ยวนั่งรถจี๊ปไปดูจ่อๆ ได้ตลอด เพราะคนบนรถจี๊ปในสายตาเสือ ก็คือ “รถ” เป็นหนึ่งเดียวกัน

เหล่าเซียนเสือตัวจริงพากันเซ็ง “เกจิเสือหน้าจอ” ทั่วโลก ซัดกลับว่าเน้นแต่ดราม่า และเสนอข้อมูลคลาดเคลื่อนนู่นนี่นั่น

ผมนึกภาพเล่นๆ นี่ถ้ากรณีอุสตาดเกิดขึ้นในไทย คงจะสนุกยิ่งกว่าตอนจระเข้ภูเก็ตเป็นไหนๆ

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด เชลซี พบ เอฟเวอร์ตัน พรีเมียร์ลีก วันนี้ 13 ธ.ค.68